อาชีพค้าแข้งที่ไม่ง่ายของ แคสเปอร์
ชไมเคิล จูเนียร์ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งของเขาด้วยการพเนจร เขาย้ายไปเล่นให้กับสโมสรต่างๆแบบยืมตัวอยู่หลายแห่ง และการเป็นลูกชายผู้รักษาประตูในตำนานด้วยอีก มันก็ย่อมเป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้ที่เขาจะโดนสื่อกดดัน แต่เขาก็ใช้ความพยายามอยู่มากพอสมควรจนกระทั่งเขาได้มาเข้าร่วมฝึกฝีเท้ากับทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ระดับเยาวชนในเดือนกันยายน 2002การได้เซ็นสัญญากับ ซิตี้ มันเป็นสัญญาระยะยาวที่จะทำให้เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับทีมชุดใหญ่ในอนาคตด้วย แต่ว่ากว่าจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะอาชีพ เขาก็ต้องไปเก็บประสบการณ์กับทีม ดาร์ลิงตัน ด้วยสัญญายืมตัวในเดือนมกราคม 2006 ก่อนด้วย โดยเขาได้ลงเล่นในระดับอาชีพเกมแรก ในเกมที่ ดาร์ลิงตัน ได้สู้กับ ปีเตอร์โบโรห์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2006หลังจากนั้น เขาก็ได้กลับมาที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่พอได้อยู่ซ้อมกับทีมชุดใหญ่ได้ไม่นาน เขาก็ต้องย้ายออกไปเล่นให้กับ บิวรี่ ในรูปแบบการยืมตัวอีกครั้งแคสเปอร์ ชไมเคิล เซ็นสัญญายืมตัวอีกครั้งกับ ฟัลเคิร์ก ในเดือนมกราคม 2007 และเขาก็ถูกยืมตัวไปเล่นอีกสองสามสโมสรก่อนที่เขาจะกลับมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นการถาวรในที่สุด เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2009 ผู้รักษาประตูเลือดโคนมรายนี้ ได้เซ็นสัญญากับ น็อตต์ส เคาน์ตี้ โดยเขาได้เปิดตัวลงเล่นให้กับสโมสรแห่งนี้เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2009 และเขาก็ทำผลงานได้ดีมากที่สโมสรแห่งนี้หลังจากอยู่กับสโมสรมาหลายปี ชไมเคิลก็ได้ย้ายไปเซ็นสัญญาสองปีกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งด้วยผลงานของเขาที่ยอดเยี่ยม มันก็ได้ทำให้เขากลายเป็นผู้รักษาประตูตัวเลือกแรกของทีมในช่วงเวลานั้นต่อมา ลีดส์ ก็ได้ประกาศเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2011 ว่า ชไมเคิล จะได้ย้ายไปอยู่กับเลสเตอร์ ซิตี้ แต่ค่าตัวนั้นไม่ได้มีการเปิดเผย โดยเขาเซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมเลสเตอร์ ซิตี้เป็นเวลาสามปี (ณ เวลานั้นในช่วงฤดูกาล 2020-21 หรือ 10 ปีผ่านไป แคสเปอร์ ได้กลายเป็นกัปตันทีมที่นำทีมไปสู่ชัยชนะเหนือเชลซี และนั่นคือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่พวกเขาคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองได้
การโลดแล่นในสีเสื้อทีมชาติเดนมาร์ก
แคสเปอร์ ชไมเคิล ถูกเรียกตัวให้เล่นให้กับทีมชาติเดนมาร์กรุ่นอายุต่ำกว่า 19 ปีในเดือนสิงหาคม 2004 และเขาก็ได้กลายเป็นผู้รักษาประตูที่มีบทบาทสำคัญมากในทีมอย่างรวดเร็วอันที่จริงนั้น เขาได้รับการพิจารณาจาก FA ของอังกฤษ เพื่อให้เขาได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษด้วย แต่เขาได้ปฏิเสธและต้องการเล่นให้กับเดนมาร์กเท่านั้เขาได้ลงเล่นเปิดตัวในฐานะนักเตะทีมชาติเดนมาร์กชุดใหญ่ในการแข่งขันกับทีมชาติ นอร์ทมาซิโดเนีย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2013 ที่สนาม ฟิลิป อารีน่า และต่อมาเขาก็ได้รับเลือกให้ติดทีมชาติเดนมาร์ก ไปเล่นฟุตบอลโลก 2018แคสเปอร์ และตัวของ ปีเตอร์ พ่อของเขานั้น ได้กลายเป็นคู่พ่อ-ลูกชายคู่แรก ที่ได้ลงเล่นเป็นผู้รักษาประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย นอกจากนี้เขายังทำลายสถิติพ่อของเขาที่สามารถเก็บคลีนชีตได้ 470 นาทีในปี 1995 ได้สำเร็จ ด้วยการเก็บคลีนชีต 560 นาทีด้วยกัน
พ่อแม่หย่าร้าง
พ่อแม่ของ แคสเปอร์ ชไมเคิล ได้แยกทางกันด้วยเหตุผลที่แฟนบอลต่างก็รู้กันเป็นอย่างดี (และทางเราจะไม่ขอกล่าวถึง) โดยตัวของ ปีเตอร์ ชไมเคิล พ่อของเขาได้แต่งงานใหม่ในปี 2019 โดยเขาแต่งงานกับ ลอร่า วอน ลินด์โฮล์ม อดีตนางแบบเพลย์บอยหุ่นสะบึม
ภรรยาของ แคสเปอร์ ทำอาชีพเป็นนางพยาบาลผดุงครรภ์
ในสมัยที่ผู้รักษาประตูรายนี้ได้รู้จักกับภรรยาของเขาเป็นครั้งแรก เธอเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเชสเตอร์ ซึ่งเธอได้รับปริญญาด้านการผดุงครรภ์ หลังจากที่เธอเรียนจบ เธอก็ทำงานในโรงพยาบาลใกล้เมืองเบอร์มิงแฮม
