ปิดทองหลังพระ! รูเบน ดิอาส …. ชายผู้ยกระดับเกมรับของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แท้จริง

ปิดทองหลังพระ! รูเบน ดิอาส .... ชายผู้ยกระดับเกมรับของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แท้จริง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การทำทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สร้างตำนานอะไรเอาไว้บ้าง นับตั้งแต่วันแรกที่เป๊ปได้ก้าวเข้ามาคุมทีมในปี 2016 3 แชมป์พรีเมียร์ลีก , สโมสรแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำได้ 100 แต้มในพรีเมียร์ลีก , ทำประตูในพรีเมียร์ลีกได้มากกว่า 100 ประตูในสองฤดูกาล , 4 แชมป์คาราบาวคัพ , 1 แชมป์เอฟเอคัพ , 2 แชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ รวมถึงได้แชมป์เฉพาะในเกาะอังกฤษครบ 4 รายการในฤดูกาล 2018/19แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถ้าพูดกันตามจริง พวกเขาก็ทำผลงานได้ดี ยิงประตูได้อย่างน่าสะพรึงกลัวสุดๆ นับตั้งแต่ที่ยอดกุนซือชาวสเปนเข้ามาคุมสโมสรในเดือนกรกฎาคม 2016 คุณเพียงแค่ต้องดูสถิติอันสุดบรรเจิดจากด้านบนนี้ มันก็เห็นได้ชัดราวกับทีวี 4K แล้วว่าพวกเขาประสบความสำเร็จอะไรบ้างจากในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมาแต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะครองบัลลังก์ในประเทศอังกฤษได้อย่างเหนียวแน่น แต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในการรจะคว้าถ้วยแชมป์ยุโรปที่พวกเขาเฉียดไปเฉียดมา โดยเมื่อฤดูกาลที่แล้วพวกเขาสามารถเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จจากในช่วงเวลา 13 ปีที่สโมสรแห่งนี้ถูกครอบครองโดย ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป แต่พวกเขาก็ปราชัยให้กับเชลซีแบบไม่น่าเชื่อ

และอันที่จริง ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้

และอันที่จริง ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ของยุคเป๊ปนั้น ถ้าไม่นับรอบชิงชนะเลิศที่พวกเขาหลุดเข้าไปชิงได้ในฤดูกาลที่แล้วนั้น ซิตี้ของเป๊ปเคยไปถึงไกลที่สุดก็คือแค่รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่พวกเขาทำได้ถึงสามครั้งเลยทีเดียว และก่อนหน้านั้นพวกเขาเคยหลุดเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศของฤดูกาล 2015/16 มาแล้วหนหนึ่ง ภายใต้การคุมทีมของมานูเอล เปเยกรินี่ ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดที่สโมสรเคยบันทึกไว้ในเวทีที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ก่อนจะมาถึงรุ่นเป๊ปที่พาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ในฤดูกาลที่แล้วจะว่าไป กว่าที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะกระเสือกกระสนเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้นั้น พวกเขาก็ต้องรอจนกระทั่งการมาถึงของกองหลังรายหนึ่ง ที่ทำให้พวกเขามีเกมรับที่ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้พวกเขาสามารถวางใจในเรื่องเกมรับได้จนพาตัวเองเข้าชิงชนะเลิศได้ และนักเตะรายนั้นก็คือ รูเบน ดิอาส เซ็นเตอร์แบ็กวัย 23 ปีที่ตอนแรกนั้นแทบจะไม่มีใครรู้จักเลย โดยเขาเดินทางมาจากเบนฟิก้าในซัมเมอร์ปี 2020 ด้วยค่าตัวมากกว่า 60 ล้านปอนด์การมาถึงของ ดิอาส ในตอนแรกนั้น สโมสรถูกแขวะว่าใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินกว่าเหตุด้วย แต่มันก็เห็นได้ชัดว่าซิตี้ทำการบ้านของพวกเขามาดี ก่อนที่จะเซ็น

สัญญากับนักเตะรายนี้

สัญญากับนักเตะรายนี้

ดิอาสไม่ใช่กองหลังที่มีชื่อเสียงอะไรก็จริง แต่การมาถึงของเขานั้น มันสามารถยกระดับเกมการเล่นของซิตี้ได้แบบชัดเจน เป็นกองหลังระดับหัวกะทิคนหนึ่งเลยทีเดียว นักเตะชาวโปรตุเกสรายนี้คือสุดยอดกองหลังที่ไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านเกิดนานเกินไปจริงๆในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2021 ถึง 30 พฤศจิกายน 2021 สถิติของ Opta มันได้แสดงให้เห็นว่า ดิอาส เข้าสกัดบอลได้มากกว่าพวกเซ็นเตอร์แบ็กชั้นยอดคนอื่นๆในยุโรปทั้ง จอร์โจ้ คิเอลลินี่ , ดาวิด อลาบา , อันโตนิโอ รูดิเกอร์ , ติอาโก้ ซิลวา , รราฟาเอล วาราน , เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค และเซร์คิโอ รามอส ซะด้วยซ้ำ (แม้ว่าสองคนหลังจะได้รับบาดเจ็บเป็นเวลานานก็เถอะ) แต่เขาก็ประสบความสำเร็จในการเล่นให้กับสโมสรใหม่ของ ดิอาส แบบชัดเจนทั้งคว้าแชมป์ลีก เข้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีก และคว้าแชมป์บอลถ้วยในประเทศได้นอกจากนี้ เขายังทำสถิติจ่ายบอลสำเร็จคิดเป็น 93.3% จากการจ่ายบอล 3,977 ครั้ง ทำสถิติลงเล่นไป 4,281 นาที ซึ่งสูงกว่าเหล่านักเตะชั้นนำหลายๆคนด้วยซ้ำ และซิตี้เองก็สามารถเก็บคลีนชีตได้มากถึง 20 นัดจากในจำนวนการลงเล่น 50 นัดของดิอาสที่อยู่ในสนามด้วย ซึ่งคิดเป็น 40% ด้วยกัน เห็นแบบนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าผลกระทบของ ดิอาส นั้นมันไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องเกมรับที่ดีเท่านั้น แต่การสวิตช์บอลจากรับเป็นรุก เขาทำได้ดีมากถ้าหากว่าจะให้เสนอชื่อใครสักคน ให้ได้รับรางวัลกองหลังยอดเยี่ยมของฤดูกาลนี้ เชื่อได้เลยว่า ดิอาส คือผู้ท้าชิงที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้รายของ ฟาน ไดจ์ค ของลิเวอร์พูลอย่างแน่นอน