ราอูล ฆิมิเนส กองหน้าทีมชาติเม็กซิโก ของ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังมีช่วงเวลาที่ดีในชีวิตของเขา หลังจากที่ ดานิเอลล่า แฟนสาวกำลังตั้งท้อง และคาดหวังว่าลูกคนแรกของพวกเขาจะเป็นลูกชาย
ฆิมิเนส กล่าวกับ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “เราสนุกกับชีวิตมาก พ่อและน้องสาวของผมมักมาเชียร์ผมในสนามด้วย มันพิเศษมากสำหรับเรา”
ขณะเดียวกัน ลูกของ ฆิมิเนส จะครบกำหนดคลอดในเดือนกรกฎาคมนี้ และแผนการสำหรับเขาคือ ให้ทารกน้อยเกิดใน วูล์ฟแฮมป์ตัน ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ โดยดาวยิงวัย 28 ปี กล่าวแบบมีอารมณ์ขันว่า “ผมต้องการให้เขาเล่นให้กับทีมชาติเม็กซิโก”
ถ้าชีวิตนอกสนามดี มันก็ส่งผลต่อฟอร์มในสนามด้วยเช่นเดียวกัน การซัดไป 22 ประตูรวมทุกรายการให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน จากสถิติ livescore 7m ในฤดูกาลนี้ ฆิมิเนส ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของเขา และตอนนี้ เขาได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในกองหน้าระดับท็อปของศึกพรีเมียร์ลีกไปเรียบร้อยแล้ว
อดีตศูนย์หน้า เบนฟิก้า กล่าวต่อว่า “ผมกำลังสนุกกับสิ่งที่ผมทำอยู่ และการใช้ชีวิตทั้งในและนอกสนามนั้น ผมรู้สึกดีมาก มันเป็นเวลาที่ดีสำหรับผมสำหรับชีวิตของผม และสำหรับทีมของผม ซึ่งที่นี่ผมทำให้ฝันของผมเป็นจริง”
ฆิมิเนส เป็นกองหน้าที่สมบูรณ์ มันไม่ได้เป็นเพียงเกี่ยวกับจำนวนสกอร์ที่เขาทำเท่านั้น เขาแอสซิสต์ไป 6 ครั้งแล้วในฤดูกาลนี้ และเขายังเป็นผู้เล่นที่สร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นได้อย่างมากมาย โดยดาวยิง “จังโก้” มีความสามรถในการครอบครองบอล, เลี้ยงบอล รวมถึงจบสกอร์ด้วยตัวเอง
จากความยอดเยี่ยมของ ฆิมิเนส นั้น ทำให้เขาตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งกำลังมองหากองหน้าตัวเป้ามาล่าตาข่ายเมื่อตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไม่มีท่าทีจะปล่อยเขาออกจากถิ่นโมลินิวซ์ กราวด์ แต่อย่างใด
สิ่งที่แปลกประหลาดเมื่อพูดถึงอาชีพของ ฆิมิเนส คือ แม้ว่าเขาจะเข้าย้ายมาเล่นกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ด้วยการไม่ได้รับการจับตามองมากนักเหมือนเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ อย่าง เจา มูตินโญ่ กองกลางทีมชาติโปรตุเกส และ รุยซ์ ปาทริซิโอ นายทวารมือ 1 ทัพ “ฝอยทอง” แต่หัวหอกเม็กซิกัน ก็ทำให้ตัวเองกลายเป็นคนสำคัญของพลพรรค “หมาป่า” ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่งเมื่อ ฆิมิเนส เคยพาทีมชาติเม็กซิโกมาคว้าแชมป์ฟุตบอลโอลิมปิกที่สนามเวมบลีย์ ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2012 ด้วยการเอาชนะทีมชาติบราซิลที่มีสตาร์อย่าง เนย์ม่าร์ หัวหอก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง อยู่ในทีม
ฆิมิเนส เล่าต่อว่า “การคว้าเหรียญทองโอลิมปิก มันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับผม และช่วงเวลาสำคัญสำหรับทีมชาติเม็กซิโกด้วย มันพิเศษสำหรับผมเสมอเมื่อผมกลับไปเยือนลอนดอน ผมมักคิดถึงเหตุการณ์แบบนั้น”
มันเป็นเวลาเกือบ 7 ปีนับตั้งแต่ ฆิมิเนส ลงเล่นในสนาม Azteca เป็นครั้งแรกในฐานะนักเตะทีมชาติเม็กซิโก และทำประตูด้วยการจักรยานอากาศในเกมกับ ปานามา จากนั้น เขามีโอกาสมาผจญภัยครั้งแรกในยุโรปกับ แอตเลติโก้ มาดริด ในศึกลา ลีกา สเปน เมื่อปี 2014
ศูนย์หน้าจังโก้ กล่าวต่อว่า “มันเป็นความฝันในฐานะนักฟุตบอลอยู่เสมอที่จะได้แข่งขันในลีกที่ดีที่สุดในโลก และลีกเหล่านั้นอยู่ในยุโรป คุณต้องการที่จะแข่งขันกับผู้เล่นที่เก่งที่สุด และในปีนั้นที่ แอตเลติโก้ ได้ช่วยผมมากมายในการเป็นอย่างที่ผมเป็นทุกวันนี้”
“มันเป็นเรื่องยาก เพราะเป็นครั้งแรกที่ผมต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียว แต่ผมคิดว่าผมปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ผมเรียนรู้ว่าผมต้องอดทนและทำงานหนัก แม้ว่าจะไม่มีโอกาสลงเล่นมากนัก แต่ผมก็แค่ต้องทำงานต่อไป”
ในระหว่างที่ ฆิมิเนส ค้าแข้งกับ แอตเลติโก้ นั้น การแย่งชิงตำแหน่งกับยอดกองหน้าอย่าง ดิเอโก คอสต้า และในขณะเดียวกัน ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ “ตราหมี” ยังคว้าตัวแนวรุกอย่าง มาริโอ มานด์ซูคิค หัวหอกโครแอต และ อองตวน กรีซมันน์ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส เข้ามาเสริมทัพอีก
คอสต้า และ กรีซมันน์ ช่วยกันซัดประตูให้ แอตเลติโก้ อย่างต่อเนื่อง และนั่นก็ทำให้ ฆิมิเนส ต้องตกเป็นตัวสำรองไปโดยปริยาย จากนั้นในปี 2015 เขาก็ต้องย้ายไปยัง เบนฟิก้า แต่ในทัพ “เหยี่ยวลิสบอน” เขาก็ยังไม่สามารถคว้าตำแหน่งตัวจริงได้
กองหน้า วูล์ฟแฮมป์ตัน กล่าวว่า “ผมใช้เวลา 3 ฤดูกาลที่ เบนฟิก้า เพื่อมองหาตำแหน่งตัวจริง บางครั้งผมก็ได้เล่น และก็กลับไปเป็นตัวสำรองสลับกันไป จากนั้น ผมก็เจอปัญหาอาการบาดเจ็บ มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง”
แม้ในตอนนี้มันจะไม่แปลกใจเลยว่า บรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกกำลังจับตามอง ฆิมิเนส อย่างใกล้ชิดใน แต่มันก็เซอร์ไพรส์เช่นกันที่ นักเตะซึ่งได้ลงเล่นเป็นตัวสำรอง 17 จาก 21 เกม และลงเล่นไม่เคยครบ 90 นาที รวมทั้งยิงไปเพียง 1 ประตูให้กับ แอตเลติโก้ จะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกครั้ง
ความยากลำบากของ ฆิมิเนส ยังดำเนินต่อไปที่ เบนฟิก้า ซึ่งเขาได้ลงเล่นด้วยการเป็นตัวสำรองไป 60 จาก 80 เกม ตลอด 3 ซีซั่น และเล่นรวมกันยังไม่ถึง 1,000 นาที ตลอด 4 ปีนในแผ่นดินยุโรป โดยหลายคนมองว่า เขาอาจล้มเหลวกับชีวิตนักฟุตบอลไปแล้ว
อดีตแมวมองรายหนึ่งซึ่งทำงานให้กับทีมดังในพรีเมียร์ลีก กล่าวว่า “เขาเป็นผู้เล่นที่เราจับตาดูอยู่ เรารู้สึกว่า เขามีลักษณะทางกายภาพที่เหมาะกับฟุตบอลอังกฤษ แต่มีเครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบตัวเขา เนื่องจากเขาแทบไม่ได้ลงสนามเลย”
นูโน่ เอสปิริโต ซานโต กุนซือ วูล์ฟแฮมป์ตัน กล่าวว่า “เราต้องการตัวผู้เล่นที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถลงสนามในจำนวนเกมที่มากมายได้ มันหมายความว่า คนอย่างผมสามารถทำงานกับทีมเล็กๆได้ และคุณมีโอกาสที่ดีกว่าในการสร้างทีม นั่นหมายความว่า ผมสามารถไปที่สนามฝึกซ้อม และมีผู้เล่นทุกคนที่พร้อมเล่นให้ผม”
“ผมต้องการทำงานในแนวทางที่ผมวางไว้ ดังนั้น ผมต้องเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเอง ผมไม่ต้องการให้เรามีนักเตะโดนแบน 2 คน และมีผู้เล่นบาดเจ็บ 4 คน ก่อนจะลงสนาม ดังนั้นผมต้องเลือกคนที่เหมาะสม และพร้อมที่สุด เพราะพวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุด และสร้างวัฒนธรรมการแข่งขันภายในสโมสรฟุตบอล”
“หากคุณดูทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด พวกเขามักจะมีผู้เล่นที่มีความพร้อมใช้งานสูงสุดตลอดทั้งฤดูกาล โดยทั่วไปถ้าทีมเปรียบได้ทีมที่มีผู้เล่นที่ดีที่สุดจะประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาอะไรแบบนั้น นั่นคือสิ่งที่สำคัญมาก” โค้ช “หมาป่า” กล่าว
นั่นคือแนวทางของ เอสปิริโต ซานโต แต่บางทีมันก็น่าแปลกใจที่เขาพบว่า นักเตะในอุดมคติของเขาคือ ใครบางคนที่สามารถกลับมาสู่ความยอดเยี่ยมได้อีกครั้งแบบที่ไม่มีใครคาดคิด ซึ่งก็คือ ฆิมิเนส ที่กำลังเป็นคนสำคัญของ วูล์ฟแฮมป์ตัน
ในกรณีของ ฆิมิเนส ปัญหาไม่ใช่ว่า เขาไม่พร้อมลงเล่น แต่ปัญหาคือ เขาไม่ได้ถูกเลือกจากผู้จัดการทีมคนก่อนๆมากนัก และถึงแม้ว่าในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับ เบนฟิก้า จะได้ลงเล่นไปเพียง 6 เกม แต่เขาก็ทุ่มเทอย่างเต็มที่ทุกนัด
หัวหอกเม็กซิกัน กล่าวต่อว่า “มันเป็นเวลา 4 ปีในอาชีพกาของผม 1 ปีที่ แอตเลติโก้ และ 3 ปีที่ เบนฟิก้า ผมต้องการลงสนามให้มากกว่านี้ ผมรู้ว่า ตัวเองสามารถเล่นได้”
ขณะเดียวกัน มีการพูดถึงการย้ายกลับไปเล่นในเม็กซิโกบ้านเกิดด้วยสัญญายืมตัว แต่ข้อตกลงนั้นถูกปฏิเสธโดยบอร์ดบริหารของ เบนฟิก้า และเขามีโอกาสย้ายไปเล่นในประเทศจีนด้วย แต่กองหน้าวัย 28 ปี คิดว่ามันจะทำให้อาชีพของเขาถอยหลัง
ฆิมิเนส กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องยาก เพราะมันเป็นเงินหลายล้าน แต่ผมรู้ว่า มันไม่ใช่เวลาที่จะตัดสินใจแบบนั้น ผมสามารถพูดได้ว่า จุดจบอาชีพของผมมันต้องไม่ใช่ประเทศจีน มันต้องเป็นในยุโรป และตอนนี้ผมคิดว่า ผมเลือกถูกแล้ว
“ผมไม่เคยล้มเลิกความตั้งใจ ผมมักจะทำงานหนักอยู่เสมอ และทำสิ่งที่ผมรู้ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของผม ผมรู้ว่าหากโอกาสของผมมา ผมก็จะพร้อมที่จะรับมันไว้ และตอนนี้ผมอยู่ในช่วงเวลาที่ดีจริงๆ” ดาวยิง วูล์ฟแฮมป์ตัน กล่าว
ในเวลานี้ สถิติการทำประตูของ ฆิมิเนส กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ยอดเยี่ยมมาก เขามีค่าเฉลี่ยการทำประตูต่อนาทีได้ดีกว่าในสมัยที่ยังเล่นกับ เบนฟิก้า นอกจากนี้ กองหน้า จังโก้ ยังลงสนามเกือบทุกนาทีในศึกพรีเมียร์ลีก อีกด้วย
ในฤดูกาลนี้ ฆิมิเนส ลงสนามให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน รวมทุกรายการไปมากถึง 44 เกมแล้ว โดยเจ้าตัวอธิบายว่า “ผมสามารถรับมือกับมันได้ ผมเป็นนักกีฬา ผมพร้อมแล้วที่จะลงสนามตลอดเวลา ผมเคยได้รับบาดเจ็บบ้างในอดีต”
“แต่บางทีอาการบาดเจ็บเหล่านั้น เกิดขึ้นเพราะผมไม่มีเวลาลงเล่นตามที่ผมต้องการ ผมไม่ได้ลงแข่งขันบ่อยเท่ากับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ดังนั้น นั่นอาจเป็นเหตุผลว่า ทำไมผมถึงได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ผมคิดเพียงอย่างเดียวว่า ทำงานหนักต่อไป นั่นคือสิ่งที่คุณต้องทำ”
“ผมคิดอย่างนั้นเสมอ ผมถูกถามคำถามนี้มากมายในอาชีพการงานของผม และผมคิดเสมอว่า คำตอบคือใช่ เพราะผมต้องการพัฒนาตัวเองทุกวัน และเป็นนักฟุตบอลที่ดีขึ้นอยู่เสมอทุกวัน เราสามารถเรียนรู้สิ่งที่ทำให้เราดีขึ้นได้”
วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็กำลังพัฒนาเช่นกัน และในขณะที่บางคนก็คาดเดาว่า พวกเขาจะต้องตั้งเป้าหมายคือการไปเล่นในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ “หมาป่า” ต้องเก็บนักเตะคนสำคัญเอาไว้ให้ได้ในช่วงซัมเมอร์นี้
ฆิมิเนส กล่าวต่อว่า “มันน่าทึ่งมาก เรากำลังแข่งขันกันในยูโรปา ลีก และเรามีโอกาสที่ดี เราได้เล่นเกมที่ยอดเยี่ยมมาแล้ว ดังนั้น ถ้าเราสามารถทำแบบนั้นต่อไปได้ ผมคิดว่าเราจะประสบความสำเร็จได้ และในพรีเมียร์ลีกทุกคนรู้ว่า แชมป์เป็นของ ลิเวอร์พูล แต่ถ้าเราสามารถไปต่อได้ เราจะสามารถแข่งขันในระดับสูงสุดได้”
นอกสนามนั้น ฆิมิเนส ได้ใช้ชีวิตเหมือนชาวอังกฤษทั่วไป ซึ่งเขาชอบความสงบเมื่อเทียบกับความวุ่นวายของ เม็กซิโก ซิตี้ บ้านเกิดของเขา และในปัจจุบัน เขามีผู้ติดตามทาง Twitter มากกว่า 3 ล้านคน ซึ่งมันมากกว่า 5 เท่าในของ Twitter ของสโมสร วูล์ฟแฮมป์ตัน เสียอีก
อดีตดาวยิง เบนฟิก้า กล่าวว่า “ผมชอบเดินทางไปทั่วสหราชอาณาจักร แต่มีโอกาสไม่มากนักในฤดูกาลนี้ เนื่องจากผมติดภารกิจการแข่งขัน แต่ผมพยายามเดินทางเมื่อมีเวลา ผมเคยไป Salisbury, Bath, Stonehenge, Bristol ผมไปถึง กลาสโกว์ ในสกอตแลนด์ มาแล้วด้วย”
จิตวิญญาณของ วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็แข็งแกร่งเช่นกัน ฆิมิเนส ย้ายมาเล่นในทีมพร้อมกับนักเตะที่เขาคุ้นเคยอย่าง ปาทริซิโอ และ ดิเอโก้ โจต้า ปีกชาวโปรตุเกส ซึ่งทำให้ความรู้สึกสบายใจอย่างมากกับชีวิตในทัพ “หมาป่า”
ฆิมิเนส เล่าว่า “เราเป็นเหมือนครอบครัว ทุกสิ่งที่เราทำเราพยายามทำด้วยกัน เราทานอาหารกลางวัน และอาหารเย็นด้วยกัน บางครั้งมันเป็น 1-2 ครั้ง บางครั้งก็เป็นมากกว่า ในห้องแต่งตัวทุกคนหัวเราะและตลก และสร้างบรรยากาศที่ดี”
ขณะเดียวกัน ทุกสิ่งทุกอย่างมีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพสูงสุดของ ฆิมิเนส สำหรับครอบครัวที่ของเขานั้น ตั้งตารอที่จะแบ่งปันความทรงจำพิเศษเพิ่มเติมกับในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งต่อไปที่กาตาร์ในปี 2022 ซึ่งมันอยู่ในใจของเขาแล้ว
ฆิมิเนส กล่าว่า “เราเห็นผู้เล่นบางคนพร้อมกับลูกๆ ของพวกเขาที่ฟุตบอลโลกปี 2018 ในรัสเซีย และผมบอกกับ ดานิเอล่า ว่า บางทีในฟุตบอลโลกครั้งต่อไป มันคงจะเป็นโอกาสของผมที่จะได้เพลิดเพลินกับช่วงเวลานั้น ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ลูกชายของผมจะอายุ 2 ขวบ ซึ่งมันเป็นช่วงอายุที่ดีที่จะเริ่มเพลิดเพลินกับฟุตบอลของเขา และดูพ่อของเขาทำประตูในการแข่งขันฟุตบอลโลก”
ในเวลานั้น ฆิมิเนส จะอายุ 31 ปีซึ่งเป็นอายุที่กองหน้าชาวเม็กซิกันชื่อดังอย่าง ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ อดีตดาวยิง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับไปค้าแข้งในแถบบ้านเกิด แต่บางทีสำหรับเขานั้น มันอาจยังเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานอยู่ในแผ่นดินยุโรปต่อไปก็เป็นได้
