เอฟเฟคต์แรงมาก! สถานะทางด้านการเงินของ เอฟเวอร์ตัน ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังอยู่ในช่วงแห่งความระส่ำระสายพอสมควร หลังจากที่พวกเขาได้ตัดความสัมพันธ์กับ อลิเชอร์ อุสมานอฟ มหาเศรษฐีชาวอุซเบกิสถานไปแล้ว โทษฐานที่ อุสมานอฟ มีสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีจอมทรราชของประเทศรัสเซียเดลี่เมล์ได้กล่าวว่า เอฟเวอร์ตัน ต้องเผชิญกับสภาวะการสูญรายได้ไปมากถึง 300 ล้านปอนด์ ที่จะใช้เป็นงบประมาณในการเสริมทัพให้กับทีมของพวกเขาไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเนื่องจากการคว่ำบาตรของยุโรป ที่มีต่อรัสเซีย และตัวของอุสมานอฟเองก็โดนไปด้วย
ตอนแรกนั้น อุสมานอฟ กับองค์กรของเขา มีกำหนดจะลงนามในข้อตกลงเพื่อคว้าสิทธิ์ในการตั้งชื่อสนามกูดิสัน พาร์ค ให้มาเป็นชื่อว่า บรัมลีย์-มัวร์ ด็อค ตามความต้องการของบริษัท USM ของเขาข้อตกลงดังกล่าว จะทำให้ อุสมานอฟ อัดฉีดเงินขั้นต่ำปีละ 8 ล้านปอนด์ให้กับเอฟเวอร์ตันเป็นเวลา 10 ปี และทาง USM สามารถขยายสัญญาการเป็นพาร์ทเนอร์ได้ยาวถึง 20 ปีโดยมีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ 8 ล้านปอนด์ต่อปีอย่างที่บอกไป แต่ก็สามารถเพิ่มขึ้นในบางกรณีเป็น 15 ล้านปอนด์ต่อปีได้ด้วย
หากข้อตกลง 20 ปีถูกเปิดใช้งาน เอฟเวอร์ตันจะได้ประโยชน์จากการลงทุนครั้งนี้ของ อุสมานอฟ ด้วยการได้รับเงินทุน 300 ล้านปอนด์ และคาดว่าจะใช้กับการใช้จ่ายเพื่อซื้อนักเตะมาร่วมทีมแต่ตอนนี้ อุสมานอฟ กำลังถูกลงโทษโดยทั้งสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร สำหรับความใกล้ชิดของเขากับ ปูติน ซึ่งกำลังทำสงครามกับยูเครน ดังนั้นเอฟเวอร์ตันจึงตัดสินใจยกเลิกข้อตกลงทางการค้าสามฉบับกับบริษัทจากประเทศรัสเซียที่มีความเกี่ยวข้องกับอุสมานอฟ ได้แก่ USM, MegaFon และ Yota
