คาร์เลส เรซัค
สุดยอดตำนานกองหน้าชาวสเปนของ บาร์เซโลน่า ที่เล่นอยู่ในยุคเดียวกับที่ โยฮัน ครัฟฟ์ เป็นจอมทัพประจำทีมในยุค 70 และเมื่อแขวนสตั๊ด ก็ได้ผันตัวมาเป็นผู้ช่วยโค้ชของ ครัฟฟ์ ในช่วงต้นยุค 90 ก่อนจะดันตัวเองขึ้นมาเป็นโค้ชเต็มตัวในปี 2001และช่วงเวลาก่อนหน้าที่ เรซัค จะมาเป็นโค้ชนั้น ในปี 2000 เขาเป็นคนสร้างตำนาน “กระดาษเช็ดปาก” ขึ้นมา โดยเขาได้หยิบกระดาษเช็ดปากบนโต๊ะในร้านอาหาร มาแทนกระดาษแล้วใช้ปากกาเขียนคำรับรองพร้อมลงลายเซ็นของเขาเพื่อเป็นเครื่องยืนยันให้กับ ฮอร์เก้ เมสซี่ พ่อของลิโอเนล เมสซี่ (ตอนนั้นลิโอเนลอายุ 13 ปี) เพื่อรับรองว่า เมสซี่ จะได้เข้าสู่ ลา มาเซีย อันเป็นแคมป์ฝึกซ้อมนักเตะเยาวชนของบาร์เซโลน่าแน่นอนซึ่งจากนั้น เมสซี่ ก็ได้มาอยู่ใน ลา มาเซีย จริงๆ ซึ่งก็ต้องขอบคุณ เรซัค ที่ในเวลานั้นทำงานเป็นหัวหน้าแมวมองของบาร์ซ่า
โรนัลดินโญ่
สุดยอดตำนานหมายเลข 10 ชาวแซมบ้าที่สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมเอาไว้มากมาย ทั้งการเลี้ยงบอล ยิงประตู จ่ายบอล โชว์สกิลแซมบ้าบนสนามให้แฟนบอลต้องฮือฮา และซิกเนเจอร์ของเขาก็คือรอยยิ้มที่ดูแล้วจริงใจ ทุ่มเทเพื่อฟุตบอลเสมอ โดยในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น โรนัลดินโญ่ คือนักเตะอันดับ 1 ของโลก และยังทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและพี่ชายที่ดีของเมสซี่ในสมัยเป็นดาวรุ่งเสมอ เขาทั้งคอยไปรับ-ส่งเมสซี่เสมอ เวลามาซ้อมกับสโมสร สอนเทคนิคต่างๆให้มากมาย ถ่ายทอดวิธีการยิงฟรีคิกให้กับเมสซี่ หรือเรีกยได้ว่าทุกอย่างที่ “รอนนี่” คิดว่าควรจะถ่ายทอดให้เมสซี่ เขาไม่เคยกั๊ก แล้วมันก็ทำให้เมสซี่รู้สึกสนิทสนมกับรุ่นพี่ฟันเหยินรายนี้มากเลยทีเดียว
ซิลวินโญ่
ตำนานแบ็กซ้ายชาวบราซิลที่ซึ่งเป็นอีก 1 ตัวซูเปอร์ซับที่ทำให้เกมรุกทางริมเส้นของบาร์ซ่าดูน่ากลัวมากขึ้น แถมวัยวุฒิของเขาที่เป็นผู้ใหญ่ ใจเย็น แถมยังเหมือนเป็นพี่ใหญ่ที่คอยรับสาส์นจากผู้จัดการทีม แล้วนำมาถ่ายทอดให้กับนักเตะในทีมได้ดีซิลวินโญ่ มีคาแรคเตอร์ที่เหมือน “พ่อ” เขาเป็นคนใจดีและยังเอ็นดูเมสซี่เสมอ เขาดูแลเมสซี่เป็นอย่างดี และคอยช่วยเหลือเมสซี่ราวกับลูกตัวเองตั้งแต่วันแรกที่เมสซี่ได้กลายมาเป็นนักเตะทีมชุดใหญ่
เดโก้ ซูซ่า
ตำนานจอมทัพทีมชาติโปรตุเกสที่ซึ่งสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซเอาไว้ให้กับบาร์ซ่า เขาคือนักเตะที่มีทักษะในการเล่นลูกเตะมุมที่ยอดเยี่ยม ฟรีคิกฉมัง และยังยิงไกลคมกริบ และนอกจากนี้ ลูกจ่ายคิลเลอร์พาสของเขายังแม่นยำ แปรเปลี่ยนเป็นแอสซิสต์ได้มากมายเดโก้ นอกจากว่าจะถ่ายทอดวิชาการผ่านบอลและฟรีคิกให้กับเมสซี่ เขายังเป็นแฟชั่นนิสต์ตัวพ่อ ที่ซึ่งเขาจะมีช่างทำผมประจำตัว ซึ่งเขาเองนี่แหละที่เป็นคนแนะนำช่างทำผมส่วนตัวของเขาให้กับเมสซี่ และมักจะแนะนำเมสซี่ให้ลองทำผมทรงต่างๆ หรือคอยซอยผมให้ ทำสีให้ เรียกได้ว่าพยายามทำให้น้องเล็กชาวอาร์เจนไตน์ดูหล่อเท่ตลอดเวลาเลยนั่นเอง
แฟรงค์ ไรจ์การ์ด
ผู้มีพระคุณที่ทำให้ เมสซี่ ได้รับโอกาสในการลงสนามในนามทีมชุดใหญ่ของบาร์เซโลน่า โดยไรจ์การ์ดนั้นส่งเมสซี่ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่วัย 18 ปีด้วยความเชื่อมั่น แล้วก็ได้กลายเป็นกำลังหลักของทีมมาตั้งแต่ยุคที่ไรจ์การ์ดคุมทีม จนวันสุดท้ายที่เมสซี่อยู่กับบาร์ซ่า
