นักเตะหน้าหล่อ ซน ฮึง-มิน (Son Heung-min)

ชีวิตวัยเด็กของดาวเตะ ไก่เดือยทอง

ซน ฮึง-มิน นักฟุตบอลชาวเกาหลีใต้ ที่เล่นตำแหน่งปีกหรือศูนย์หน้าให้ สเปอร์ส ทีมในพรีเมียร์ลีกและเป็นกัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ชุดที่ชนะเยอรมัน 2-0 ในเวิร์ลด์คัพ 2018 ที่รัสเซียด้วย

ซน พัฒนาฝีมืออย่างยอดเยี่ยมเมื่อเขาไปฝึกฟุตบอลกับ ฮัมบูร์ก ที่เขาได้ลงสนามในบุนเดสลีกาเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2010 ปี 2013 เขาย้ายทีมสู่ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโรและได้ลงสนามทั้งฟุตบอลยูโรป้าลีกและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สองปีต่อมาเขาเซ็นสัญญาร่วมทีม สเปอร์ส ด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ เป็นนักเตะชาวเอเชียนที่มีค่าตัวย้ายทีมแพงที่สุด ในประวัติศาสตร์ เมื่อมาเล่นที่ สเปอร์ส เข้าสร้างสถิติเป็นนักเตะชาวเอเชียที่ยิงประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

เขาติดทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2010 ซน ติดทีมชาติเกาหลีใต้ไปเล่นฟุตบอลโลก 2014 และ 2018 เขายิงประตูให้ทีมได้สูงสุดเทียบเท่า ปาร์ค จี-ซุง และ อาห์น จุง-ฮวาน ที่สามประตู (ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย) เขายังลงสนามให้ทีมชาติในเกมเอเชียนเกม ซึ่งเขาพาทีมได้เหรียญทองในปี 2011,2015 และ 2019 ขณะที่เอเชียนคัพได้รองแชมป์ปี 2015

สโมสรอาชีพที่ค้าแข้ง

ชีวิตวัยเด็กของดาวเตะ ไก่เดือยทอง

ซน เกิดที่ชุนชอน จังหวัดกังวาน พ่อชื่อ ซน วุง-ยุง ที่เคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก่อน และผันตัวเองเป็นผู้จัดการทีมเกาหลีใต้ชุดบีด้วย

ซนย้ายเข้าสู่อะคาเดมี่ของ เอฟซี โซล สโมสรเดียวกับ อี ยอง เปียว อย่างไรก็ตามซนยังเป็นเด็กเก็บบอลเกมที่ เอฟซี โซล สำหรับเกมในบ้านเมื่อปี 2008 เขาเป็นนักเตะชุดเด็กของ เอฟซี โซล และได้เล่นตำแหน่งกองกลางเหมือนกับ อี ชุง-ยอง ที่เล่นให้ คริสตัล พาเลซ และ โบลตัน วันเดอเรอร์

สโมสรอาชีพที่ค้าแข้ง

ฮัมบูร์ก

เดือนสิงหาคม 2008 ซน ดร็อปเรียนจากโรงเรียนมัธยมดงบุ๊ก (ต่อมากลายเป็นสโมสร เอฟซี โซล ยู18) และเข้าร่วมทีม ฮัมบูร์ก ชุดอะคาเดมี่เมื่ออายุ 16 ปี ตามโปรเจ็กต์ของสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ หนึ่งปีต่อมาเขากลับสู่เกาหลีใต้ , เดือนพฤศจิกายน 2009 เขาร่วมทีม ฮัมบูร์ก ชุดเยาวชนอีกครั้ง

เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจช่วงปรีซีซั่น 2010-11 ซึ่งนำทีมยิงได้ถึง 9 ประตูและเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 18 ปี หลังจากที่ยิงประตู เชลซี เมื่อเดือนสิงหาคม เขาเจ็บไปร่วมสองเดือนจากการเจ็บข้อเท้า และกลับมาลงสนามอีกครั้งวันที่ 30 ตุลาคม 2010 ยิงประตูแรกในฟุตบอลลีก นัดที่พบกับ โคโลญจน์ ในนาที 24 ประตูของเขาเป็นนักเตะ ฮัมบูร์ก ที่ยิงประตูได้ด้วยอายุน้อยที่สุด ด้วยวัย 18 ปี ทำให้ทำลายสถิติของ มานเฟร็ด คัลซ์

ซน เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ ฮัมบูร์ก ทำให้เขาจะอยู่กับทีมถึงปี 2014 ซึ่งเขาเป็นนักเตะเกาหลีใต้ที่โด่งดังเป็นพลุแตกต่อจาก ชา บุม-กุน ที่ซึ่งเป็นตำนานนักเตะบุนเดสลีกา ซน ยิงได้ 3 ประตูใน 14 แมตช์ทุกรายการระหว่างฤดูกาล 2010-11

ระหว่างฤดูกาล 2011/12 เขายิงได้ 8 ประตู จาก 9 นัดหลังจากที่พลาดลงสนามในนัดเปิดฤดูกาลเพราะว่าเป็นไข้ ซน ยิงได้สองประตูภายในสามแมตช์ แต่ว่าโชคร้ายเมื่อก่อนที่จะเปิดฤดูกาล เขาต้องเจ็บข้อเท้าเกมที่แพ้ต่อ โคโลญจน์ 4-3 วันที่ 27 สิงหาคม และต้องพักราวๆ 4-6 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามเขาฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาดไว้ และเขาต้องรออีกสามสัปดาห์กว่าจะได้ลงสนามมาในฐานะนักเตะสำรอง เกมที่แพ้ กลัดบัค 1-0 วันที่ 17 กันยายน เมื่อรวมทั้งฤดูกาล 2011/12 เขาลงสนาม 30 นัดให้ สิงห์เหนือ ฮัมบูร์ก ยิงได้ 5 ประตู รวมถึงประตูที่ยิงในเกมที่พบ ฮันโนเวอร์ และ เนิร์นแบร์ก เกมปิดท้าย และทำให้ ฮัมบูร์ก มั่นใจได้ว่าอยู่รอดต่อไปในบุนเดสลีกา

เลเวอร์คูเซ่น

ซน ได้ลงเล่นให้นายห้างขายยาในรายการแชมเปี้ยนส์ลีก 2014 วันที่ 13 มิถุนายน 2013 เลเวอร์คูเซ่น คอนเฟิร์มว่าเซ็นสัญญาคว้าตัว ซน มาร่วมทีมด้วยเงินค่าตัว 10 ล้านยูโร ที่ทำให้เขาย้ายตัวด้วยสถิติสูงสุดของทีมในเวลานั้น เขาตกลงสัญญา 5 ปีกับทีม และได้เริ่มเล่นช่วงปรีซีซั่นอย่างรวดเร็ว ยิงได้ 3 ประตูจาก 3 นัดแรก ในเกมกระชับมิตรที่แข่งกับ 1860 มิวนิค, อูดิเนเซ่ และ ยูเพ่น ตามลำดับ

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2013 ซน ยิงแฮตทริกได้ในเกมที่ เลเวอร์คูเซ่น ชนะ 5-3 เหนืออดีตทีม ฮัมบูร์ก ,วันที่ 7 ธันวาคม ซน ยิงประตู ดอร์ทมุนด์ ได้ซึ่งทำให้เขามีคะแนนเหนือทีมคู่แข่งกว่า 4 แต้ม , วันที่ 10 พฤษภาคม 2014 ซน ยิงได้อีกประตูในเกมที่พบ แวร์เดอร์ เบรเมน และทีมก็คว้าพื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2014/15 ได้ ฤดูกาลนั้นเขายิงได้ 12 ประตูจาก 43 แมตช์

ซน ยิงแฮตทริกได้เกมที่ โวล์ฟบวร์ก วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014 เกมแพ้ 4-5 และเขายิงได้ในช่วงที่ทีมตามหลัง 0-3 เขาจบฤดูกาล 2014/15 ด้วยการยิง 17 ประตูจาก 42 นัด

ซน ออกสตาร์ทฤดูกาล 2015/16 กับทีม เลเวอร์คูเซ่น โดยได้เล่นทั้งบุนเดสลีกาและแชมเปี้ยนส์ลีกรอบคัดเลือกด้วย

ซน ย้ายมาร่วมทีม สเปอร์ส

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส

ฤดูกาล 2015/16 วันที่ 25 สิงหาคม 2015 ซน ย้ายมาร่วมทีม สเปอร์ส ด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ หรือ (30 ล้านยูโร) ด้วยสัญญา 5 ปี ซึ่งเขาผ่านเรื่อง เวิร์ก เพอร์มิต (ใบอนุญาตทำงานในอังกฤษ) ซึ่งการเซ็นสัญญาของเขาทำให้เขากลายเป็นนักเตะเอเชียค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลด้วย ก่อนหน้านี้เป็นสถิติเมื่อปี 2001 ของ นักเตะชาวญี่ปุ่น ฮิเดโตชิ นากาตะ ที่ย้ายจาก โรม่า มา ปาร์ม่า ด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร

ซน ได้ลงสนามให้ทีม ไก่เดือยทอง เป็นครั้งแรก วันที่ 13 กันยายน เกมที่พบ ซันเดอร์แลนด์ ลงมาแทนที่ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ นาที 62 เกมนั้นทีมชนะ 1-0 เกมแรกของเขาในยูโรป้าลีก 2015/16 คือวันที่ 17 กันยายน เกมนั้น ซน ยิงได้สองประตูเกมที่ชนะ คาราบัค 3-1 สามวันต่อมาเขายิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้ เกมที่พบ คริสตัล พาเลซ ที่สนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน ยิงประตูนาที 68 ช่วยให้ สเปอร์ส ชนะเกมแรกในบ้าน , วันที่ 28 ธันวาคม เกมที่พบ วัตฟอร์ด ซน ลงสนามแทนที่ ทิม คาร์โรลล์ นาทีที่ 80 ยิงประตูชัยให้ทีมนาทีที่ 89 , วันที่ 2 พฤษภาคม เขายิงประตูที่สองเกมที่พบ เชลซี ทำให้ สเปอร์ส มีความหวังล่าแชมป์ลีก สุดท้าย เชลซี ยิงตีเสมอครึ่งหลัง ทำให้ต้องปล่อยแชมป์ลีกหลุดมือไปสู่ เลสเตอร์

ฤดูกาล 2016/17

ก่อนที่จะลงสนามในฤดูกาลนี้ เขาได้รับไฟเขียวจากกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ให้ย้ายทีมเพราะว่าไม่ได้รับโอกาสลงสนามให้ทีมมากนัก แต่สุดท้ายเขาตัดสินใจอยู่กับทีมเพื่อสู้ต่อไป วันที่ 10 กันยายน 2016 ซน ยิงสองประตูและจ่ายให้เพื่อนยิงประตูที่สาม ในนัดแรกของฤดูกาล เกมนั้นทีมชนะ สโต๊ค ซิตี้ 4-0 ซน โชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งเป็นครั้งที่สองเมื่อ เกมพบ มิดเดิ้ลสโบร์ช วันที่ 24 กันยายน ซึ่งทีมได้รับชัยชนะ 1-2 โดยที่ก่อนหน้านั้นเขาได้ลงสนามน้อยกว่า 25 แมตช์

ซน เริ่มพิสูจน์ให้กุนซือ โปเช็ตติโน่ เห็นว่ากุนซือชาวอาร์เจนตินาคิดผิด โดยที่ยิงประตูที่ห้าวันที่ 27 กันยายน ของฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก (เกมที่แข่งกับ ซีเอสเคเอ มอสโก) ซน ยิงบอลผ่านมือผู้รักษาประตู อิกอร์ อกินเฟเยฟ เป็นประตูเดียวของแมตช์นี้ วันที่ 14 ตุลาคม ซน มีชื่อเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีก และเป็นนักเตะชาวเกาหลีใต้คนแรกที่ได้รับรางวัลนี้

จากนั้นช่วงคริสต์มาส ซน ยิงประตูได้อีกเพียงนัดละประตู จนมาถึงวันที่ 12 มีนาคม 2014 เขายิงแฮตทริกให้ สเปอร์ส เป็นครั้งแรกเกมเอฟเอคัพ ที่พบ มิลล์วอลล์ ในชัยชนะ 6-0 จากนั้นเขาลงสนามเกมที่ชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-0 วันที่ 1 เมษายน 2017 และสี่วันต่อมาเขายิงประตูนาทีที่ 91 ช่วงให้ทีมมีชัยเหนือ สวอนซี เกมนั้นทีมเกือบจะแพ้ 1-0 แต่หลังจากนาทีที่ 88 ทีม ไก่เดือยทอง ก็ยิงอีกสามลูกรวด จบฤดูกาลนั้นเขายิงได้ 18 ประตูจาก 11 เกมพรีเมียร์ลีก นับเป็นการเล่นที่ดีที่สุดของเขา วันที่ 12 พฤษภาคม 2017 ซน ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของเดือนเมษายน 2017 เป็นครั้งที่สองในอาชีพของเขา ดังนั้นฤดูกาล 2016/17 เขาเป็นเพียงนักเตะคนเดียวที่ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมสองครั้ง วันที่ 18 พฤษภาคม 2017 ซน มีส่วนในชัยชนะของทีมเหนือ เลสเตอร์ 6-1 รวมแล้วเขายิงได้ 21 ลูก จากทุกรายการ ซน เป็นนักเตะรายที่สามร่วมกับ แฮรี่ เคน และ เดลเล่ อัลลี่ ที่ยิงได้ถึง 20 ลูก ในฤดูกาลนั้น

ฤดูกาล 2017/18

ซน ยิงประตูแรกของฤดูกาล 2017/18 เกมฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก เกมที่ สเปอร์ส พบ ดอร์ทมุนด์ วันที่ 13 กันยายน 2017 เกมที่ทีมเล่นที่สนามเวมบลีย์เกมนั้นทีมชนะ 3-1 เขายิงประตูในพรีเมียร์ลีกเกมแรกนัดที่ทีมชนะ ลิเวอร์พูล 4-1 ที่บ้าน วันที่ 5 พฤศจิกายน 2017 เขายิงได้หนึ่งลูกเกมที่ชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 ประตูนี้ทำให้เขายิงประตูรวมในพรีเมียร์ลีกถึง 20 ลูก และเขาเป็นนักเตะเอเชียนคนแรกที่ยิงได้รวมถึง 20 ลูกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก โดยทำลายสถิติของพาร์ค จี ซอง ที่แมนยู วันที่ 13 มกราคม 2018 ซน ยิงได้อีกหนึ่งประตูและหนึ่งแอสซิสต์เกมที่พบ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งนัดนั้น เจอร์เมน เดโฟ ยิงประตูในเกมในบ้าน 5 นัดติดต่อกัน วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2018 ซน ยิงประตูและแอสซิสต์ให้ เฟอร์นานโด ยอร์เรนเต้ เกมที่ทีมชนะ โรชเดล 6-1 ในเอฟเอคัพรอบ 5 เขายิงประตูจากจุดโทษโดยที่ประตูของเขาต้องตัดสินถึง VAR เลย เขาเป็นนักเตะเอเชียนคนแรกที่ติดอันดับท็อปเทนของดาวซัลโวในพรีเมียร์ลีก

ฤดูกาล 2018/19

วันที่ 20 กรกฎาคม 2018 ซน เซ็นสัญญากับทีมต่อไปอีก 5 ปี จะทำให้เขาอยู่กับทีมถึงปี 2023 ประตูแรกในฤดูกาลของเขาเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2018 เมื่อเขาลงสนามให้ สเปอร์ส เป็นนัดที่ 150 เป็นรายการอีเอฟแอล คัพเกมที่พบ เวสต์แฮม เขายิงประตูที่ 50 ให้ทีมและต่อมาเขายิงประตูในชัยชนะ 3-1 เหนือ เชลซี เป็นเกมที่สนามเวมบลีย์ (เกมเหย้า) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทีมมีชัยชนะเหนือ เชลซี ในฤดูกาลนี้ เขายิงประตูสุดสวยซึ่งเป็นประตูยอดเยี่ยมของเดือนพฤศจิกายน วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2019 ซน ยิงประตูแรกในชัยชนะเหนือ ดอร์ทมุนด์ 3-0 เป็นเกมเลกแรกของแชมเปี้ยนส์ลีก

ระดับทีมชาติของซง

ระดับทีมชาติ

ระดับเยาวชนและเอเชียน คัพ 2011

ซน เป็นสมาชิกของทีมชาติเกาหลีใต้ ซึ่งเข้าเล่นรายการฟุตบอลโลก ฟีฟ่า ยู17 ที่จัดขึ้นที่ไนจีเรีย เขายิงได้ 3 ลูกในทัวร์นาเม้นต์

วันที่ 24 ธันวาคม 2010 ซน ถูกเรียกตัวเข้าร่วมทัวร์นาเม้นต์เอเชียน คัพ 2011 และเขาลงประเดิมสนามให้ทีมชาติเกมปรีทัวร์นาเม้นต์พบ ซีเรีย วันที่ 30 ธันวาคม ในรอบสุดท้าย ซน ยิงประตูแรกให้ทีมชาติเกมรอบแบ่งกลุ่มที่ชนะอินเดีย 4-1

ฟุตบอลโลก 2014

วันที่ 7 ตุลาคม 2011 หลังจากที่พลาดลงสนามในฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือกสองนัดแรก วันที่ 2 และ 6 กันยายน เนื่องจากเจ็บข้อเท้า ซน ยิงประตูได้เกมที่พบโปแลนด์ วันที่ 11 ตุลาคม เกมที่พบยูเออี มีหลายคนค่อนขอว่าเขาถูกเรียกติดทีมชาติเพราะว่าเป็นลูกของโค้ชทีมชาติ แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะความสามารถของเขามากกว่า ต่อมา โช ควาง เร เป็นกุนซือเกาหลีใต้ได้เรียก ซน ฮึง-มิน มาติดทีมอีกครั้ง

ซน ได้โอกาสลงสนามเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ปี 2012 ที่ลอนดอน แต่ว่าเขาต้องการลงสนามและมีสมาธิให้สโมสร ฮัมบูร์ก มากกว่า ซน ได้ประกาศว่า “ในเกาหลี การแข่งขันโอลิมปิกมีความสำคัญมาก แต่ว่าผมต้องการที่จะก้าวหน้าใน ฮัมบูร์ก นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าผมจะอยู่ซ้อมที่เยอรมันดีกว่า” แต่อย่างไรก็ตาม เขาได้ลงสนามให้เกาหลีใต้อีกครั้งในฤดูใบไม้ร่วง ปี 2012 ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก ที่แข่งกับ เลบานอน และ อิหร่าน โดยที่เขาได้ลงสนามเป็นตัวจริงด้วย (ปี 2013) นัดต่อมาเกาหลีใต้พบกาตาร์ วันที่ 23 มีนาคม 2013 ซน ได้ลงสนามเป็นตัวสำรองนาที 81 และยิงประตูชัยนาที 96

เดือนมิถุนายน 2014 ซน ได้ไปแข่งขันฟุตบอลโลก ที่บราซิลกับทีม วันที่ 22 มิถุนายน เขายิงประตูเกมที่แพ้แอลจีเรีย 4-2 ในรอบแรกนัดที่สอง สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้เรียกร้องให้ เลเวอร์คูเซ่น อนุญาตให้ ซน ได้มาลงสนามในฟุตบอลเอเชียน เกมส์ 2014 และหลังจบทัวร์นาเม้นต์ทีมก็ได้แชมป์ ทำให้เขารอดพ้นการถูกเกณฑ์ทหาร นอกจากนี้การที่ เลเวอร์คูเซ่น ปล่อยตัว ซน เฮือง-มิน ออกมาทำให้ทีมต้องพลาดการใช้งานเขากว่า 6 นัด

เอเชียน คัพ 2015

ซน ได้รับเรียกจากทีมชาติเกาหลีใต้ เพื่อไปเล่นฟุตบอลเอเชียนคัพที่ออสเตรเลีย ในรอบควอเตอร์ไฟนอล เขายิงสองประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ เกมนั้นทีมชนะอุซเบกิสถาน 2-0 รอบชิงเกาหลีพบเจ้าภาพ ออสเตรเลีย เสมอในช่วง 90 นาที 1-1 แต่ว่าทีมต้องมาแพ้ต่อ ออสซี่ ช่วงต่อเวลา 120 นาที 2-1 ซึ่ง ซน ได้รับคะแนนโหวตให้เป็นกองหน้าหนึ่งในสามคนที่ดีที่สุดในทัวร์นาเม้นต์

ช่วง ฟุตบอลโลก 2018

ฟุตบอลโลก 2018

วันที่ 3 กันยายน 2015 ที่สนามฮวาซอง สเตเดี้ยม ซน กดแฮตทริกเกมที่เกาหลีใต้เปิดบ้านชนะลาว 8-0 ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกรอบสอง เดือนมิถุนายน 2016 เขามีชื่อในฐานะนักเตะอายุเกิน (หนึ่งในสามคน) ที่ได้ลงเล่นฟุตบอลโอลิมปิก ฤดูร้อน เขายิงได้สองประตูในรอบแบ่งกลุ่มทั้งเกมที่พบฟิจิและเยอรมัน ช่วยให้ทีมจบเป็นจ่าฝูงของกลุ่มโดยชนะสองนัดเสมอหนึ่งนัด เกาหลีใต้ตกรอบด้วยน้ำมือของฮอนดูรัสในรอบควอเตอร์ไฟนอล ทำให้เขาพลาดที่จะได้แชมป์กับทีมชาติ

วันที่ 13 มิถุนายน 2017 ซน แขนขวาหัก ในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก เกมที่พบกาตาร์ที่โดฮา ต่อมาเขาได้ลงสนามเกมที่เสมออุซเบกิสถาน 0-0 วันที่ 5 กันยายน 2017 วันที่ 4 มิถุนายน 2018 เขามีชื่อติดทีมไปเล่นฟุตบอลโลก 2017 ที่รัสเซีย วันที่ 23 มิถุนายน ซน ยิงประตูจากนอกกรอบเขตโทษแต่ว่าเกมนั้นทีมแพ้ต่อเม็กซิโก 2-1 ส่งให้ทีม จังโก้ ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสอง วันที่ 27 มิถุนายน เป็นเกมสุดท้ายของรอบแรก วันที่ทั้งโลกต้องจดจำเมื่อเขายิงประตูให้ทีมชนะเยอรมันอย่างเด็ดขาด 2-0 นาที 97

เอเชียน เกมส์ 2018 และเอเชียน คัพ 2019

ซน ได้รับเลือกในฐานนักเตะอายุเกิน 23 ปี มาลงแข่งรายการเอเชียนเกมส์ (อีกครั้ง) ซึ่งจัดขึ้นที่อินโดนีเซีย เขาเป็นกัปตันทีมในรอบแบ่งกลุ่มที่พบ คีร์กิซสถาน เขายิงได้เพียงลูกเดียวแต่ทีมก็ยังผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ ต่อเมาเขาได้รับบทกัปตันทีมตั้งแต่รอบน็อคเอาท์ถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยรอบรองชนะเลิศ เกาหลีชนะเวียดนาม 3-1 เกมรอบชิงชนะเลิศเขาแอสซิสต์สองลูกให้ทีมเกมที่ชนะญี่ปุ่น 2-1 ทำให้รอดพ้นจากการถูกเรียกเกณฑ์ทหาร

ซน ได้รับเรียกให้ติดทีมชาติมาเล่นรายการเอเชียน คัพ 2019 ที่ยูเออี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เปาโล เบนโต้ ชาวโปรตุเกส เขาพลาดลงสนามสองเกมแรกเนื่องจากข้อตกลงที่ทำกับ สเปอร์ส ไว้ เขากลับสู่ลอนดอนหลังจากที่เกาหลีใต้ตกรอบ โดยแพ้กาตาร์(ที่ต่อมาเป็นแชมป์รายการนี้ ) ในรอบควอเตอร์ไฟนอล

สไตล์การเล่น

ซน เป็นกองหน้าที่มีความคล่องตัว ที่ยิงได้ทั้งสองเท้า เขาเล่นได้หลายตำแหน่งในแนวรุก โดยเขาสามารถเป็นกองหน้าตัวที่สอง ที่ ฮัมบูร์ก หรือเขาจะเล่นปีก มิดฟิลด์ตัวรุก แม้กระทั่งกองหน้าตัวเป้า ซึ่ง ซน กล่าวว่าผมไม่สนใจว่าจะได้ลงเล่นตำแหน่งไหน สิ่งสำคัญคือผมได้อยู่ในสนาม และผมจะเล่นเต็มที่เสมอ

ซน มีความเร็วและความแข็งแกร่ง ความสามารถของเขาที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างคือ หาพื้นที่ว่างได้ดี และการคอนโทรลบอล การจบสกอร์เขาเป็นกองหน้าตัวอันตรายของกองหลังทุกคน และเขาถนัดเล่นเกมเคาน์เตอร์แอทแทคอย่างมาก ซน ได้รับการบันทึกว่าเป็นกองหน้าที่ขอบยิงประตูทีมเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ มากที่สุด โดยยิงได้ 9 ลูกจากการพบกัน 11 นัด

เขาเป็นกองหน้าชาวเอเชียที่ได้รับการยอมรับว่าเก่งกาจที่สุดในเวลานี้ และอาจจะเหนือกว่าทุกคนในอดีตที่ผ่านมาด้วย

สไตล์การเล่นของ ซน