1. บาติสตูต้า เกิดในปี 1969 ที่เมือง อเบญาเนด้า ในประเทศอาร์เจนตินา และสิ่งที่น่าแปลกใจคือ บาติสตูต้า ไม่ได้เป็นคนที่สนใจฟุตบอลมาตั้งแต่เนิ่นๆ เขาชอบเล่นบาสเก็ตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย จนกระทั่งฟุตบอลโลกปี 1978 เปิดฉากการแข่งขันบนแผ่นดินเกิดของเขา และในฟุตบอลครั้งนี้นั่นเอง ความหลงใหลในฟุตบอลของเขาก็เริ่มพัฒนาขึ้นหลังจากเขาเห็นอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์โลก
2. หลังจากเริ่มอาชีพค้าแข้งของเขาในปี 1988 กับ นีเวลส์ โอลด์ บอยส์ เขายังมีโอกาสย้ายไปเล่นให้กับ ริเวอร์เพลท และโบคา จูเนียส์ อันเป็นสองทีมยักษ์ใหญ่ของลีกอาร์เจนติน่า ก่อนที่จะย้ายไปเซเรียอาในปี 1991 ซึ่งเขาเริ่มเติบโตในฐานะสไตรเกอร์ตัวทำประตูอย่างแท้จริง
3. ชื่อเล่นของเขามีอยู่หลากหลายแบบเลยทีเดียว ทั้ง ‘บาติโกล’, ‘เอล อังเคล กาเบรียล’ (พ่อเทวดากาเบรียล) และ ‘ไลอ้อน คิง’ โดยกาเบรียล บาติสตูต้า เป็นตัวทำประตูสูงสุดตลอดกาลเป็นอันดับที่ 11 ในประวัติศาสตร์ของเซเรียอาด้วยการยิง 184 ประตูจาก 318 นัด โดยนับรวมทั้งตอนเล่นให้กับ โรม่า, ฟิออเรนติน่า และ อินเตอร์ มิลาน
4. ดิเอโก้ มาราโดน่า ตำนานลูกหนังผู้ล่วงลับชาวอาร์เจนไตน์ เคยกล่าวไว้ว่า บาติสตูต้า เป็นกองหน้าที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาในโลกลูกหนังนี้
5. บาติสตูต้า ยังเป็นอดีตเจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอาร์เจนติน่าด้วยการยิงไป 56 ประตูจาก 78 นัดและเคยเล่นฟุตบอลโลก 3 สมัย (ปัจจุบันโดนสถิติยิงประตูในทีมชาติของ ลิโอเนล เมสซี่ แซงหน้าไปแล้ว) และในปี 1999 บาติสตูต้า ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของโลกในอันดับสาม และในปี 2004 เขาก็ได้รับการเสนอชื่อจาก เปเล่ ด้วยการใส่ชื่อเขาให้เป็นสุดยอดผู้เล่นที่ยังมีชีวิตอยู่และยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของ FIFA 100
6. เมื่อฟิออเรนติน่าตกชั้นสู่เซเรียบีในปี 1993 บาติสตูต้าก็อยู่กับสโมสรต่อ และช่วยให้พวกเขากลับสู่ลีกสูงสุดของอิตาลีในอีกหนึ่งปีต่อมา เขาเลยได้รับการยกย่องให้เป็นตำนานของเมืองฟลอเรนซ์ แฟนบอลฟิออเรนติน่าได้สร้างรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ขนาดเท่าตัวจริงของเขาในปี 1996 เพื่อยกย่องเขาด้วย
7. ในปี 2000 เขาย้ายไปโรม่าและเซ็นสัญญา 3 ปีกับทีมโรม่า โดยค่าตัวที่ โรม่า จ่ายให้กับฟิออเรนติน่าเพื่อเอาตัวของ บาติสตูต้า มาอยู่กับทีม ยังคงเป็นค่าตัวที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับการซื้อตัวผู้เล่นที่มีอายุเกิน 30 ปี
8. ในฤดูกาลแรกของเขากับ โรม่า เขายิงประตูให้กับสโมสรได้มากจนพาทีมคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1983 โดยเขายิงได้ 20 ประตูจากการลงเล่น 28 นัด และฤดูกาลถัดมากับโรม่า เขาเปลี่ยนหมายเลขเสื้อจาก 18 เป็น 20 โดยอ้างอิงจากจำนวนประตูที่เขาทำได้ในฤดูกาลที่แล้ว ที่เขาคว้าสคูเด็ตโต้ และจากนั้นเขาก็เปลี่ยนมาสวมเบอร์เสื้อตามอายุของเขาด้วยเช่นกัน โดยในปี 2002 เขาเลือกใส่หมายเลข 33ในปี 2015 บาติสตูต้า ถูกใส่ชื่อเข้า Hall of Fame ของโรม่าด้วย
9. หลังจาก 3 ฤดูกาลที่ โรม่า ผ่านพ้นไปนั้น เขาก็ถูก อินเตอร์ มิลาน ยืมตัวไปเล่น และจากนั้นเขาก็ย้ายออกจากอิตาลีเพื่อไปเข้าร่วมทีม อัล อาราบี้ ในกาตาร์ก่อนที่จะเกษียณจากวงการฟุตบอล ในกาตาร์ เขาทำลายสถิติการยิงประตูมากที่สุดในฤดูกาลด้วยการหวดไป 25 ประตูซึ่งเป็นสถิติที่ มานซูร์ มุฟทาห์ ตำนานของกาตาร์เคยทำไว้
10. หลังจากเลิกเล่น เขาก็ย้ายไปที่ เพิร์ธ ในออสเตรเลียเพื่อพักร้อนช่วงหนึ่ง แต่เขาก็ย้ายกลับไปที่อาร์เจนตินาในปี 2007 แม้จะได้รับใบอนุญาตทำงานเป็นผู้ฝึกสอนในอาร์เจนติน่า แต่ปัจจุบัน เขาก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับฟุตบอลอาชีพอะไรอีกเลย เขาชอบเล่นโปโลและกอล์ฟแทนครั้งหนึ่งเขาเคยอ้างว่า ‘ผมไม่ชอบฟุตบอล มันเป็นแค่งานของผมเท่านั้น’ในปัจจุบันเขาบริหารบริษัทรับเหมาก่อสร้างของตัวเองในอาร์เจนตินา
