ลิเวอร์พูล VS เรอัล มาดริด เมื่อทีมพังเพราะความอินดี้ของโค้ช

ลิเวอร์พูล VS เรอัล มาดริด ... เมื่อทีมพังเพราะความอินดี้ของโค้ช

ลิเวอร์พูล กลับมาสู่ฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่อีกครั้งด้วยการพ่ายแพ้ต่อทีม เรอัล มาดริด คู่ปรับเดิมด้วยสกอร์ 3-1 ในการแข่งขันเลกแรกของแชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ เนื่องจากแนวรับของลิเวอร์พูลที่เหลวเป๋วเป็นน้ำสุดๆในการรับมือกับทีมแชมป์ลีกสเปน โดยกล่าวกันว่ายิ่งเล่นมากเท่าไหร่ แนวรับของทีมที่มี เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นคนคุมทีมนั้นก็ยิ่งแตกละเอียดเป็นเสี่ยง ๆ มันดูแปลก ๆ ที่ว่าตอนนี้ลิเวอร์พูลทำไมถึงกลับมาเล่นได้แย่อีกครั้ง แผงแบ็คโฟร์ของลิเวอร์พูลที่ คล็อปป์ ใช้งานในเวลานี้มีโอกาสได้เล่นด้วยกันจำนวน 4 เกมก่อนที่แชมเปี้ยนส์ลีกนัดดังกล่าวจะเปิดฉากแข่งขัน และตอนแรกพวกเขาทำท่าว่าจะไปได้สวย และสุดท้ายก็ได้พ่ายแพ้ให้กับ เรอัล มาดริด และเสียประตูกระจุยมันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ … ลิเวอร์พูลของคล็อปป์ เล่นไป 45 นาทีแรก แต่พวกเขาพ่ายแพ้ต่อระบบการเล่นของเรอัล มาดริด แบบชัดเจน และสกอร์ 3-1 ในเลกแรกของแชมเปี้ยนส์ลีกรอบก่อนรองชนะเลิศนัดนี้ มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่ซึ่งลิเวอร์พูลยังคงเจอปัญหาเดิมๆเข้ามาเล่นงานพวกเขา กองหลังลิเวอร์พูลนิ่งราวกับหุ่นยามต้องรับมือกับตัวรุกจี๊ดๆอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ และกองหน้าคนอื่น ๆ ของมาลิเวอร์พูลยังไม่ได้ตกรอบจากการแข่งขันรายการนี้ซะ 100% แม้ว่าจะแพ้ยับ พวกเขาประตูทีมเยือนกลับไป 1 ลูกจาการยิงของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งมันก็เพียงพอที่จะใช้มันเป็นตัวจุดประกายความหวังของพวกเขาได้ แต่ความรู้สึกโดยรวมของแฟนบอลนั้น พวกเขามองว่ามันคือโอกาสที่สูญเปล่า โอกาสในการจะเข้ารอบบอลถ้วยนี้ที่พวกเขาเคยได้แชมป์เมื่อ 2 ปีก่อนดูจะยากเย็นมากขึ้นในฤดูกาลที่แสนยากลำบากที่สุดของพวกเขาตอนนี้ พวกเขาอาจจะกำลังจะต้องบอกลาไปอีก 1 ถ้วย แฟนบอลและนักวิเคราะห์เชื่อกันว่าตราบใดที่แผงแบ็คโฟร์ของลิเวอร์พูล ยังเป็นชุดปัจจุบัน มันคงยากที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จลิเวอร์พูลก่อนเกมนั้น พวกเขาคิดว่าพวกเขาอาจจะสามารถทำประตูมากกว่านี้ เพราะพวกเขาทราบข่าวมาว่า ราฟาเอล วาราน กองหลังตัวหลักของมาดริดก็ติด COVID-19 ลงสนามไม่ได้ แถม เซร์คิโอ รามอส ก็บาดเจ็บอยู่ พวกเขาได้ใช้ เอแดร์ มิลิเตา ลงมาเล่นในเกมนี้ซึ่งก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่า มิลิเตา ไม่ใช่กองหลังที่เหนียวแน่นจนน่าวางใจได้

การตัดสินใจที่พลาดครั้งใหญ่ของ คล็อปป์

การตัดสินใจที่พลาดครั้งใหญ่ของ คล็อปป์

ในความคิดของคล็อปป์กับการเลือกจัดทีมของเขาลงเล่น การเลือกกองหน้าลงสนาม เขายังคงไว้วางใจ ดิโอโก้ โชต้า ลงเล่นในตำแหน่ง 1 ใน 3 กองหน้าของทีมเช่นเดิม ซึ่งคล็อปป์เลือกโชต้าลงเล่นเพราะฟอร์มตอนนี้กองหน้าโปรตุกีส ดีกว่า บ็อบบี้ เฟร์มิโน่ ที่ฟอร์มตกอย่างหนัก โดยมี ซาดิโอ มาเน่ และ โม ซาลาห์ขนาบข้างแต่ที่น่าแปลกใจคือ นีบ้ เกอิต้า มิดฟิลด์ชาวกินี กลับถูกเลือกให้ลงสนามก่อนหน้า ติอาโก้ อัลคันทาร่า ในตำแหน่งกองกลางตัวเชื่อมเกม ซึ่งแฟนบอลเองก็สงสัยว่า คล็อปป์ ทำไมถึงใช้งานผู้เล่นแบบ เกอิต้า ที่ได้ลงสนามเกมล่าสุดก็คือเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมปีที่แล้ว พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับฟูแล่มได้ลงเล่นในเกมสำคัญแบบนี้”นาบี้ สามารถนำสิ่งที่พิเศษมาให้กับเราได้เราต้องการคนเลี้ยงบอลขึ้นหน้าได้ นั่นคืองานของ นาบี้ ในคืนนี้” แต่เกอิต้า ก็สร้างปัญหาให้กับแนวรับของเรอัลได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น เพราะเขาเองก็โดนความเขี้ยวลากดินจากคู่มิดฟิลด์ของเรอัล กลบเขาซะจนแทบไม่ได้บอล การจับคู่ระหว่าง โทนี่ โครส และ ลูก้า โมดริช ที่มีประสบการณ์สูงนั้นทำให้ เกอิต้า เล่นไม่ออกเลย แม้ว่าคล็อปป์จะเปลี่ยนเอา ติอาโก้ ลงมาบัญชาเกมในช่วงครึ่งหลัง แต่มันก็ไม่สามารถทำให้เกมในแดนกลางของลิเวอร์พูลดีไปกว่านี้ได้อีกแล้วและเมื่อเห็นแผงเกมรับของลิเวอร์พูลแล้วก็ยิ่งน่าคิดหนัก โอซาน คาบัค , แนท ฟิลลิปส์ เล่นไม่เข้าขากัน ยังมีความสับสนในการยืนตำแหน่ง รวมถึง แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และตัวของ เทรนต์ อเล็กซ์ซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็พร้อมใจกันฟอร์มหลุด ไม่สามารถรับมือตัวริมเส้นของมาดริดได้อยู่เลย หรือว่าต่อให้พวกเขามีอเวย์โกลอยู่ในมือไว้คอยปลอบใจ มันก็ไม่เพียงพอสำหรับในเกมหน้า คล็อปป์กล่าวไว้ก่อนเกม