ราฟา เบนิเตซ กับความกดดันที่ได้รับจากเอฟเวอร์ตัน

ราฟา เบนิเตซ กับความกดดันที่ได้รับจากเอฟเวอร์ตัน

“ราฟาเอล เบนิเตซ” เมื่อเอ่ยชื่อของผู้จัดการทีมชาวสเปนรายนี้ ก็เรียกได้ว่าเราสามารถเข้าใจความรู้สึกของกองเชียร์เอฟเวอร์ตันบางคนได้เลย ซึ่งจากข่าวการแต่งตั้ง “เอลบอส” เข้ามาคุมทีมนั้น มันทำให้เป็นที่รู้กันเลยว่าดีลนี้ ไม่เป็นที่เห็นด้วยสำหรับแฟนบอลเอฟเวอร์ตันเป็นจำนวนมาก กับการแต่งตั้งให้ ราฟา เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมรักของพวกเขาถ้าหากเราพิจารณาเฉพาะผลงานที่เขาเคยทำเอาไว้มากมาย ผู้จัดการทีมชาวสเปนผู้มากประสบการณ์รายนี้ สามารถทำให้พวกเรารู้สึกได้เลยว่า เขาน่าจะสามารถพาทีมได้แชมป์สักรายการ ไม่มีใครตั้งข้อสงสัยในเรื่องผลงานในสนามของเขาแน่นอนการมาถึงของ เบนิเตซ ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียง 11 ปีเท่านั้น หลังจากที่เขาลาออกจากลิเวอร์พูล ซึ่งเขาใช้เวลาหกปีในฐานะผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล อริตัวเป้งของเอฟเวอร์ตัน และคว้าแชมป์รายการใหญ่อย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก 2005 และ เอฟเอ คัพ มาครองได้ !ฟาร์ฮัด โมชิรี่ เจ้าของทีมเอฟเวอร์ตัน ได้เพิกเฉยต่อกระแสต่อต้านของแฟนบอลสนับสนุน โดยผู้จัดการทีมวัย 61 ปีตกลงเซ็นสัญญาคุมทีมสามปี เพื่อกลายมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของ คาร์โล อันเชล็อตติ หลจากที่ตำนานผู้จัดการชาวอิตาลีได้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อกลับไปคุมทีม เรอัลมาดริดในวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมาเบนิเตซ ครั้งหนึ่งก็เคยเข้ามาแทนที่ อันเชล็อตติ ในฐานะผู้จัดการทีม เรอัล มาดริด ในปี 2015 เพียงแต่ว่าเขาดันถูกไล่ออกจากตำแหน่งในเวลาเพียงเจ็ดเดือนต่อมาและจากการเข้ามาคุมทีมเอฟเวอร์ตัน มันเลยทำให้เขาได้กลายเป็น “หัวหน้าโค้ช” คนที่ห้าของทัพ “ท๊อฟฟี่บลูส์” ในรอบหลายปี เลยทีเดียว แต่ทว่า เพราะด้วยความผูกพันของเขากับทีม “หงส์แดง” และกิริยาต่างๆของเขาที่ทำเอาไว้ในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ มันเลยทำให้เขาได้รับการต้อนรับด้วยอารมณ์ที่หลากหลายจากฐานแฟนคลับเอฟเวอร์ตันจะมีอะไรรอเขาอยู่ในถิ่น กูดิสัน พาร์ค กันบ้างล่ะ ! เราคงต้องมาติดตามดูกันหน่อยแล้ว

ทำยังไงถึงจะชนะใจแฟนบอลเอฟเวอร์ตัน ?

ทำยังไงถึงจะชนะใจแฟนบอลเอฟเวอร์ตัน ?

แฟน ๆ เอฟเวอร์ตัน ย่อมต้องยินดีที่จะได้เห็นจุดสิ้นสุดของปัญหาเรื่องการค้นหาผู้จัดการทีมคนใหม่ และรวมถึงพวกเขาก็อยากที่จะได้เห็นทีมที่พวกเขารักมาอย่างยาวนาน คว้าแชมป์รายการสำคัญได้ และที่ผ่านมานั้นก็มีชื่อของผู้จัดการทีมชั้นยอดมากมายหลุดเข้ามาพัวพันกับตำแหน่งกุนซือที่ยังว่าง แต่สุดท้ายก็ได้รับข้อสรุปที่ไม่น่าพอใจเท่าไหร่นักเบนิเตซ ซึ่งตกงานมาตั้งแต่ครั้งที่เขาลาออกจากสโมสร ต้าเหลียน ในลีกฟุตบอลประเทศจีนเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว ได้กลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรกในรอบ 100 กว่าปีที่มีโอกาสคุมทั้ง ลิเวอร์พูล และ เอฟเวอร์ตัน ที่ได้ชื่อว่าเป็นอริกัน นับตั้งแต่รุ่นของ วิลเลียม เอ็ดเวิร์ด บาร์เคลย์ ที่เคยคุมทั้งสองสโมสรในปี 1890 หรือเมื่อ 131 ปีที่แล้ว

ตอนแรกนั้น นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ผู้จัดการชาวโปรตุเกส เคยได้มาเจรจาในขั้นเบื้องต้นเพื่อจะรับงานนี้แล้ว และยังมีรักเก่าอย่าง เดวิด มอยส์ ก็ได้รับการ

ตอนแรกนั้น นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ผู้จัดการชาวโปรตุเกส เคยได้มาเจรจาในขั้นเบื้องต้นเพื่อจะรับงานนี้แล้ว และยังมีรักเก่าอย่าง เดวิด มอยส์ ก็ได้รับการ

พิจารณาก่อนที่เขาจะตัดสินใจฝากอนาคตของเขาไว้ให้กับ เวสต์แฮม ในระยะยาวในขณะที่อดีตนายใหญ่ของลีลล์อย่าง คริสตอฟ กาลทิเยร์ ที่เพิ่งพาทีมคว้าแชมป์ลีกเอิง 1 ก็มีข่าวเช่นกันแต่หลังจากที่ อันเชล็อตติ ได้แสดงให้เห็นว่าเพราะเหตุใดเขาจึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี ที่จะได้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตันต่อไป มันก็เลยเป็นเหตุที่ทำให้ เบนิเตซ จะมีโอกาสในการแสดงให้ทุกฝ่ายได้เห็นว่า เขาจะสามารถนำเอฟเวอร์ตันเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของพวกเขาได้หรือไม่ โดยเฉพาะนับจากนี้จนถึงปี 2024 และยุคใหม่ที่สดใสสำหรับสโมสรกำลังรออยู่จริงหรือไม่เบนิเตซรู้ดีว่านี่คือเมืองที่เขาเคยอยู่มาก่อน ตัวของเขาจะถูกตัดสินอย่างรวดเร็วว่า “เก่ง หรือ กาก” และในขณะเดียวกัน เขาจะต้องใช้เวลามากพอสมควรในการจัดระเบียบทีม วิธีการเล่นและสไตล์การเล่นที่เหมาะสมกับนักเตะของเขา
ความสัมพันธ์ของเขากับลิเวอร์พูลที่มันดีมาแต่เดิมด้วยอีก หมายความว่ากองเชียร์ของเอฟเวอร์ตัน ก็ไม่น่าจะยอมรับในตัวจนของเขามากนักแน่นอนแฟน ๆ ที่ไม่พอใจในการแต่งตั้ง ราฟา ในครั้งนี้ถึงกับมีการเดินขบวนและถือป้ายประท้วงมาที่ กูดิสัน พาร์ค และที่บริเวณนอกบ้านพักของเขาด้วย โดยเอฟเวอร์ตันต้องเตรียมเข้าสู่แคมเปญการแข่งขันพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ โดยไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปตามเคย หลังจากหนึ่งปีที่ อันเช่ เคยสัญญาไว้มากมายว่าจทำให้ได้ สุดท้ายก็เหลวเป๋วมันคือความท้าทาย ท้าทายทั้งการคว้าพื้นที่ไปเล่นบอลถ้วย ท้าทายแฟนบอล มันคือโจทย์ที่ยากสำหรับ “เอลบอส” และเรามีเวลา 1 ปีแน่ๆแล้ว ที่จะพิสูจน์ว่าเขาจะผ่านมันไปได้หรือไม่