นักฟุตบอลอาชีพ ซาดิโอ มาเน่ (Sadio Mane) สไตล์การเล่นอนุรักษ์นิยม

นักฟุตบอลอาชีพ ซาดิโอ มาเน่

ซาดีโอ้ มาเน่ (เกิดเมื่อวันที่ 10 เมษายน ปี 1992) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวเซเนกัลที่มีสไตล์การเล่นแบบอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นผู้เล่นในตำแหน่งปีกให้กับทีม ลิเวอร์พูล และทีมชาติเซเนกัล

หลังจากที่ ซาดีโอ้ มาเน่ เริ่มต้นในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้กับทีมเมตซ์ของประเทศฝรั่งเศส ต่อมาเขาได้ย้ายไปยังสโมสรฟุตบอล เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในปี 2012 หลังจากได้รับชัยชนะในศึกออสเตรียบุนเดสลีกาและออสเตรียนคัพในปี 2014 หลังจากนั้นในปี 2015 มาเน่ ได้สร้างสถิติใหม่ให้กับวงการพรีเมียร์ลีกสำหรับการยิงลูกแฮตทริกที่เร็วที่สุด ด้วยการยิงลูกแฮตทริค 3 ครั้งในช่วงเวลาเพียง 176 วินาทีทำให้ทีมเมตซ์เฉือนชนะ แอสตัน วิลล่า 6-1 ประตู

มาเน่ ย้ายไปยังทีม ลิเวอร์พูล ในปี 2016 ด้วยค่าตัวราวๆ 34 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าเขานั้นเป็นนักเตะชาวแอฟริกันที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ณ เวลานั้น ตั้งแต่ มาเน่ เข้าร่วมในทีม ลิเวอร์พูล เขาและทีมก็ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชม เปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ ในปี 2018

ตั้งแต่ มาเน่ เริ่มลงสนามในปี 2012 เขาสร้างรายได้มากมายให้กับทีมเซเนกัลและเขายังเป็นตัวแทนในนามทีมชาติเพื่อลงแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 2012 แอฟริกา คัพ ออฟเนชั่น ในปี 2015, แอฟริกา คัพ ออฟเนชั่น ในปี 2017 และ ฟีฟ่า เวิลด์คัพ ในปี 2018 อีกด้วย

ตำนานของ มาเน่ จากสโมสรช่วงต้น

ตำนานของ มาเน่ จากสโมสรช่วงต้น

มาเน่ เกิดที่เซดเฮียวในประเทศเซเนกัล เขาเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพที่เจนเนอร์เรชั่น ฟุต อคาเดมมี่(AcadémieGénération Foot) และเซเนกัลฟุตบอล อคาเดมมี่ (Senegalese football academy)

เมื่อวันที่ 14 มกราคม ปี 2012 มาเน่ เริ่มเข้าสู่การเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพให้กับทีมเมตซ์ โดยเขาถูกเปลี่ยนตัวให้ลงสนามแทน เควิน ดิแอซ ในนาทีที่ 75 แต่ทีมเมตซ์พ่ายแพ้ในลีกที่สองให้กับ บาสเตีย คาบ้านด้วยสกอร์ 0-1 ประตู ต่อมาวันที่ 4 พฤษภาคม เขาลงสนามในฤดูกาลแรกของลีกในฐานะสมาชิกคนใหม่ซึ่งทีมเมตซ์ พ่ายแพ้ให้กับทีม แก็งก็อง (Guingamp) 2-5 ประตูที่สนามสตาด แซงต์ ซิมโพเรียน

สโมสรฟุตบอล เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ปี 2012 มาเน่ ย้ายไปยังทีมออสเตรียบุนเดสลีกาของกระทิงแดง ซาลซ์บูร์ก โดยคาดว่าเขาน่าจะได้รับค่าตัวราวๆ 4 ล้านยูโร

ในวันที่ 31 ตุลาคม เขายิงลูกแฮตทริกเป็นครั้งแรกให้กับสโมสรและคว้าชัยชนะมาได้ 3-1 ประตู ในรอบที่ 3 ของการแข่งขันฟุตบอลออสเตรียคัพ

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ปี 2013 มาเน่ ได้ทำลูกแฮตทริกครั้งแรกในออสเตรียบุนเดสลีกาซึ่งคว้าชัยชนะมาได้ 3-0 ประตู ในวันที่ 7 พฤษภาคม ปี 2014 เขาทำประตูเพิ่มขึ้นอีกเป็นสามเท่าทำให้สามารถคว้าชัยชนะมาครอง 7–0 ประตู ที่ฮอร์นในรอบรองชนะเลิศ เขาจบฤดูกาลด้วยการพาทีมชนะในประเทศถึง 2 ครั้ง เมื่อปลายเดือนสิงหาคม ปี 2014 มาเน่ ถูกบังคับให้ย้ายออกจากสโมสรโดยไม่ต้องเข้ารับการฝึกซ้อมอีก ซึ่งเกมส์นี้เป็นเกมส์ที่สำคัญที่สุดสำหรับ ซาลซ์บูร์ก ในเวลานั้นเพื่อที่จะได้เข้าสู่รอบแชมเปี้ยนส์ลีกส์

สโมสรฟุตบอล เซาแธมป์ตัน

สโมสรฟุตบอล เซาแธมป์ตัน

ในฤดูกาลปี 2014–2015 เมื่อวันที่ 1 กันยายน ปี 2014 มาเน่ ย้ายมาอยู่กับทีม เซาธ์แธมป์ตัน ด้วยค่าตัวราวๆ 11.8 ล้านปอนด์ โดยเขาเซ็นต์สัญญานาน 4 ปี อีก 22 วันต่อมาเขาลงสนามพร้อมกับเอาชนะ อาร์เซน่อล มาได้ 2-1 ประตู ต่อมาวันที่ 27 กันยายนเขาลงสนามพบกับ ควีนส์ปาร์คเรนเจอร์ และสามารถคว้าชัยชนะมาได้ 2-1 ประตูโดย มาเน่ ได้ช่วยให้ ไรอันเบอร์ทรานด์แรนด์ ซัดลูกแรกเข้าประตูชัยไป และในวันที่ 18 ตุลาคม เขาทำประตูแรกให้กับสโมสรและเอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ มาได้ 8-0 ประตู ในสัปดาห์ต่อมาเขายิงประตูแรกและเป็นประตูเดียวทำให้เอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ มาได้อย่างหวุดหวิด 1-0 ประตู

ในเดือนธันวาคมและมกราคม มาเน่ ยิงลูกได้ 3 นัดติดต่อกันในการแข่งขันกับ คริสตัล พาเลซ, เชลซี และ อาร์เซน่อล เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปี 2015 เขายิงประตูได้และคว้าชัยชนะมาครองด้วยสกอร์ 1-0 ประตูที่สนาม ควีนส์ปาร์คเรนเจอร์ส และลงเล่นในบ้านกับ คริสตัล พาเลซ ในวันที่ 3 มีนาคมตามลำดับ อย่างไรก็ตามเขาถูกลดความสำคัญลงตั้งแต่ได้รับความพ่ายแพ้จากการลงแข่งในบ้านกับ ลิเวอร์พูล 0-2 ประตูเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์เพื่อเป็นการลงโทษที่เขามาสาย

วันที่ 16 พฤษภาคม ในระหว่างการแข่งขันนัดสุดท้ายของฤดูกาลมาเน่ทำประตูถึง 3 ครั้งใน 2 นาที 56 วินาทีพาทีมเฉือนเอาชนะ แอสตัน วิลล่า มาได้ 6-1 ประตู เขาสร้างสถิติใหม่ให้กับพรีเมียร์ลีกสำหรับการยิงลูกแฮตทริกที่เร็วที่สุดในโลกเป็นอันดับ 8 จากสถิติตั้งแต่ปี 1994 ที่เคยเป็นของ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ผู้ที่สามารถทำ 3 ประตูให้กับ อาร์เซน่อล ในระยะเวลาเพียง 4 นาที 33 วินาที มาเน่ จบฤดูกาลด้วยการซัดลูกเข้าประตูชัยทั้งหมด 10 ประตู จาก 32 นัด
ในฤดูกาลปี 2015–2016

มาเน่ เริ่มต้นฤดูกาล 2015–2016 โดยลงเล่นในศึกยูฟ่า ยูโรป้า ลีกครั้งที่ 3 ในรอบคัดเลือกรอบแรกนัดแรกกับ สโมสร วิเทสส์ ในวันที่ 2 ธันวาคม ในรอบรองชนะเลิศของลีกคัพเขาเปิดเกมส์กับ ลิเวอร์พูล โดยใช้เวลาเพียง 39 วินาที แต่ในที่สุดก็แพ้คาบ้าน 6-1 ประตู

ในวันที่ 12 มีนาคมเขาได้รับใบแดงในตอนท้ายของเกมส์แต่สามารถเอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ มาได้ 2-1 ประตู
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ปี 2016 ทีมเขาพบกับ ลิเวอร์พูล และเฉือนชนะมาได้ 3-2 ประตู เขาจบฤดูกาลด้วยการทำประตูสูงสุดให้กับ เซาแธมป์ตัน 15 ประตูในทุกการแข่งขัน

ตำนาน ลิเวอร์พูล ของ มาเน่

ย่างก้าวเข้าสู่ ลิเวอร์พูล

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ปี 2016 มาเน่เข้าร่วมกับทีม ลิเวอร์พูล โดยได้รับค่าตัวถึง 34 ล้านปอนด์ด้วยการเซ็นต์สัญญา 5 ปีกับทีม ค่าตัวที่เขาได้รับทำให้เขาเป็น “ผู้เล่นแอฟริกันที่ได้รับค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร” ต่อมาในวันที่ 6 สิงหาคม ปี 2016 ในศึกอินเตอร์เนชันแนลแชมเปียนส์คัพ ฤดูกาลปี 2016 ลิเวอร์พูลพบกับ บาร์เซโลน่า ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ มาเนทำประตูแรกในช่วงปรีซีซั่นทำให้ ลิเวอร์พูล เฉือนเอาชนะ บาร์เซโลน่า 4-0 ประตู และในวันที่ 14 สิงหาคม เขาลงสนามเอมิเรตส์สเตเดียมในศึกพรีเมียร์ลีกให้กับ หงส์แดง พบกับ อาร์เซน่อล และเฉือนชนะไปได้ 4-3 ประตู

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปี 2017 มาเน่ ทำแต้มได้ 2 ประตูภายในระยะเวลาเพียง 2 นาทีกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ สนามแอนฟีลด์ ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล คว้าชัยชนะครั้งแรกในลีกส์ปี 2017 เมื่อวันที่ 20 เมษายน ปี 2017 มาเน่ ได้รับการเสนอชื่อใน PFA Team of the Year หลังจากที่เขาได้ทำประตูถึง 13 ลีกในฤดูกาลแรกของเขากับทีม ลิเวอร์พูล แม้เขาจะห่างหายไปจากการลงเล่นเนื่องมาจากอาการบาดเจ็บเอ็นเข่าฉีก แต่ มาเน่ ก็ยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของ ลิเวอร์พูล ไปเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ปี 2017

นัดแรกของฤดูกาลใหม่ในวันที่ 12 สิงหาคม ปี 2017 มาเน่ ทำประตูแรกให้ทีม ลิเวอร์พูล ซึ่งทำให้ทีมเสมอ 3-3 ประตูที่ วัตฟอร์ด เขาได้รับการยกย่องให้เป็น “ผู้เล่นดีเด่นประจำเดือน”ของพรีเมียร์ลีก หลังจากที่เขาทำประตูให้หงส์แดงถึง 3 นัดติดต่อกันในเดือนสิงหาคม ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กันยายน ปี 2017 เขาได้รับใบแดงในช่วงครึ่งแรกของการแข่งขันและพ่ายแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-0 ประตู ส่งผลให้เขาหมดสิทธิ์ลงสนามถึง 3 นัด

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี 2018 มาเน่ ยิงลูกแฮตทริกครั้งแรกให้กับทีม ลิเวอร์พูล และสามารถเอาชนะ ปอร์โต้ 5-0 ประตู ในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 เขากลายเป็นผู้เล่นคนที่สองที่ทำประตูด้วยการยิงลูกแฮตทริกให้กับสโมสรในยุโรป ต่อมาเมื่อวันที่ 14 เมษายน ลิเวอร์พูล สามารถเอาชนะ เอเอฟซี บอร์นมัธ 3-0 ประตู มาเน่ ถือเป็นนักเตะชาวเซเนกัลที่ทำคะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

ในวันที่ 26 พฤษภาคม ปี 2018 มาเน่ ทำประตูให้กับ ลิเวอร์พูล เฉือนเอาชนะ เรอัล มาดริด 3-1 ประตูในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เขากลายเป็นนักเตะชาวเซเนกัลคนแรกที่ทำแต้มในรอบสุดท้ายของการแข่งขัน ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่มีผู้เล่นถึง 3 คนซึ่งแต่ละคนทำแต้มได้มากกว่า 10 ประตูในการแข่งขันในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลเดียวอย่าง มาเน่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรเบอร์โต ฟีร์มีนู เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี 2018 มาเน่ ได้เซ็นต์สัญญาระยะยาวฉบับใหม่กับหงส์แดง ลิเวอร์พูล

การเป็นนักเตะระหว่างประเทศ

การเป็นนักเตะระหว่างประเทศ (International career) มาเน่ เป็นนักเตะในทีมเซเนกัลที่ลงแข่งขันโอลิมปิก ปี 2012 เมื่อผ่านเข้ารอบในกลุ่ม A ทีมเซเนกัล ได้ปะทะกัแเม็กซิโก ก่อนที่จะแพ้ไปด้วยสกอร์ 4–2 ประตูในรอบรองชนะเลิศ

มาเน่ หมดสิทธิ์ลงเล่นให้กับทีมเซเนกัล ในการแข่งขันแอฟริกาคัพเนชั่น ในปี 2015 เนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บที่น่อง หลังจากนั้นเขาก็กลับไปลงเล่นให้กับทีมและเริ่มต้นในการแข่งขัน 2 นัดสุดท้ายกับแอฟริกาใต้และแอลจีเรียในรอบแบ่งกลุ่ม

มาเน่ เป็นตัวแทนของเซเนกัล ซึ่งเล่นในศึกแอฟริกาคัฟออฟเนชั่น ในปี 2017 ที่กาบองและทำประตูคว้าชัยชนะจากตูนิเซียและซิมบับเว 2-0 ประตู หลังจากนั้นเขาทำประตูเสมอกับแคเมอรูนในการปะทะรอบสุดท้ายซึ่งเขาพลาดท่าในลูกจุดโทษไปอย่างน่าเสียดาย

ในเดือนพฤษภาคม ปี 2018 เขาได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งใน 23 คนของทีมเซเนกัลสำหรับการเข้าแข่ง ในฟุตบอลโลกปี 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ในรอบแบ่งกลุ่มเขายิงประตูให้กับทีมเสมอญี่ปุ่น ไป 2-2 ประตู

ชีวีตส่วนตัวของ มาเน่

มาเน่ เป็นชาวมุสลิมที่มีศรัทธาอันแรงกล้าและมักทำ du’a ก่อนเริ่มลงเล่นในการแข่งขันทุกละครั้ง เขาวิ่งตามความฝันในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพแม้ว่าพ่อของเขาจะห้ามไม่ให้เล่นกีฬาตั้งแต่ยังเป็นเด็กก็ตาม

ชีวีตส่วนตัวของ มาเน่