เกิดอะไรขึ้นกับฟอร์มของ เดเล่ อัลลี่

เกิดอะไรขึ้นกับฟอร์มของ เดเล่ อัลลี่

“เมื่อ 3 ปีก่อนคุณเป็นคนที่เหนือธรรมชาติ คุณแข็งแกร่ง และอันตราย แต่แล้วสิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็เกิดขึ้นกับคุณ ซึ่งมันอาจเกิดขึ้นกับนักสู้ทุกๆคนบนโลกใบนี้” นั่นคือคำพูดของ มิคกี้ โกลด์มิลล์ ครูฝึกของ ร็อคกี้ บัลบัว ตัวละครนักมวยชื่อดัง

มันเป็นการดึงดูดให้เปรียบเทียบกับการต่อสู้ล่าสุดของ เดเล่ อัลลี่ กองกลางทีมชาติอังกฤษ ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นนักสู้ข้างถนนของวงการฟุตบอลเมืองผู้ดี เขาไม่ใช่ม้าป่าอิตาลี เหมือนกับฉายาของ บัลบัว แต่เขาเป็นผู้ชายที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือ “ไก่เดือยทอง” เคยอธิบายไว้ว่า เป็นม้าป่าคู่ใจสำหรับเขา

อัลลี่ มีทางเดินในเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพของเขาเอง ไม่มีการเคารพชื่อเสียงกัน ไม่มีการประนีประนอม และไม่มีความไร้เดียงสาบนสนาม เด็กชายคนนี้จาก มิลตัน คีย์เนส ไม่เคยได้รับการขัดเกลาฝีเท้าในสถาบันการศึกษาชั้นนำ แต่มันก็ไม่ใช่ข้อจำกัดสำหรับเขา นี่คือผู้เล่นที่ได้เปรียบจากเกมของเขาเอง

4 ปี หลังจากได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกครั้งแรก อัลลี่ สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการลูกหนังเมืองผู้ดี เขาทำผลงานกับ สเปอร์ส ได้อย่างยอดเยี่ยมจนในที่สุดเขาได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษในเวลาอีกไม่นานหลังจากนั้น

ในเกมลีกที่ สเปอร์ส บุกไปแพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมาฟอร์มการเล่นของ อัลลี่ นั้น เป็นจุดสนใจของการถกเถียงกันอย่างยาวนานในกลุ่มกูรู “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า เกมใหญ่อีกเกมหนึ่งของเขาดูเหมือนจะผ่านเข้าไปแล้วโดยไม่มีอะไรที่น่าสนใจ

แกรม ซูเนสส์ อดีตผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล อธิบายว่า อัลลี่ กำลังกลับไปเป็นเงาของตนเองในอดีต ขณะที่ แกร์รี่ เนวิลล์ อดีตกองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระบุว่าฟอร์มของ อัลลี่ น่าผิดหวังมากกว่าที่แฟนบอล สเปอร์ส จะไปโกรธเขา

รอย คีน อดีตกองกลางกัปตันทีม “ปีศาจแดง” กล่าวว่า “อัลลี่ มีความต้องการที่จะได้รับบอลในกรอบเขตโทษเพียงอย่างเดียวเท่านั้น มันเป็นการเล่นที่น่าผิดหวังมาก เกมกับ ลิเวอร์พูล เขาเหมือนกับไร้ตัวตน เขาเป็นแบบนี้ในเกมใหญ่มา 1-2 ปีแล้ว”

ฉันทามติคือ อัลลี่ ต้องการกลับไปสู่พื้นฐาน และเริ่มทำสิ่งต่างๆ ที่ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่มีศักยภาพในตอนแรก เพียงแค่ให้เขาตั้งสติ และรูปแบบการเล่นเดิมก็จะกลับมา พร้อมด้วยการสรรเสริญยกย่องว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA

เนวิลล์ กล่าวเสริมว่า “เขายังอายุแค่ 23 ปีเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การจดจำ แต่ตอนนี้เขากำลังคงคิดกันอยู่เหมือนว่า เขามีพรสวรรค์ที่สูญเสียไป เขาคงคร่ำครวญเกี่ยวกับสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยทำได้ เขามักจะวิ่งเปิดช่องให้กองหน้า แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ทำแบบนั้นเลย ผมคิดว่าเขารอบอลจังหวะสอง และเขาเหม่อมากเกินไป นั่นคือสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ เดเล่ อัลลี่ เคยเป็น”

ดังนั้นความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ของตัวรุก สเปอร์ส คืออะไร? เกิดอะไรขึ้นกับเขา ? มันง่ายพอๆ กับการขาดแรงกระตุ้นบนสนาม นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของชายหนุ่มผู้ที่ลืมเช่น บัลบัว มันเป็นสิ่งที่ช่วยพาเขาขึ้นไปบนสุด

ขณะเดียวกันเรื่องตัวเลขไม่จำเป็นต้องเปิดเผยสิ่งที่คุณคาดหวัง ยกตัวอย่างเช่น อัลลี่ ครอบคลุมพื้นที่มากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ในสนามที่แอนฟิลด์ในการแข่งขันที่ดุเดือด และเขาทำสิ่งเดียวกันนี้ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ สเปอร์ส เอาชนะ เรดสตาร์ เบลเกรด 5-0

แน่นอนว่าฟุตบอลมีมากกว่าการวิ่ง แต่อย่างน้อยก็แนะนำว่าปัญหาของ อัลลี่ นั้นไม่สามารถทำได้โดยขาดความพยายาม ดาวเตะวัย 23 ปี ไม่ถนัดในการวิ่งไล่บอลในเกมที่มีความเข้มข้นสูง และหาก โปเช็ตติโน่ และลูกทีมของเขากำลังขัดข้อมูลทางกายภาพเพื่อขอคำอธิบายก็เป็นไปได้ว่า พวกเขาจะวิ่งค้นหาบอลอย่างไร้ประโยชน์

อัลลี่ นั้น ค่อนข้างคงที่ และไม่พัฒนาไปมากกว่าเดิม

ขณะเดียวกัน ปัญหาคือว่าสถิติการครอบครองบอลของ อัลลี่ นั้น ค่อนข้างคงที่ และไม่พัฒนาไปมากกว่าเดิม ในฤดูกาลแรกของเขาที่ ท็อตแน่ม นั้น เขาเฉลี่ยการสัมผัสที่ 64 ครั้งใน 90 นาที ในฤดูกาลนี้คือ 65 ครั้งใน 90 นาที

นอกจากนี้ อัลลี่ มีส่วนร่วมในการเล่นเท่าที่เขาเคยเป็นมาฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดของเขาต่อหน้าปากประตูคู่แข่ง แต่ประการแรก คือเขาไม่ได้อยู่ในสนามนานหลายนาทีเหมือนเมื่อก่อน เพราะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน

ประการที่สองคือ แม้ว่ากองกลางชาวอังกฤษ จะได้ลงเล่น แต่บทบาทของเขาก็เปลี่ยนไป ปัญหาของ ท็อตแน่ม ในตำแหน่งกองกลาง บวกกับรูปแบบการเล่นของ ซอง ฮึง มิน หัวหอกทีมชาติเกาหลีใต้ นั้น หมายความว่า อัลลี่ ต้องถูกจับไปเล่นต่ำกว่าเดิม

ในช่วงที่ อัลลี่ ได้เล่นในตำแหน่งตัวรุกคอยสนับสนุน แฮร์รี่ เคน กองหน้าตัวเก่ง ของ สเปอร์ส นั้น เขาเคยซัดไปถึง 18 ประตูในฤดูกาลเดียว และในช่วงที่ เคน บาดเจ็บ เขายังเคยถูก โปเช็ตติโน่ ดันขึ้นไปเล่นเป็นศูนย์หน้ามาแล้วเช่นกัน

ดังนั้นบางทีนี่อาจเป็นทีม ท็อตแน่ม ที่ไม่ได้ใช้ อัลลี่ ในลักษณะเดียวกันแบบเดิมอีกต่อไป ซึ่งดูเหมือนว่าจะสอดคล้องกับการประเมินของ เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล ที่ระบุว่า “เขาไม่ใช่ผู้เล่นกองกลางสำหรับในความคิดของผม ตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา คือเป็นกองหน้าตัวที่ 2 หลัง แฮร์รี่ เคน”

“ผมรู้ว่า เราได้พูดคุยเกี่ยวกับ แฟรงก์ แลมพาร์ด และ รอย คีน สมัยหนุ่มๆ ผมไม่เคยเห็นพวกเขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมเมื่อครองบอล แต่ถ้าพวกเขาเข้าไปในกรอบเขตโทษคู่แข่ง พวกเขาจะดูดุดันและยิงประตูได้อยู่เสมอ”

“การเล่นของ อัลลี่ ไม่ใช่ในแบบเดียวกับ แลมพาร์ด, พอล สโคล์ส และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เขาวิ่งจากแนวลึกเพื่อไปสนับสนุน เคน และนั่นคือโอกาสที่ทำให้เขายิงประตูได้อย่างสม่ำเสมอ” คาร์ราเกอร์ กล่าว

ดังนั้นสิ่งนี้จึงอธิบายได้อย่างหมดจดว่า ทำไมการยิงประตูของ อัลลี่ ถึงหยุดลง มันเป็นความจริงที่เขายิงประตู และแอสซิสต์ ได้น้อยกว่า 2 ซีซั่นที่ผ่านมา ในขั้นต้นนี้ดูเหมือนจะเป็นคำอธิบายที่ดีสำหรับการทำประตูที่น้อยลง

แต่จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า คุณภาพในเกมของ อัลลี่ ลดลงเพราะเขาถูกจับไปยืนต่ำกว่าเดิม บางทีอาจเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจหากเรามองว่า เขายิงประตูจากด้านในกรอบเขตโทษคู่แข่งเป็นประจำในฤดูกาลที่แล้ว

ดังนั้นรูปแบบการยิงประตูที่คาดหวัง ซึ่งการยิงแต่ละครั้งเพื่อคุณภาพจะนำเสนอภาพความจริงที่สอดคล้องกัน จากโอกาสที่บันทึกสถิติของ อัลลี่ ชี้ให้เห็นว่า เขาควรทำประตูในทุกๆ 380 นาที ใน 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา

ในฤดูกาลก่อนหน้านั้น อัลลี่ ทำประตูในทุกๆ 339 นาที และ 344 นาทีในปีแรกของเขาที่ลีกสูงสุด แต่มันก็ไม่ได้ผิดปกติไปจากเดิมมากนัก นั่นคือ ภาพที่กว้างขึ้นเป็นของผู้เล่นที่สามารถไว้วางใจให้ทำประตูอย่างเกรี้ยวกราดทุกๆ 4 เกม

อัลลี่ ไม่ได้ฟอร์มตกมากมายอย่างที่หลายคนคิด แต่เขาก็ไม่ได้มีฟอร์มที่ดีอย่างที่คาดไว้ ความคาดหวังของการปรับปรุงนั้นไม่สมเหตุสมผลหรือไม่ โดยกองกลาง “ไก่เดือยทอง” ยังเด็ก แต่เขายิงประตูรวมในอาชีพของตัวเองมาถึง 77 ลูกแล้ว

ตอนนี้ อัลลี่ กำลังเผชิญหน้ากับความคาดหวังที่มาพร้อมกับการเป็นผู้เล่นระดับสูงในทีมที่กำลังฟอร์มตก และการยิงเพียง 2 ประตู ในการแข่งขันทั้งหมดให้หับ สเปอร์ส และทีมชาติอังกฤษตั้งแต่คริสมาสต์นั้น ทำให้การวิจารณ์หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน

ตอนนี้ อัลลี่ กำลังเผชิญหน้ากับความคาดหวัง