กองกลางที่จะต้องเล่นบอลกันเร็วขึ้น !
ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ กองกลางของทีมชาติเยอรมัน เล่นกันช้า อาศัยการค่อยๆถ่ายบอลไปมา แต่ก็ค่อนข้างไร้จุดหมาย ถ้าหากว่าบอลถึงทางตัน บอลจะถูกฝากไว้ที่ โทนี่ โครส จอมทัพที่จะคอยกระจายบอลสั้นยาว ป้ายออกซ้ายขวา แต่หารู้ไม่ว่าถึงแม้ว่าโครสจะจ่ายบอลยาวได้แม่น แต่ก็เป็นแค่การเปิดออกซ้ายขวา หาได้มีลูกแทงทะลุช่องทะลุทะลวงตรงกลาง !ฟลิกนั้นพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าในบาเยิร์น มิวนิค กองกลางทุกคนต้องช่วยกันเพรสซิ่ง ต่อบอลกันเร็วขึ้น เน้นการทำหน้าที่ของมิดฟิลด์สไตล์ บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ มากกว่าเดิม ซึ่ง ณ จุดนี้ จึงมีโอกาสที่จะได้เห็นการมายืนตรงกลางมากขึ้นของ โยชัว คิมมิช และ ลีออน โกเร็ตซ์ก้า ในพื้นที่แดนมิดฟิลด์ !
ระบบหน้าเป้าธรรมชาติจะต้องกลับมา !
ในยุคสมัยที่ทีมชาติเยอรมัน ยังมีตัวของ ฮันซี่ ฟลิก ทำหน้าที่เป้นมือขวาของทาง โยกี้ เลิฟ พวกเขายังมีนักเตะที่ชื่อว่า มิโรสลาฟ โคลเซ่ เป็นหน้าเป้าตัวหลักของทีม และแน่นอนว่าการพึ่งพาการยืนค้ำในเขตโทษของ โคลเซ่ ที่พักบอลได้ เป็นตัวโพสต์เพลย์ให้กับเพื่อน เรียกว่ามีประโยชน์มาก และยังทำหน้าที่ยิงประตูได้อีกตามตำแหน่งของตัวเองยามที่ ฟลิก คุมทีมบาเยิร์น มิวนิค หน้าเป้าอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ สามารถยิงประตูได้มากมายกว่าเดิม ระบบของทีมเอื้อต่อกองหน้าหมายเลข 9 ชาวโปแลนด์เป็นอย่างมากแต่ว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้ เยอรมัน เล่นบอลด้วยการใช้แผน “ไร้กองหน้า” แบบที่สเปนเคยใช้มาก่อนในช่วงที่คว้าแชมป์ยูโร 2012 แต่ทว่าสูตรการเล่นแบบไร้กองหน้านั้นก็ดูเก่าไปแล้ว และโดนจับทางได้ง่ายอีก การเข้ามาคุมทีมชาติเยอรมันของ ฟลิก จึงน่าจะเป็นการให้โอกาสกองหน้าตัวเป้ากลับมาแจ้งเกิดในทีมชาติเยอรมันได้หน้าที่ของฟลิกในตอนนี้ก็คือ เขาจะต้องค้นหา “หมายเลข 9” ชาวเยอรมันที่วางใจเรื่องฝีเท้าได้ เข้ามาเติมเต็มในทีม !
รั้งนายทวารไว้เป็นพี่ใหญ่ในทีม !
ผ่านมาเป็นสิบปีแล้วที่ มานูเอล นอยเออร์ นายทวารที่เหลือรอดมาจากทีมชุดแชมป์โลก 2014 ยังอยู่กับทีมชาติเช่นเดิม และแน่นอนว่าเพื่อนร่วมทีมชาติชุดแชมป์โลกของเขา ต่างก็อำลาทีมไปหมดแล้วนอยเออร์ ยังหนึบ และยังวางใจในเรื่องการเล่นบอลด้วยเท้า การออกมาตัดบอล การป้องกันประตู เขายังทำได้ดีหมด และนอกจากนี้ เขาเองก็คุ้นเคยกับฟลิกมากกว่าใคร ร่วมงานกันทั้งตอนสมัยฟลิกเป็นผู้ช่วยของเลิฟ ร่วมงานกันตอนที่ฟลิกคุมบาเยิร์น มิวนิค เรียกว่าถึงยังไง ฟลิก ก็น่าจะใช้บริการนอยเออร์เป็นมือ 1 และเป็นพี่ใหญ่ในทีมชาติเยอรมันต่อไปตอนนี้ยังไม่มีข่าวว่า นอยเออร์ จะอำลาทีมชาติหรือไม่ แต่ฟลิกคงจ้องหาทางเจรจากับเขาให้ลงตัวที่สุดก่อนนั่นเอง เยอรมันยุคใหม่ จะเป็นเช่นไร ? มันเป็นคำถามที่น่าสนใจหลังจากที่ทีมชาติเยอรมันยุค โกลเด้นเจเนเรชั่น ได้สิ้นสุดยุคทองของมันเองไปแล้ว หลังจากที่ โยกี้ เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ผู้ที่คุมทีมชาติมาตั้งแต่ปี 2006 ได้เวลาพักผ่อนด้วยการ “ลาออก” หลังจากที่ทัวร์นาเมนต์ยูโร 2020 ของพวกเขาได้ปิดฉากลงด้วยความพ่ายแพ้ของเยอรมัน ที่โดนทีมชาติอังกฤษเล่นงานด้วยสกอร์ 2-0หลังจากที่ เลิฟ ลาออกจากตำแหน่งนั้น มันก็มีนักเตะที่อยู่ในทีมชาติชุดนี้มาตั้งแต่สมัยที่เลิฟคุมทีมช่วงแรกๆ จะอำลาทีมชาติตามไปด้วยเช่นกัน ! นักเตะอย่าง โทนี่ โครส คือนักเตะที่ประกาศชัดเจนว่าเขาจะขอรีไทร์ตัวเองจากทีมชาติ หลังจากรับใช้เยอรมันมาตั้งแต่ปี 2010 ผ่านการได้แชมป์โลกมา 1 สมัย และยังมีรายของ อิลคาย กุนโดกัน ที่คาดว่าจะอำลาทีมไปด้วยเช่นกันส่วนรายของ โธมัส มุลเลอร์ ยังก้ำกึ่งอยู่ว่าเขาจะอำลาทีมชาติไปด้วยอีกคนหรือไม่ …และทุกคนก็ทราบดีกันอยู่แล้วว่าคนที่จะมาสานต่อภารกิจของ เลิฟ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย แต่เป็นตัวของ ฮันซี่ ฟลิก อดีตกุนซือทีมบาเยิร์น มิวนิค ชุดคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ 2019-20 นั่นเอง และเขาเองก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลของทีมชาติเยอรมันอีกด้วยเขาเคยเป็นมือขวาของ เลิฟ ที่ช่วยให้ทีมชาติเยอรมันคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 มาครองได้นั่นเอง โดยเขาจะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยทีเดียว และมันจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง !
