แฟรงค์ แลมพาร์ด ตำนานจอมทัพผู้ยิ่งใหญ่ของเชลซี ได้กล่าวยกย่องให้อดีตผู้จัดการทีมชื่อดังของเวสต์แฮม และ เชลซีอย่างตัวของ แฮร์รี่ เรดแนปป์ และ เคลาดิโอ รานิเอรี่ เป็นยอดผู้จัดการทีมที่เขาชื่นชมเสมอ หลังจากที่เขาถูกแต่งตั้งให้เข้าสู่หอเกียรติยศของพรีเมียร์ลีกในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่เวสต์แฮม ยูไนเต็ด , เชลซี และรวมถึงกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มิดฟิลด์เท้าพลังช้างรายนี้ ทำสถิติยิงได้มากถึง 177 ประตูในพรีเมียร์ลีกและทำมากกว่า 100 แอสซิสต์ – คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย และตอนนี้เขาได้รับเกียรติสูงสุดด้วยการมีชื่ออยู่ในฮอล ออฟ เฟม ของพรีเมียร์ลีกแล้วแลมพาร์ดเป็นหนึ่งในหกผู้เล่น ที่ได้รับการบรรจุชื่อเข้าหอเกียรติยศ จากตัวเลือกทั้งหมด 23 คน โดยเขาได้รับการโหวตจากแฟนบอลมากที่สุดในช่วงเดือนนี้เขาเป็นหนึ่งในกองกลางที่สมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งยิง ทั้งแอสซิสต์ แถมยังเคยได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นพรีเมียร์ลีกยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2004-05 มาแล้วเขากลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของเชลซี และมีผู้เล่นเพียง 4 คนเท่านั้นที่ทำประตูในพรีเมียร์ลีกได้มากกว่า และต้องไม่ลืมว่าแลมพาร์ดมีชื่อเสียงในด้านการยิงประตูระยะไกลจากนอกเขตโทษอันน่าทึ่ง และเขายังครองสถิติเป็นนักเตะที่ยิงประตูจากนอกเขตโทษได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกด้วยการตะบันไป 41 ประตูด้วยกัน
ขอแสดงความยินดีที่ได้รับการแต่งตั้งให้เข้าสู่หอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก รู้สึกอย่างไรที่ได้เป็นนักเตะในหอเกียรติยศครับ?“ในตอนที่ยังเป็นเด็ก ผมจำได้ว่าแค่อยากจะเข้าร่วมทีมเวสต์แฮมและเล่นให้ได้อย่าง รอย คีน, อลัน เชียเรอร์ และ เธียร์รี่ อองรี เพื่อที่จะได้เป็นตำนานแบบเดียวกันกับพวกเขา แต่การที่ผมมาถึงระดับนี้ได้ ถือเป็นเกียรติอย่างแท้จริง ผมภูมิใจและขอบคุณมากสำหรับการโหวต”
รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้มีชื่อตาม เชียเรอร์ และ อองรี เข้าสู่หอเกียรติยศ?“พรีเมียร์ลีกมีผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมมากมายที่ประสบความสำเร็จเยอะแยะ อลัน และ เธียร์รี่ เป็นไอคอนของลีก ดังนั้นแล้วการได้เข้าไปอยู่ร่วมเฟรมกับพวกเขา มันจึงเป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจมาก”
คุณเป็นนักเตะที่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสามสมัย คุณมีแชมป์รายการโปรดนอกเหนือจากแชมป์ลีก 3 สมัยนี้หรือไม่และเพราะเหตุใด“ผมคิดว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกที่เราได้ในฤดูกาล 2004-05 ซึ่งตัดสินเกมตอนเราเอาชนะโบลตันนั้นพิเศษมากที่สุด เชลซีไม่ได้แชมป์ลีกมา 50 ปีแล้วและเรามีทีมที่แข็งแกร่ง มีนักเตะอายุน้อยและมีความทะเยอทะยานจริงๆ การเฉลิมฉลองกับแฟน ๆ ในวันนั้นจะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป”
คุณมาถึงเชลซีในขณะที่สโมสรยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ยังหาสไตล์การเล่นไม่ลงตัว – คุณกล้านึกรึเปล่าว่าในอีกไม่กี่ปีต่อมา คุณจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้น่ะ? “ผมคิดว่าเมื่อตอนที่ โรมัน เข้ามาคุมสโมสร คุณจะได้เห็นสิ่งที่เขาต้องการสร้าง และในฐานะทีมชั้นนำ เราทุกคนมีความทะเยอทะยานที่จะคว้าถ้วยแชมป์เสมอ แต่มันยากมากที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบแบ็คทูแบ็ค แต่ว่าตอนนั้น โฮเซ่ มูรินโญ่ ก็ปลูกฝังความเชื่อนั้นในตัวเรา และทีมก็มีนักเตะพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่หลายคน เล่นบอลสร้างสรรค์ ผมเลยคิดว่ามันเป็นไปได้อยู่แล้ว”
มีนักเตะพรสวรรค์ระดับโลกหลั่งไหลเข้ามามากมายในช่วงหลายปี หลังจากที่คุณย้ายมาเข้าร่วมทีมเชลซี นั่นผลักดันให้คุณกลายเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะเป็นได้หรือไม่?“แน่นอนว่ามันผลักดันตัวผมเอง เมื่อตอนที่เชลซีเริ่มสรรหาผู้เล่นที่มีความสามารถระดับแนวหน้าจากทั่วโลกมาสังกัดทีม การเล่นได้ดีอย่างต่อเนื่องในทีมอย่างเชลซี แถมเล่นเข้ากับนักเตะชั้นยอดในทีมนั้น ถือว่าเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่และเป็นสิ่งที่ผมชอบ เราทุกคนทำงานหนักและมีทะเยอทะยาน ดังนั้นแล้วผมเลยคิดว่า ถ้าพวกเราทุกคนผลักดันซึ่งกันและกัน เพื่อให้เค้นฟอร์มที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ มันย่อมทำให้ทุกคนสามารถช่วยกันผลักดันทีมจนได้แชมป์ลีก”
คุณเป็นกองกลางที่ทำประตูได้สูงสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกและเป็นอันดับที่ห้าในอันดับดาวยิงสูงสุดตลอดกาล อะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ และคุณชื่นชอบลูกยิงไหนมากที่สุดจาก 177 ประตูที่คุณยิงได้ในพรีเมียร์ลีกล่ะครับ? “กุญแจสำคัญสำหรับผมคือการฝึกฝนและการทำงานหนัก ผมมีพรสวรรค์ในการหาพื้นที่ว่างให้ตัวเองและทำประตู ผมเคยทำมันมาแล้วในทุกทีมที่ผมเล่นให้ แต่การทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอตลอดช่วงเวลานั้นในพรีเมียร์ลีก ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการทำงานหนักและความทุ่มเทในการปรับปรุงฝีเท้าอย่างต่อเนื่องประตูที่ผมชอบ มีอยู่ 1 ประตูแน่ๆล่ะนั่นคือลูกยิงที่ผมยิงใส่โบลตันตอนที่เราคว้าแชมป์ลีกในปี 2005 ลูกยิงนี้มีความหมายมากสำหรับผมเป็นการส่วนตัว และมีความหมายต่อทีมด้วย”
การทำประตูเป็นส่วนสำคัญในการเล่นของคุณ แต่คุณก็ติดอันดับท็อปแอสซิสต์ของพรีเมียร์ลีกในสามฤดูกาลด้วย คุณมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้เป็นคนเปิดบอลให้กับผู้เล่นคนอื่น ๆ ได้ยิงประตู?“ผู้คนมักจะพูดถึงลูกยิงของผมมากมาย แต่ผมก็ภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมในการทำประตู และมันเป็นส่วนสำคัญในสไตล์การเล่นของผมด้วย ผมโชคดีที่ได้เล่นกับผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมและเล่นได้เข้าขาเป็นพิเศษกับดิดิเยร์ (ดร็อกบา) เป็นเวลาหลายปี เราจะมองหากันและกันเสมอ และรู้ว่าการเคลื่อนที่ของอีกฝ่ายจะเป็นยังไง ผมเลยจ่ายบอลให้เขายิงได้ง่าย!”
