เกมลีกคัพ รอบรองชนะเลิศนัดที่ 2 ของคู่บิ๊กแมตช์ที่ผ่านมา ระหว่าง เชลซี เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งผลการแข่งขันที่ออกมาถือว่าน่าสนใจมาก ๆ เนื่องจากในเวลาทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” สามารถเอาชนะไปได้ 2-1 ทำให้ต้องเตะกันถึงดวลฎีกาและกลายเป็น เชลซี ที่แม่นเป้ามากกว่าเอาชนะไปได้ 4-2 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ที่บอกว่าความน่าสนใจของเกมนี้นั่นคือการเปลี่ยนกฎใหม่ในศึกลีกคัพที่จะไม่มีการนับกฎอเวย์โกลเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ผลสรุป 2 นัดทั้งสองทีมเสมอกันไป 2-2 และอีกความน่าสนใจคือการที่ดาวเตะสเปอร์สหลายคนบาดเจ็บ ไม่พร้อมลงเล่นให้ทีมจนต้องพ่ายแพ้ไป
ความมั่นใจหล่นฮวบเลย
อย่างที่รู้กันว่าในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาบอร์ดบริหารของ สเปอร์ส เองไม่ได้อนุมัติเงินให้กับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์ซื้อนักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีมมากนักด้วยเหตุผลหลัก ๆ คือตอนนี้กำลังใช้เงินในการก่อสร้างสนามแห่งใหม่จน โปเช็ตติโน่ ตัดสินใจไม่ดึงใครมาร่วมทีม พร้อมแสดงความมั่นใจมาก ๆ ว่านักเตะที่เขามีอยู่ในเวลานี้จะทำให้ทีมเดินหน้าได้อย่างไม่มีสะดุด ทว่าหลังผ่านกลางซีซั่นมาปัญหานักเตะบาดเจ็บเริ่มเข้ามาสร้างความปวดหัวให้กับเขาแล้ว
ไล่ตั้งแต่การบาดเจ็บของ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงตัวเก่งของทีม ตามมาด้วย เดลเล่ อัลลี แถม ซอง เฮือง มิน ยังติดภารกิจรับใช้ทีมชาติในศึกเอเชี่ยนคัพอีก นี่จึงเป็นปัญหาของทีมที่ไม่สามารถแก้ให้ออกได้ จนในที่สุดมันเริ่มส่งผลอย่างชัดเจนว่าเวลานักเตะตัวหลักบาดเจ็บบรรดาตัวสำรองที่ต้องลงมากอบกู้สถานการณ์แทนแต่ไม่สามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมาย รูปเกมที่ออกมาจึงเป็นฝ่ายของเจ้าบ้านที่บุกทะลวงตาข่ายทีมเยือนอย่างไม่ลดละจนในที่สุดมันก็ได้ผลตามที่พวกเขาต้องการ แม้จะเอาชนะด้วยการยิงจุดโทษ แต่สิ่งนี้ทำให้เห็นว่า สเปอร์ส กำลังเข้าขั้นวิกฤตในการไม่มีนักเตะสำรองในยามที่ทีมต้องการ
นักเตะบาดเจ็บและไม่พร้อมลงสนามเริ่มส่งผลกระทบกับทีมมากขึ้นเรื่อย ๆ แถมในลีกยังตาม ลิเวอร์พูล ไกลสุดกู่โอกาสลุ้นแชมป์เลือนราง บางทีมันอาจเป็นการสะกิดบอร์ดบริหารของทีมให้รู้สึกได้บ้างว่าการที่ไม่ยอมให้เงินกุนซือสำหรับช็อปปิ้งช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเลย มันส่งผลกระทบใหญ่หลวงขนาดไหน เป็นอีกครั้งที่ สเปอร์ส ท่าดีทีเหลว ยังไม่สามารถควานหาแชมป์แรกในยุคของ โปเช็ตติโน่ ได้เสียทีและไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจึงจะเจอ
