แฟนบอลยุค 90 คงจะคาดหวังกันไว้มากพอสมควรเลยทีเดียวสำหรับการจะเห็นนักเตะสุดหล่อคนหนึ่ง ที่มีเอกลักษณ์คือไว้ผมเป็นหางเปียที่ท้ายทอย ก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึงนักเตะที่ชื่อว่า โรแบร์โต้ บาจโจ้ ตำนานกองหน้าหมายเลข 10 ชาวอิตาเลียนสุดคลาสสิกที่แฟบอลทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างก็ชื่นชอบถ้าเป็นคุณผู้ชาย ก็อาจจะหลงใหลในสไตล์การเล่นของ “เทพบุตรเปียทองคำ” ที่ทั้งเลี้ยงบอลติดเท้า แย่งยาก จ่ายบอลคมกริบ ยิงประตูได้เฉียบขาด ฟรีคิกฉมัง อีกทั้งยังเป็นสุภาพบุรุษทั้งในและนอกสนามอีกด้วยส่วนแฟนบอลสาวๆนั้นก็อาจจะหลงใหลในตัวของ บาจโจ้ ในเรื่องที่หน้าตา เพราะถ้าหากให้มีการจัดอันดับนักฟุตบอลหน้าตาหล่อๆตลอดกาลล่ะก็ บาจโจ้ ย่อมติดท๊อปอย่างแน่นอนเขาเป็นที่รักของแฟนบอล แต่ก็มีหลายๆครั้งที่เขาไม่ได้เป็นที่รักของผู้จัดการทีม แล้วมันมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ บาจโจ้ ไม่สามารถก้าวขึ้นมาสู่จุดสูงสุดของการเป็นแข้งอันดับ 1 ของโลกได้ !
อาการบาดเจ็บรุมเร้าตั้งแต่หนุ่มๆ
ในสมัยที่ บาจโจ้ ยังค้าแข้งให้กับ ฟิออเรนติน่า เขาเคยได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่หัวเข่าจนทำให้เขาอยากที่จะแขวนสตั๊ดไปเลยตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่ง แต่ว่าเพราะกำลังใจจากครอบครัว มันก็ทำให้เขาได้ก้าวผ่านจุดนั้นมาได้และสร้างชื่อขึ้นมาในฐานะยอดนักเตะของวงการฟุตบอลอิตาลีแต่เมื่อครั้งที่ฟุตบอโลก1994 วนกลับมาแข่งขัน บาจโจ้ ต้องลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ในสภาพที่เรียกได้ว่าใช้งานขาข้างซ้ายได้แค่ข้างเดียวด้วยซ้ำ เพราะเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บรุมเร้าที่กล้ามเนื้อและหัวเข่า แต่ก็ยังกัดฟันแบกทีมชาติอิตาลีเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศกับบราซิลได้ แถมบาจโจ้ ยังยิงได้ถึง 5 ประตู เป็นดาวยิงสูงสุดของทีมอีกด้วย ซึ่งก็น่าเสียดายที่เขายิงจุดดทษไม่เข้าในการดวลจุดโทษหาผู้ชนะ และจากนั้นอาการบาดเจ็บของเขาก็ยังตามหลอกหลอนมาเรื่อยๆจนถึงวันสุดท้ายในการเล่นบอลอาชีพของเขา
การเล่นที่ดูจะเวิร์คกับทีมระดับกลางๆ ค่อนไปทางทีมระดับเล็กๆ
บาจโจ้นั้น ค้าแข้งกับทีมใหญ่ๆมามากมาย ทั้งกับ ฟิออเรนติน่า , ยูเวนตุส , เอซีมิลาน และรวมถึงอินเตอร์ มิลาน แต่ทว่าตัวของเขากลับไม่ได้สำแดงเดชออกมได้เต็มที่เท่าไหร่นักยามที่ลงเล่นกับทีมใหญ่ๆ (แม้ว่าจะมีได้แชมป์ร่วมกับยูเวนตุสและเอซีมิลานอยู่บ้างก็ตาม) เพราะทั้งอาการบาดเจ็บ , ตำแหน่งทับซ้อนกับเพื่อนร่วมทีมบางคน และสำคัญคือโค้ชไม่ปลื้มแต่กลับกัน เขาสามารถกลายเป็นหัวใจสำคัญ เป็นเทพเจ้าของทีมเล็กๆอย่างเช่น โบโลญญ่า และ เบรสซา ได้ซะแบบนั้นเขาช่วย โบโลญญา เอาตัวรอดในลีกได้ รวมถึงค้าแข้งเบรสซาอยู่ 4 ปีเต็มในฐานะจอมทัพหมายเลข 10 ของทีม และตลอดเวลาที่บาจโจ้ลงเล่นให้กับเบรสซา พวกเขาสามารถเอาตัวรอดจากการตกชั้นได้ทุกปี แต่พอบาจโจ้เลิกเล่นบอลอาชีพ เบรสซาก็ตกชั้นไปในทันที
ผู้จัดการทีมไม่ไว้ใจในหลายครั้ง
ในสมัยที่ บาจโจ้ ลงเล่นให้กับเอซีมิลาน เขาเองก็ไม่ค่อยจะกินเส้นกับ อาริโก้ ซาคคี่ กุนซือหัวเหม่งที่ซึ่งมีปัญหากับ บาจโจ้ มาตั้งแต่ครั้งที่ร่วมงานในทีมชาติอิตาลีแล้ว โดยตัวของ ซาคคี่ ได้มองว่าบาจโจ้นั้นเลยจุดสูงสุดของตัวเองไปนานแล้ว อีกทั้งยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง เขาจึงไม่ค่อยคิดที่จะใช้งาน บาจโจ้ ลงเล่นให้กับมิลานเท่าไหร่นัก แต่ว่าเวลาเจ้าหนุ่มเปียทองคำได้ลงเล่น เขาก็มักจะโชว์ผลงานเป็นการตอกหน้าเสมอว่า เขายังมีพลังในการเล่นอยู่เช่นเดิมแม้ว่าปัจจุบันนั้น บาจโจ้ จะแขวนสตั๊ดไปนานหลายปีแล้ว แต่ว่าแฟนบอลก็ยังคงนึกถึงเพลงแข้งอันสุดแสนเร้าใจ ลูกเล่นที่เพลินตา เต็มเปี่ยมไประสิทธิภาพ รวมถึงเสื้อหมายเลข 10 อันป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของตำนานกองหน้าตัวต่ำที่ว่ากัรว่าดีที่สุดในอิตาลีตลอดกาลจากบาจโจ้อยู่เสมอ
