ขุดคุ้ยประวัติ แตนอาละวาด แห่งอังกฤษ วัตฟอร์ด

ขุดคุ้ยประวัติ แตนอาละวาด แห่งอังกฤษ วัตฟอร์ด

สโมสรฟุตบอลวัตฟอร์ด เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่ตั้งอยู่ในวัตฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันลงเล่นอยู่ในลีกพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี 1898 โดยการรวมกลุ่มของสโมสรท้องถิ่น เวสต์เฮิร์ต และวัตฟอร์ด เซนต์ แมรี่ หลังจากจบฤดูกาล 1914-15 ซึ่งพวกเขาได้แชมป์ southern League ภายใต้การนำทีมของ แฮรี่ เคนต์ วัตฟอร์ดเข้าร่วมฟุตบอลลีกในปี 1920 โดยใช้สนามแข่งหลายสนามในการแข่งขัน ก่อนจะมาใช้สนาม วิคาร์เรจ โร้ด ในปี1922 จนถึงปัจจุบัน โดยลงเล่นส่วนใหญ่อยู่ในระดับล่างของประเทศอังกฤษ

ภายใต้การทำทีมของผู้จัดการชาวอังกฤษอย่าง เกรแฮม เทย์เลอร์ ช่วยให้วัตฟอร์ดเลื่อนชั้นในช่วงปี 1977- 1987 โดยนำทีมวัตฟอร์ดเลื่อนชั้นจากดิวิชั่น 4 ขึ้นมาถึงดิวิชั่น 1 และคว้ารองแชมป์ได้ในปี 1982-83 ในการแข่งยูฟ่าคัพปี 1983-84 ในปี 1984 ก็สามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในฟุตบอลเอฟเอคัพ หลังจากนั้นในช่วงปี 1987 ถึง 1997 ถือเป็นช่วงเวลาที่ตกต่ำของสโมสร ก่อนที่เทย์เลอร์จะกลับมาเป็นผู้จัดการทีมอีกครั้ง และนำทีมเลื่อนชั้นจากดิวิชั่น 2 ขึ้นมาในระดับพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 1999-00 โดยใช้เวลาอยู่ในลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ 1 ฤดูกาล ก่อนจะตกชั้นลงไปอีกครั้ง และภายใต้การนำทีมของไอดี บูธทรอยด์ จากแชมเปี้ยนชิพ พวกเขาก็ได้เลื่อนชั้นในฤดูกาล 2014-15 กลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในฤดูกาล 2015-16 จบระดับที่ 13 ของตาราง

ภายใต้การทำทีมของผู้จัดการชาวอังกฤษอย่าง เกรแฮม เทย์เลอร์

ตระกูลพอซโซ่ เป็นเจ้าของทีมวัตฟอร์ด และยังเป็นเจ้าของทีมอูดิเนเซ่ในกัลโช่ เซเรียอา ของอิตาลีด้วย โดยมีเซอร์ เอลตัน จอห์น ซึ่งเป็นเจ้าของทีมในช่วงที่ประสบความสำเร็จ และเกรแฮม เทย์เลอร์ ผู้จัดการทีมในอดีต ร่วมกันเป็นประธานสโมสรกิตติมศักดิ์ของทีม จนกระทั่งเกรแฮม เทย์เลอร์ เสียชีวิต

ช่วงเริ่มต้น

สโมสรวัตฟอร์ดก่อตั้งขึ้นในวันที่ 15 เมษายนปี 1898 โดยการรวมกันของสโมสรที่แข็งแกร่งในท้องถิ่น อย่าง เวสต์ เฮิร์ต และ วัตฟอร์ด เซนต์ แมรี่ หลังจากผ่านไป 3 ฤดูกาล ได้มีการหารือถึงข้อดีข้อเสียในการรวมกันของ 2 สโมสรท้องถิ่น หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงข้อโต้แย้งและปัญหาต่างๆแล้วพบว่าการรวมกันของสโมสรมีข้อดีมากกว่า จึงได้รวบรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ในวันที่ 27 พฤษภาคม 1898 สมาคมฟุตบอลได้อนุมัติการรวมกันของ 2 สโมสรท้องถิ่น ภายใต้ชื่อ สโมสรฟุตบอลวัตฟอร์ด

หลังจากตกชั้นไปอยู่ใน southern league ดิวิชั่น 2 ในปี 1903 วัตฟอร์ดได้แต่งตั้งผู้จัดการทีมคนแรก เป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ และอดีตดาวซัลโวลีกดิวิชั่น 1 คือ จอห์น กูดอล เขาช่วยให้วัตฟอร์ดเลื่อนชั้น และอยู่กับทีมไปถึงปี 1910 แม้จะมีข้อจำกัดทางการเงิน วัตฟอร์ดก็ได้แชมป์ southern league ในฤดูกาล 1914-15 ภายใต้การนำของ แฮรี่ เคนต์ ช่วยให้วัตฟอร์ดเป็นแชมป์ติดต่อกัน จนกระทั่งถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 ฟุตบอลต้องหยุดการแข่งขันลง ในฤดูกาล 1919-20 วัตฟอร์ดได้รองแชมป์ หลังจากนั้นสโมสรก็ได้เข้าร่วมฟุตบอลดิวิชั่น 3

ในฤดูกาลที่ 1921-22 ฟุตบอลดิวิชั่น 3 มีทั้งหมด 22 ทีม มี 2 ทีมที่จะได้สิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชั่น 2 ในช่วงแรกวัดบอร์ดไม่สามารถทำคะแนนได้เกินกว่าอันดับที่ 6 ของตาราง จนกระทั่งใน ฤดูกาล 1934-35 พวกเขาก็สามารถจบด้วยอันดับที่ 5 และฤดูกาล 1938-39 ก็ได้อันดับที่ 5 เช่นกัน จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1939 ฟุตบอลต้องหยุดแข่งขันอีกครั้ง

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ฟุตบอลกลับมาเริ่มเตะอีกครั้งในปี 1946 โดยวัตฟอร์ดเริ่มเล่นในดิวิชั่น 3 และจบด้วยอันดับที่ 23 ในฤดูกาล 1950-51 ทำให้ทีมต้องสมัครเข้ามาแข่งขันในระบบลีกอีกครั้ง แต่โชคดีที่พวกเขาได้รับคะแนนโหวตทำให้สามารถลงเล่นต่อในดิวิชั่นเดิมได้ แมคเบน กลับมาคุมทีมอีกครั้งในปี 1956 จนกระทั่งปี 1958 ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของระบบฟุตบอลลีก ทำให้ในรูปการ 1958-59 วัตฟอร์ดต้องลงเล่นในฟุตบอลระดับดิวิชั่น 4 และในระหว่างฤดูกาลนั้น รอน เบอร์เกรส ได้เข้ามาคุมทีมแทนแมคเบน เพียงฤดูกาลแรกเขาก็ช่วยให้วัตฟอร์ดเลื่อนชั้น ปี 1964 เคน เฟอร์ฟี เข้ามาคุมทีมและได้สร้างทีมขึ้นใหม่จากผู้เล่นที่มีอยู่ เขาเกือบพาทีมเลื่อนชั้นได้ในฤดูกาล 1966-67 หลังจากนั้นที่ประสบปัญหาทางการเงิน และตกชั้นในปี 1975

เซอร์ เอลตัน จอห์น

เซอร์ เอลตัน จอห์น เข้ามาเป็นเจ้าของสโมสร

จากแฟนบอลพันธุ์แท้ของสโมสร ต่อมาก็เข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรในปี 1976 และประกาศเป้าหมายที่จะเลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ให้ได้ ทั้งที่ตอนนั้นทีมอยู่ในระดับดิวิชั่น 4 เขาได้แต่งตั้ง เกรแฮม เทย์เลอร์ เป็นผู้จัดการทีม และเพียงแค่ฤดูกาลแรก เขาก็นำทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชั่น 3 และเลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชั่น 2 ได้ในฤดูกาล 1978-79 จนกระทั่งฤดูกาล 1981-82 วัตฟอร์ดก็ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 สำเร็จ

วัตฟอร์ดเริ่มต้นฤดูกาลแรกในดิวิชั่น 1 ด้วยการชนะ 4 นัดจาก 5 นัดแรก โดยในฤดูกาลแรกนั้น พวกเขาได้อันดับที่ 2 ของตาราง มีทีมลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ และได้สิทธิ์เข้าร่วมในฟุตบอลยูฟ่าคัพรอบคัดเลือก ในปี 1984 พวกเขาได้เข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ ก่อนจะแพ้ให้กับเอฟเวอร์ตันไป ในฤดูกาล 1986-87 วัตฟอร์ดจบด้วยอันดับที่ 9 ของตาราง เทย์เลอร ์ตัดสินใจลาออกจากทีมเพื่อไปคุมทีมแอสตัน วิลล่า หลังจากที่เทย์เลอร์ออกไปแล้ว สโมสรได้แต่งตั้ง เดฟ บาสเซต อดีตผู้จัดการทีมวิมเบอร์ดันเข้ามาเป็นผู้จัดการทีม หลังจากทำทีมชนะเพียง 4 นัดจาก 23 นัด บาสเซต ถูกไล่ออกจากทีมในเดือนมกราคมปี 1988 และแต่งตั้ง สตีฟ แฮร์ริสัน เป็นผู้จัดการทีมแทน แต่เขาก็ไม่สามารถช่วยทีมรอดตกชั้นได้ ในฤดูกาล 1988-89 ทีมไม่สามารถเลื่อนชั้นกลับมาดิวิชั่น 1 ได้หลังจากแพ้ในรอบเพลย์ออฟดิวิชั่น 2 แฮร์ริสันออกจากทีมในปี 1990 หลังจากนั้นไม่กี่ปีทีมก็ได้เลื่อนชั้น ก่อนที่เกรน โรเดอร์ จะนำทีมสู่ความย่ำแย่ และถูกปลดออก โดยมี เกรแฮม เทย์เลอร์จ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1996 แต่ก็ไม่อาจช่วยให้ทีมรอดพ้นการตกชั้นได้

หลังจากตกชั้น เทย์เลอร์ ได้เลื่อนเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลของสโมสร และแต่งตั้งให้อดีตนักฟุตบอลของวัตฟอร์ดอย่าง เคนนี่ แจ็คเก็ต เป็นผู้จัดการทีม หลังจากเขานำทีมจบด้วยอันดับกลางตารางในฤดูกาล 1996-97 เทย์เลอร์ ก็กลับมาเป็นผู้จัดการทีมอีกครั้ง โดยให้แจ็คเก็ตเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม เทย์เลอร์ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2 ได้ในฤดูกาล 1997-98 เลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1และเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก ได้ในฤดูกาล 1998-99 การลงเล่นนัดแรกในพรีเมียร์ลีก พวกเขาสามารถเอาชนะทีมลิเวอร์พูลได้ แต่หลังจากจบฤดูกาล พวกเขาได้อันดับสุดท้าย ต้องตกชั้น หลังจบฤดูกาล2000-01 จิอันลูกา วิอัลลี่ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม หลังจากฤดูกาล 2001-02 วัตฟอร์ดจบฤดูกาลด้วย อันดับที่ 14 วิอัลลี่ก็ถูกปลดออกจากการเป็นผู้จัดการทีม และแต่งตั้ง เลย์วิงตัน ผู้จัดการทีมสำรองเป็นผู้จัดการทีมแทน ในฤดูกาล 2002-2003 วัตฟอร์ดมีสถานะทางการเงินที่อ่อนแอ หลังจากการล่มสลายของ ITV ทีวีดิจิตอล พวกเขาต้องลดเพดานเงินเดือนของนักเตะและทีมงานลง 12% ทำให้หลังจบฤดูกาลมีนักเตะหลายคนย้ายออกจากทีม ฤดูกาลต่อมา ทีมมีฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่จนตกอยู่ในโซนตกชั้น สโมสรได้ไล่ เลย์วิงตัน ออกจากการเป็นผู้จัดการทีมในเดือนมีนาคมปี 2005 และแต่งตั้ง ไอดี บูธทรอยด์ มาช่วยให้ทีมรอดตกชั้น

กลับสู่พรีเมียร์ลีก

หลังจากได้คุมทีมแบบเต็มตัวในฤดูกาลแรกของบูธทรอยด์ เขาช่วยให้ทีมจบด้วยอันดับที่ 3 ของตาราง ก่อนจะมาแพ้ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในรอบเพลย์ออฟ นัดชิงชนะเลิศในการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีก พวกเขาไม่ชนะใครเลยจนกระทั่งเดือนพฤศจิกายน ซึ่งในฤดูกาลแรกวัตฟอร์ดชนะเพียง 5 นัดเท่านั้น ทำไมพวกเขาจบอันดับสุดท้ายของตาราง ต้องตกชั้นตั้งแต่ฤดูกาลแรก ในดิวิชั่น 1 พวกเขาได้อันดับที่ 6 ของตาราง พร้อมสิทธิ์เพลย์ออฟเลื่อนชั้น แต่ก็แพ้ต่อ ทีมฮัลล์ ซิตี้ ก่อนที่ฤดูกาล 2008-09 พวกเขาได้อันดับที่ 21 ของตารางคะแนน บูธทรก็ออกจากสโมสรไป

หลังจากนั้น เบรนเดน รอดเจอร์ ก็เข้ามาคุมทีม และช่วยให้ทีมจบฤดูกาลด้วย อันดับที่ 13 ก่อนที่เขาจะย้ายไปคุม ทีมเรดดิ้ง หลังจบฤดูกาล มอลกี้ แมคเคย์ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราว และช่วยให้วัตฟอร์ดจบฤดูกาล 2009-10 ด้วย อันดับที่ 16 และเขาก็ออกไปคุมทีม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในเดือนมิถุนายนปี 2011 และสโมสรได้แต่งตั้ง ฌอน ดายเฌ่ เป็นผู้จัดการทีมแทน อย่างไรก็ตามเขาก็ถูกไล่ออกในเดือนกรกฎาคมปี 2012 และแทนที่ด้วยอดีตนักเตะทีมชาติอิตาลีอย่าง จิอัลฟรังโก โซล่า พร้อมด้วยการเข้ามาควบคุมกิจการสโมสรของตระกูลพอซโซ่

เบรนเดน รอดเจอร์ ก็เข้ามาคุมทีม และช่วยให้ทีมจบฤดูกาลด้วย

ตระกูลพอซโซ่

ในฤดูกาล 2012-13 วัตฟอร์ดจบอันดับที่ 3 ในแชมเปี้ยนชิพ และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในการแข่งขัน เพลย์ออฟนัดชิงชนะเลิศ โดยพวกเขาแพ้ต่อทีม คริสตัล พาเลซ 1 ประตูต่อ 0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ จิอัสเซปเป้ ซานนิโน่ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่แทนที่ โซล่า และช่วยให้ทีมจบฤดูกาลด้วย อันดับที่ 13 ก่อนที่เขาจะลาออกก่อนเริ่มฤดูกาล 2014-15 และสโมสรได้แต่งตั้ง ออสการ์ การ์เซีย เป็นผู้จัดการทีมแทน แต่เขาก็คุมทีมได้ไม่นาน เนื่องจากเหตุผลด้านสุขภาพ

วัตฟอร์ดจบอันดับที่ 3 ในแชมเปี้ยนชิพ

บิลลี่ แมคคินเลย์ เข้ามาแทนที่การ์เซีย แต่เขาก็คุมทีมได้ไม่นานนัก หลังทำได้เพียง 4 คะแนนจากการแข่งขัน 6 นัด ทำให้สโมสรตัดสินใจปลดและแต่งตั้ง สลาวิซ่า โยคาโนวิช เป็นผู้จัดการทีมแทน เดือนมิถุนายนปี 2015 หลังจากโยคาโนวิชหมดสัญญากับสโมสร และไม่มีการต่อสัญญาใหม่ ได้มีการแต่งตั้ง ควิเฆ่ ซานเชซ ฟลอเรส และในฤดูกาล 2015-16 วัตฟอร์ดก็ได้เลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีก พร้อมทั้งเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในฟุตบอลเอฟเอคัพ ในพรีเมียร์ลีกพวกเขาจบด้วยอันดับที่ 13 เดือนพฤษภาคมปี 2016 ซานเชซถูกไล่ออกจากการเป็นผู้จัดการทีม เนื่องจากมีความเห็นไม่ตรงกันกับประธานสโมสร และเขาถูกแทนที่ด้วยผู้จัดการทีมชาวอิตาลี วอเตอร์ มาซซารี่ เขาคุมทีมถึงเดือนพฤษภาคมปี 2017 และลาออกไป สโมสรได้แต่งตั้ง มาร์โก ซิลวา เป็นผู้จัดการทีม แต่หลังจากนั้นเพียง 6 เดือนเขาก็ถูกไล่ออก เดือนมกราคมปี 2018 สโมสรได้แต่งตั้ง ฆาบี การ์เซีย เป็นผู้จัดการทีม