เรียกว่ากำลังรอคอยโอกาสที่จะได้ชูถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกสมัยแรกอยู่อย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียวสำหรับ อายเมอริค ลาปอร์เต้ กองหลังทีมชาติสเปนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้กองหลังเลือดฝรั่งเศสที่ได้เลือกเล่นให้กับสเปน เขาย้ายมาเล่นให้กับ ซิตี้ ตั้งแต่ในช่วงฤดูร้อนปี 2018 ได้แชมป์ลีกร่วมกับสโมสรมาแล้ว 2 สมัย แชมป์บอลถ้วยอีกสารพัดกำลังลุ้นในการได้แชมป์ยุโรปสมัยแรก แม้ว่าในฤดูกาลนี้เขาจะตกเป็นตัวสำรองให้กับ จอห์น สโตนส์ และตัวของ รูเบน ดิอัส แต่เขาก็ไม่เคยคิดยอมแพ้อดีตแข้งเยาวชนของแอธเลติก วัย 28 ปี ผ่านเรื่องราวที่ดีและแย่มาก็มากมาย และนี่คือเรื่องราวที่น่าสนใจของเขา
1. ฟุตบอลอยู่ในสายเลือดของลาปอร์เต้
ลาปอร์เต้ ได้เริ่มอาชีพนักฟุตบอลของเขาตั้งแต่เมื่ออายุแค่ 5 ขวบที่สโมสรฟุตบอล SU เอเจน ในบ้านเกิด”พ่อของผมเล่นฟุตบอลและรักบี้มาก่อนแม่ของผมเล่นฟุตบอลมานานแล้ว พี่สาวคนโตของผมก็เล่นบอลมาหลายปี ลุงของผมก็เช่นกัน”ลาปอร์เต้ เคยเล่นบอลเป็นเวลาหนึ่งฤดูกาลกับ อาบิรอน บายอนไนส์ ก่อนที่เขาจะได้ย้ายไปเข้าร่วมฝึกฝีเท้าในทีมเยาวชนของแอธเลติก บิลเบา ในปี 2010 และเขาก็ได้ลงสนามเปิดตัวในลีกเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2012 ได้กลายเป็นชาวฝรั่งเศสคนที่สองที่ได้เล่นให้กับทีมดังของแคว้นบาสก์ต่อจาก บิเซนเต้ ลิบาราซู “ในเกมเปิดบ้านสู้กับเซลต้า ผมได้ลงเล่นในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน” ลาปอร์เต้เล่า “มันเป็นความรู้สึกที่สวยงามที่สุดครั้งหนึ่ง ทั้งแฟน ๆ บรรยากาศที่สนาม ซาน มาเมส ที่พวกเราหวังจะคว้าชัยชนะให้แฟนบอล มันเป็นการเปิดตัวในฝัน แอธเลติกสอนผมมากมาย”เขาได้รับการเลื่อนชั้นให้เป็นสมาชิกในทีมชุดแรกในแคมเปญการแข่งขันฤดูกาล 2012-13 โดยเขาเป็นผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กด้านซ้ายเป็นหลัก ลาปอร์เต้ กล่าวกับ La Liga TV
2. ซิลแวง วิลตอร์ด อดีตสตาร์ดังของอาร์เซนอลเป็นไอดอลของเขา
ลาปอร์เต้ เห็นแบบนี้เขาเคยเล่นเป็นกองหน้าในช่วงต้นอาชีพของเขา และเขาเองก็เป็นแฟนตัวยงของอดีตอาร์เซนอลและทีมชาติฝรั่งเศสอย่าง วิลตอร์ด ซึ่งเป็นอดีตกองหน้าชื่อดังผมเริ่มต้นจากการเป็นกองหน้า ผมเคยทำประตูได้ 8 ลูกจนได้รางวัลดาวยิงสูงสุดในทัวร์นาเมนต์หนึ่งมาแล้วผมมีไอดอลหลายคน แต่พวกเขาไม่ได้เป็นดาวดังที่มีชื่อเสียงมากเท่าไหร่นัก ตอนที่ผมยังเด็กมาก ผมชอบกองหน้าคนหนึ่งที่เล่นให้กับ บอร์กโดซ์ ซึ่งเป็นทีมที่ผมเชียร์ เขาคือ ซิลแวง วิลตอร์ด ผมมีเสื้อของ วิลตอร์ด ด้วยนะครับ“และผมยังชอบ [อดีตกองหน้าชาวโปรตุเกสและอดีตผู้เล่นบอร์กโดซ์] เปาเลต้า ด้วยเช่นกัน ผมมีท่าฉลองตอนยิงประตูได้เหมือนที่เขาทำด้วยนะ” ลาปอร์เต้กล่าว
3. เขาต้องเอาชนะปัญหาการบาดเจ็บหนักในหลายครั้ง
แม้จะเป็นกองหลังที่เล่นบอลได้แข็งแกร่ง สูงใหญ่และทรงพลัง แต่เขาก็ต้องอดทนกับอาการบาดเจ็บทั้งหนักและเบามาตลอดในอาชีพการเล่นบอลของเขา
ในเดือนพฤษภาคม 2013 ลาปอร์เต้ เคยเข้ารับการผ่าตัดที่หัวเข่าซ้ายมาแล้วเพราะเส้นเอ็นหัวเข่าซ้ายฉีกขาด ซึ่งก่อนหน้านี้เขายังเคยได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าขวาเช่นเดียวกันอาการบาดเจ็บครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่ง มันเคยเกิดขึ้นกับเขาในเดือนมีนาคม 2016 เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บกระดูกน่องหักและข้อเท้าขวาหลุดขณะเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศสชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี อาการบาดเจ็บครั้งนั้น มันทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นในช่วงที่เหลือของฤดูกาล และมันก็ทำให้เขาไม่พร้อมสำหรับการไปเล่นยูโร 2016
4. เขาเคยปฏิเสธแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016
ลาปอร์เต้ เคยดึงดูดความสนใจจากสโมสรชั้นนำในยุโรปมาหลายทีม หลังจากเขาทำสถิติลงเล่น 44 เกมให้กับแอธเลติก บิลเบา ในฤดูกาล 2015-16เขาได้เซ็นสัญญาย้ายไปเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2018 แต่เอาเข้าจริงนั้นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยตามจีบเขามาตั้งแต่ปี 2016 แล้ว ทั้งๆที่กองหลังรายนี้ได้เซ็นสัญญาสี่ปีกับบิลเบาไปในช่วงฤดูร้อนปี 2016 และกลายเป็นผู้เล่นที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดของสโมสรก็ตาม แต่ตอนนั้นเขาปฏิเสธข้อเสนอจากซิตี้ไป”[เป๊ป] กวาร์ดิโอล่า ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นคนที่เก่งแค่ไหน นอกจากการเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยม เขายังเป็นคนที่ดีด้วย” ลาปอร์เต้เคยกล่าวไว้ในเวลานั้น“ตอนนั้นผมแค่ต้องการทำให้ร่างกายตัวเองกลับมาแข็งแกร่งให้ได้เสียก่อน เพราะผมเจ็บหนักมากในเวลานั้น”
