ทำไม บาร์เซโลน่า ถึงเซ็นสัญญากับ มาร์ติน เบรธเวต

มาร์ติน เบรธเวต กองหน้าทีมชาติเดนมาร์ก

“เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน มีตำนานกองหน้ามากมาย อาทิ โรมาริโอ, โรนัลโด้, โรนัลดินโญ, ริวัลโด้, ซามูเอล เอโต้, หลุยส์ ซัวเรซ, ลิโอเนล เมสซี่ และตอนนี้พวกเขามี มาร์ติน เบรธเวต กองหน้าทีมชาติเดนมาร์ก

บาร์เซโลน่า ได้รับอนุญาตทางสหพันธ์ฟุตบอลสเปน เพื่อทำการเสริมทัพแบบฉุกเฉินระหว่างฤดูกาลเนื่องจาก ส่งผลการตรวจยืนยันทางการแพทย์ว่า หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าขวาเรื้อรังมานาน และ อุสมาน เดมเบเล่ ตัวรุกทีมชาติฝรั่งเศส ได้รับบาดเจ็บที่ต้นขา ซึ่งทำให้ดาวเตะทั้ง 2 ราย หมดสิทธิลงช่วยทีมตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ จึงทำให้พวกเขาจ่ายค่าฉีกสัญญา 18 ล้านยูโร คว้าตัว เบรธเวต มาจาก เลกาเนส

ขณะเดียวกัน การคว้าตัว เบรธเวต มาร่วมทีมนั้น ทำให้เกิดคำถามมากมาย กฎนั้นยุติธรรมหรือไม่ บาร์เซโลน่า ต้องการตัวเขาจริงหรือไม่ ซึ่งนักเตะคนหนึ่งที่เคยเล่นกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ แต่จะจบฤดูกาลด้วยการเป็นแชมป์ลา ลีกา กับ “เจ้าบุญทุ่ม” ได้หรือไม่

ผู้เล่นในศึกฟุตบอลสเปนทุกคนมีค่าฉีกสัญญาของตัวเอง และ บาร์เซโลน่า ก็มีความสามารถทางการเงินมากพอที่จะจ่ายเงินเพียง 18 ล้านยูโร เพื่อซื้อตัว เบรธเวต ซึ่งย้ายจาก มิดเดิ้ลสโบรช์ มาเล่นกับ เลกาเนส เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ดาวยิง “โคนม” ไม่ได้รับอนุญาตให้เล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะผ่านพ้นวันลงทะเบียนนักเตะไปเรียบร้อยแล้ว แต่เขาสามารถลงเล่นในครึ่งซีซั่นที่เหลืออีก 14 เกม ในศึกลา ลีกา ได้อย่างไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

ราฟาเอล โฮนิกสไตน์ ผู้สื่อข่าวฟุตบอลจากรายการ BBC Radio 5 Live กล่าวว่า “ลา ลีกา ต้องดูกฎนี้ มันสมเหตุสมผลสำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู แต่การที่จะซื้อกองหน้าเข้ามาอีกคนเพราะผู้เล่นคนหนึ่งมีอาการบาดเจ็บนั้น ผมว่ามันบ้ามาก”

“บาร์เซโลน่า ขายกองหน้าไป 2 คนในเดือนมกราคมที่ผ่านมา และสิ่งหนึ่งที่ทำให้อำนาจทางการเงินของพวกเขาอยู่ในการตรวจสอบคือ การใช้เงินในตลาดนักเตะห้วงที่ผ่านมาหากคุณอนุญาตให้ทีมหลีกเลี่ยงสิ่งนั้นผ่านบางอย่างได้”

ความจริงก็คือ บาร์เซโลน่า ยังคงมีแนวรุกที่ยอดเยี่ยม ซึ่งพวกเขายังคงมีนักเตะอย่าง เมสซี่, อองตวน กรีซมันน์ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส ที่มีค่าตัวแพงที่สุดอันดับ 4 ของโลก และ อันซู ฟาติ กองหน้าดาวรุ่งมากพรสวรรค์ ที่พร้อมลงสนาม

ย้อนกลับไปในวันปิดตลาดนักเตะเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น บาร์เซโลน่า ตัดสินใจขาย 2 แนวรุกอย่าง การ์เลส เปเรซ ให้กับ โรม่า ในศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี และ อาเบล รุยซ์ ให้กับ บราก้า ในลีกสูงสุดโปรตุเกส

ขณะเดียวกัน บาร์เซโลน่า คว้าตัว ฟรานซิสโก้ ตรินเซา กองหน้าอนาคตไกลจาก บราก้า มาร่วมทีมเมื่อตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 31 ล้านยูโร แต่พวกเขาปล่อยให้ บราก้า ยืมตัวใช้งานไปจนจบฤดูกาลนี้ และจะย้ายมาเล่นในถิ่นคัมป์ นู ในช่วงซัมเมอร์

ในวันเดียวกับการย้ายทีมของ เบรธเวต นั้น มีเรื่องให้พูดถึงมากมาย เนื่องจาก เปเรซ และ รุยซ์ นั้น ต่างทำประตูให้กับต้นสังกัดของตัวเองได้ทั้งคู่ในการลงเล่นในศึกฟุตบอลยูโรป้า ลีก ซึ่งหลายคนมองว่า “เจ้าบุญทุ่ม” อาจทำพลาดที่ปล่อยพวกเขาไป

กิลเลม บาลาเก กูรูฟุตบอลชื่อดังชาวสเปนกล่าวว่า “เปเรซ และ รุยซ์ น่าจะมีประโยชน์กับพวกเขา แต่พวกเขาไม่คิดว่า ทั้ง 2 คน จะพร้อมสำหรับทีมชุดแรก แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้เล่นบางคนสามารถยกระดับเกมของพวกเขาได้”

นอกจากนี้ มีรายงานข่าวระบุว่า เมื่อตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น บาร์เซโลน่า ให้ความสนใจในตัวของ โรดริโก ดาวยิงชาวสเปนของ บาเลนเซีย แต่พวกเขาไม่ยอมจ่ายค่าฉีกสัญญา 50 ล้านยูโร ตามที่ “ไอ้ค้างคาว” ต้องการ รวมถึงยังสนใจ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าตัวเก่งของ แอร์เบ ไลป์ซิก และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง หัวหอกชาวกาบอง ของ อาร์เซน่อล ด้วยเช่นเดียวกัน

มินา ซูกิ กูรูลูกหนังฟุตบอลยุโรปกล่าวว่า “พวกเขาทำผิดพลาดในการวางแผน พวกเขาขาย เปเรซ และ รูอิซ พวกเขารู้ว่า อาการบาดเจ็บของ ซัวเรซ จะใช้เวลานานในการพักฟื้น และทำไมพวกเขาถึงตัดสินใจแบบนั้น และ เลกาเนส ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย”

บาร์เซโลน่า ยังมีนักเตะทีมชุดใหญ่ 2 ราย ที่เล่นอยู่ในทีมชุด บี ซึ่งอยู่ในลีกระดับ 3 ของแดนกระทิงดุ นั่นก็คือ ฮิโรกิ อาเบะ ดาวยิงทีมชาติญี่ปุ่น ที่คว้าตัวมาจาก คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ในลีกแดนปลาดิบ และ เรย์ มาไน หัวหอกทีมชาติแอลเบเนีย ที่ซัดไปแล้ว 2 ประตูในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก

ทำไม บาร์เซโลน่า ถึงเซ็นสัญญากับ มาร์ติน เบรธเวต

ในฤดูกาลที่แล้ว บาร์เซโลน่า ได้ทำธุรกิจที่น่าประหลาดใจอีกครั้งด้วยการยืมตัว เควิน-พริ้นซ์ บัวเต็ง กองกลางชาวกาน่า มาจาก ซาสซูโอโล่ ในศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี แต่ดาวเตะวัย 31 ปี ได้ลงเล่นให้กับ บาร์ซ่า ไปเพียง 4 เกมเท่านั้น ซึ่ง เบรธเวต ก็อาจต้องเจอสถานการณ์เดียวกัน

บาลาเก กล่าวต่อว่า “เบรธเวต ต้องการคำแนะนำทางแท็คติคอีกมาก ผมเพิ่งคุยกับ ดาวิด บียา (อดีตกองหน้า บาร์เซโลน่า) ซึ่งเขาบอกผมว่า เขาเรียนรู้เกี่ยวกับแท็คติคเยอะมากในฐานะผู้เล่นตัวรุกด้านกว้างเมื่อเขาย้ายไปยัง บาร์เซโลน่า”

“กับ บาร์เซโลน่า คุณจำเป็นต้องเรียนรู้มา นั่นคือความกังวลของผม เบรธเวต ไม่มีเวลาที่จะเรียนรู้สิ่งนั้นในครั้งเดียว พวกเขาคิดว่า เขาจะถูกนำมาใช้งานทันที ซึ่งอาจจะไม่ใช่เกมกับ เออิบาร์ ในวันเสาร์ และเขาจะเล่นได้ลงเล่นมากหรือไม่ ไม่มีใครรู้ ผมคิดว่าเขาอาจจะถูกขายในซัมเมอร์หน้า เพราะ บาร์เซโลน่า ต้องการกองหน้าบิ๊กเนมอีกคน”

ขณะเดียวกัน เวลาของ เบรธเวต ที่ มิดเดิ้ลสโบรช์ นั้น ค่อนข้างพอใช้ได้ โดย โรเบิร์ต ลอว์ นักข่าวจาก BBC Tees กล่าวว่า “ตอนที่ผมสัมภาษณ์เขาครั้งแรก เขาดูมีความมั่นใจมาก เขาเปรียบเทียบตัวเองกับตำนานของ โบโร่ อย่าง จูนินโญ่ และบอกให้แฟนบอลเชื่อมั่นเขา”

จากรายงาน ผลบอลย้อนหลัง ตลอดระยะเวลา 2 ซีซั่นกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ นั้น เบรธเวต ลงสนามไป 40 เกม และยิงไป 9 ประตูเท่านั้น โดยดาวเตะเดนมาร์ก ถูกคว้าตัวมาจาก ตูลูส ในลีกเอิง เมื่อปี 2017 ด้วยค่าตัว 9 ล้านปอนด์ แต่เขาก็ไม่สามารถพา โบโร่ กลับไปเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก ได้

เบรธเวต แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาภายใต้การคุมทีมของ แกร์รี่ มังค์ ที่ มิดเดิ้ลสโบรช์ จากนั้น โทนี่ พูลิส เข้ามาคุมทีมแทน โดยหัวหอก “โคนม” ลงเล่นให้กับ พูลิส ไป 3 เกม ก่อนจะถูกปล่อยยืมตัวไปยัง บอร์กโดซ์ ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล

เบรธเวต กลับมาอย่างน่าประหลาดใจในฤดูร้อนนั้น และยิงไป 3 ประตู ใน 4 เกมแรกในลีกให้กับ มิดเดิ้ลสโบรช์ แต่เขาถูกปล่อยตัวออกจากสโมสรไปยัง เลกาเนส ในวันเดดไลน์ในช่วงซัมเมอร์เดือนสิงหาคมปี 2019

กองหน้าชาวเดนมาร์ก เคยให้สัมภาษณ์หลังย้ายออกจาก มิดเดิ้ลสโบรช์ ว่า “ผมจะไม่กลับมาที่ มิดเดิ้ลสโบรช์ อีกแล้ว เพราะ โทนี่ พูลิส มีวิธีแปลกๆในการเล่นฟุตบอล”

อย่างไรก็ตาม พูลิส ตอบโต้ เบรธเวต ด้วยความโกรธว่า “เพื่อแสดงความไม่เคารพที่เขาแสดงต่อสโมสรแห่งนี้ โดยบอกว่าเขาจะไม่กลับมาที่นี่อีก ผมแปลกใจ เพราะสโมสรแห่งนี้ทำให้เขาเป็นเศรษฐีเงินล้าน ผมจัดการกับผู้เล่นมาตลอดชีวิต บางคนสามารถทำให้ผมปวดหัวได้ แต่สำหรับเขาที่จะออกมา และพูดแบบนั้น มันแค่ทำให้เขาอยู่ที่นั่นในฐานะคนอกตัญญู”

สำหรับเส้นทางอาชีพของ เบรธเวต นั้น เขาเริ่มเล่นให้กับสโมสรบ้านเกิดอย่าง เอสเบิร์ก จากนั้นย้ายไป ตูลูส,มิดเดิ้ลสโบรช์,บอร์กโดซ,เลกาเนส และตอนนี้ บาร์เซโลน่า โดยลงเล่นตลอดอาชีพไป 348 เกม ซัดไป 85 ประตู พร้อมคว้าแชมป์เดนิช คัพ 1 สมัย เมื่อปี 2013 ซึ่งเป็นแชมป์รายการเดียวในอาชีพของเขา

ใครจะอธิบายสไตล์การเล่นของ เบรธเวต ได้ดีไปกว่าตัวเขาเอง โดยในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของ บาร์เซโลน่า ในสัปดาห์นี้หลังจากย้ายเข้าร่วมทีมนั้น ดาวยิงเดนมาร์ก กล่าวว่า “ผมเป็นนักฟุตบอลที่มีเทคนิค นอกจากนี้ยังมีร่างกายที่ดี ผมรวดเร็ว และแข็งแกร่ง”

“คุณลักษณะที่ดีที่สุดของผมคือ ความฉลาดของผม ผมเคลื่อนไหวอย่างชาญฉลาด และศึกษาเกมอยู่เสมอ ผมเรียกตัวเองว่าเป็นนักเรียนฟุตบอล ผมคิดว่าวิธีที่เราเล่นที่นี่ และการเคลื่อนไหวของผมจะช่วยทีมได้มาก แน่นอนว่าสิ่งสำคัญคือ ผมเป็นผู้ทำประตู ผมมาที่นี่เพื่อทำประตู”

บาลาเก กล่าวเสริมว่า “เขาจะถูกขอให้เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องบริเวณแนวรับคู่แข่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ บาร์เซโลน่า ต้องการ และเขาสามารถทำได้ เขามีร่างกายที่แข็งแกร่งมาก และเขาสามารถมีความสำคัญในทีมชุดแรกได้”

หนึ่งในประเด็นที่ใหญ่ที่สุดในสถานการณ์นี้คือ เลกาเนส ซึ่งกำลังอยู่ในโซนตกชั้นอยู่ในขณะนี้ โดยไม่มีกองหน้าตัวหลักที่คอยทำประตู และไม่มีทางที่พวกเขาจะหาใครมาแทนที่ เบรธเวต ซึ่งซัดไป 8 ประตู จาก 18 เกมที่ลงสนามในฤดูกาลนี้ได้

มาร์ติน ออร์เตก้า ประธานบริหาร เลกาเนส กล่าวว่า “กฎนี้ไม่ยุติธรรม และ บาร์เซโลน่า ได้รับประโยชน์จากมัน ในขณะที่ เลกาเนส ต้องเสี่ยงมากๆ เราต้องการส่งเสียงของเราออกไปให้ทุกคนได้รับรู้ เพราะเราอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย และได้รับความเสียหายมากมาย”

“เราไม่สามารถเข้าใจคำวินิจฉัยที่อนุญาตให้สโมสรที่มีผู้เล่นที่บาดเจ็บได้รับการซื้อตัวฉุกเฉินแบนี้เพียงฝ่ายเดียว และโอนปัญหาของพวกเขาไปยังสโมสรอื่น”

ซูกิ กล่าว่า “ผมยังไม่เห็นว่าใครจะได้ประโยชน์เลย บาร์เซโลน่า จ่ายเงินให้ เลกาเนส เกือบ 20 ล้านยูโร สำหรับการแข่งขันอีกเพียง 14 นัด และคุณสงสัยหรือไม่ว่า เขาจะได้ลงเล่น ผู้คนจะคิดว่า บาร์เซโลน่า สามารถทำสิ่งที่พวกเขาชอบได้ แต่ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นการตลาดที่ยอดเยี่ยม เพราะพวกเขามียูนิเซฟเป็นสปอนเซอร์ที่ด้านหลังเสื้อของพวกเขา”

การคว้าตัว เบรธเวต มาร่วมทีม