พอล คลีเมนต์ กับประสบการณ์อันสุดยอดในโลกลูกหนัง

พอล คลีเมนต์ กับประสบการณ์อันสุดยอดในโลกลูกหนัง

“ซลาตัน อิบราฮิโมวิช สามารถผลักคุณให้กระเด็นได้ด้วยปลายเล็บ ผมจำได้ว่า ซลาตัน แข็งแกร่งแค่ไหน และผมไม่เคยเห็นใครเรียกร้องอะไรมากมายจากเพื่อนร่วมทีมของตัวเองเท่าเขาอีกแล้ว” พอล คลีเมนต์ อดีตสตาฟฟ์โค้ชชาวอังกฤษ ผู้เคยทำงานกับยอดนักเตะมาอย่างมากมายกล่าวกับ “บีบีซี” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดี จากรายงานใน โปรแกรมบอล

คลีเมนต์ เคยทำงานกับนักเตะบิ๊กเนมอย่าง อิบราฮิโมวิช, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกทีมชาติโปรุเกส, เดวิด เบ็คแฮม อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ, กาเร็ธ เบล ตัวรุกทีมชาติเวลส์ , โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงทีมชาติโปแลนด์ และ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ตำนานกองหน้าทีมชาติไอโวรี่ โคสต์

ขณะเดียวกัน คลีเมนต์ ยังเคยเป็นผู้จัดการทีมของ ดาร์บี้ เคาน์ตี้, สวอนซี ซิตี้ และ เร้ดดิ้ง มาแล้ว และเขายังเคยเป็นมือขวาของ คาร์โล อันเชลอตติ ยอดกุนซือชาวอิตาลี ที่สโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปอย่าง เชลซี,ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค

โค้ชวัย 48 ปี ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบรรดายอดนักเตะอาทิ อิบราฮิโมวิช มีความกระหายอย่างไรบ้าง ความเป็นมืออาชีพของ โรนัลโด้ และวิธีการเตรียมตัวต่างๆของ อันเชลอตติ ในการพูดคุยกับลูกทีมเรื่องแท็คติคก่อนจะลงสนาม

คลีเมนต์ กล่าวว่า “ทุกสโมสรมีความแตกต่างกัน และคุณอาจต้องพึ่งพาผู้เล่นบางคนมากกว่าคนอื่นๆในทีม ซึ่งแต่ละคนก็จะมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันออกไปทั้งในเรื่องบุคลิกและภาษา แต่ทั้งหมดมันเกี่ยวข้องกัน”

“สำหรับผมผู้เล่น 2 คน ที่มีลักษณะโดดเด่นกว่าคนอื่นๆก็คือ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แน่นอนว่าทุกคนสามารถเห็นพรสวรรค์พิเศษที่พวกเขาแสดงออกมาเมื่ออยู่ในสนาม แต่ในฐานะบุคคลพวกเขาน่าสนใจมาก พวกเขาคนเป็นสนุกสนาน และมีความมั่นใจในตัวเองมาก”

“ซลาตัน เป็นคนตรงไปตรงมา และมีความมั่นใจมากๆ และบางครั้งเขาก็ถูกมองว่า เป็นคนเย่อหยิ่ง แต่นั่นคือสิ่งที่เขาเป็น เขาเป็นแบบนั้นทุกวัน และเขามักจะถามคำถามผมเช่น ดิดิเยร์ ดร็อกบา เป็นไงบ้าง? ผมจะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ ดร็อกบา ทำได้ดี และ ซลาตัน จะตอบกลับมาว่า เขาไม่ดีเท่าผมหรอก และเขาจะทำให้คุณหัวเราะ”

“พวกเขาทั้ง 2 คนเป็นมืออาชีพทั้งในและนอกสนาม และวิธีที่พวกเขาดูแลร่างกายของตัวเองด้วยการฟื้นฟูความรู้ด้านโภชนาการนั้นสุดยอดมาก และที่บ้านของ คริสเตียโน่ ในมาดริด มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการฟื้นฟูร่างกายที่คุณจะพบได้ที่สโมสรหรือสปา เขาลงทุนในอาชีพอย่างมาก และร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งจริงๆ คนแบบนี้จะมีสิ่งพิเศษกว่าคนอื่นๆ” คลีเมนต์ กล่าว

“ผู้เล่นทุกคนในสโมสรใหญ่มีความเป็นมืออาชีพอย่างมาก พวกเขามีแรงขับเคลื่อนในตัวเอง และต้องการทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่เสมอ พวกเขาต้องการการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อม พวกเขาต้องการได้ผลการแข่งขันที่ดี และการจัดสิ่งต่างๆได้อย่างถูกต้อง” อดีตโค้ช มาดริด กล่าว

คลีเมนต์ ไม่เคยเป็นนักฟุตบอลในลีกอาชีพเลย เขาเคยเป็นครูพละของโรงเรียนแห่งหนึ่งในแถบลอนดอนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา จากนั้นในช่วงปี 2000 เขาเริ่มเข้าสู่เส้นทางโค้ชอาชีพด้วยการเริ่มงานกับทีมเยาวชนของ ฟูแล่ม

ดังนั้น มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า คลีเมนต์ รับมือกับบรรดายอดนักเตะในสโมสรใหญ่ได้อย่างไร เมื่อเขาก้าวเข้าสู่หน้าที่โค้ชของทีมชุดแรก รวมถึงการก้าวเข้าไปเป็นมือขวาของ อันเชล็อตติ และอะไรคือเคล็ดลับสู่ความสำเร็จของเขา

คลีเมนต์ กล่าวว่า “ผมขึ้นมาจากทีมสำรองของ เชลซี เพื่อมาเป็นโค้ชในทีมชุดแรกซึ่งมีกัปตันทีม 4-5 คน อย่าง ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี่, ไมเคิล เอสเซียง, มิเชล บัลลัค และ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช พวกเขามีบุคลิกที่แข็งแกร่งมาก และนั่นเป็นครั้งแรกของผม

คลีเมนต์ รับมือกับบรรดายอดนักเตะในสโมสรใหญ่

“สำหรับผมแล้ว ประสบการณ์การมันเป็นครูดีที่สุดของคุณ ในทุกๆวันคุณต้องมีสมาธิ และมีสมาธิอย่างมากในการเป็นโค้ชให้กับทีมใหญ่แบบนี้ และรับมือกับนักเตะมืออาชีพเหล่านั้นให้ได้”

“ผมทำงานกับสโมสรใหญ่มามากมาย ผมจำได้ว่า ซลาตัน จริงจังแค่ไหนกับเพื่อนร่วมทีมของเขาที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และผมไม่เคยเห็นใครเรียกร้องอะไรมากมายจากเพื่อนร่วมทีมของเขาเหมือน ซลาตัน อีกแล้ว แต่เพื่อนร่วมทีมทุกๆคนก็ให้ความเคารพเขามากๆ”

อดีตโค้ช เชลซี เล่าต่ออีกว่า “แมกซ์เวลล์ คือตัวอย่างที่ดีในเรื่องนั้น เขาเคยเล่นกับ ซลาตัน ที่ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม, อินเตอร์ มิลาน, บาร์เซโลน่า และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และในการฝึกซ้อมบางครั้ง ซลาตัน จะมาแนะนำ แมกซ์เวลล์ ว่าควรจะเล่นด้วยกันอย่างไรบ้าง รวมถึงไปแนะนำเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆด้วย และผู้รู้สึกได้ว่าผู้เล่นบางคนจะกลัวนิดหน่อยเมื่อ ซลาตัน เดินเข้ามาหา”

“ที่ เชลซี จะมีกลุ่มนักเตะที่คอยอยู่ต่อหลังการฝึกซ้อมเสร็จ แฟรงค์ แลมพาร์ด จะเป็นคนที่คอยอยู่ซ้อมต่อทุกวันเพื่อฝึกยิงด้วยเท้าซ้าย-ขวา ทั้งจากใน และนอกกรอบเขตโทษ รวมถึงนักเตะอย่าง ดร็อกบา, นิโคล่าส์ อเนลก้า และ ฟรองล็องต์ มาลูด้า ก็มักจะอยู่ซ้อมต่อเช่นกัน”

“ส่วนที่สโมสรอื่นๆ ซลาตัน จะเป็นคนที่จะใช้เวลาเพิ่มเติมหลังการฝึกซ้อมเสร็จ และผมเคยทำงานเพิ่มเติมกับ แกเร็ธ เบล เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เราย้ายเขาไปเล่นในตำแหน่งปีกขวา เราทำให้เขาไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำประตู หรือเลี้ยงบอลตัดเข้ามาจากริมเส้นเพื่อสร้างโอกาสได้” คลีเมนต์ กล่าว

อันเชล็อตติ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมของ เอฟเวอร์ตัน ได้ทำงานร่วมกับ คลีเมนต์ เป็นเวลานานถึง 7 ปีครึ่งใน 4 ประเทศ โดย อันเช่ เกิดความประทับใจในตัว คลีเมนต์ เนื่องจากมีวิธีการซ้อมรูปแบบใหม่ และสามารถสร้างแรงจูงใจให้กับผู้เล่นได้เป็นอย่างดี

คลีเมนต์ เล่าต่อว่า “ในปี 2009-10 กับ เชลซี เราคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และจบเกมสุดท้ายของฤดูกาลด้วยการชนะ วีแกน แอธเลติก 8-0 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในสัปดาห์ต่อมาเราจะเล่นกับ พอร์ทสมัธ ในศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ และเราได้ทำบางสิ่งบางอย่างในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วยการเป็นดับเบิ้ลแชมป์ มันเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมมาก”

“เมื่อคืนก่อนเกม คาร์โล พูดกับผู้เล่นเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแท็คติคสำหรับรอบชิงชนะเลิศ แต่แทนที่เขาจะใช้กระดานแสดงแท็คติค เขาเริ่มถามคำถามกับผู้เล่นว่า “เราอยู่ที่นี่เพียงครั้งเดียวในฤดูกาลนี้ ผมคิดว่าคุณรู้วิธีที่ผมจะขอให้พวกคุณเล่น คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับแท็คติคสำหรับเกมในวันพรุ่งนี้กับ พอร์ทสมัธ”

“มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นว่า ผมยืนขึ้นอยู่ด้านหน้านักเตะพร้อมด้วยปากกา และเริ่มเขียนสิ่งต่างๆเมื่อ เช็ก, แลมพาร์ด, เทอร์รี่ และ ดร็อกบา แสดงความคิดเห็น พวกเขาช่วยกันคิดทั้งเกมรุก-เกมรับ จากนั้น คาร์โล กล่าวว่า นั่นแหล่ะนั่นคือสิ่งที่เรากำลังจะทำ และพวกคุณทำมันแล้ว เขาให้ความเป็นอิสระอย่างแท้จริงแก่ผู้เล่น และเราก็ชนะในเกมนั้น”

“ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2014 รอบชิงชนะเลิศกับ เรอัล มาดริด เราเล่นกับ แอตเลติโก้ มาดริด คู่แข่งสำคัญในลิสบอน และเราตามหลังพวกเขา 0-1 ในช่วงพักครึ่งเวลาแรกมันเป็นตัวอย่างที่ดีว่าใครบางคนจะจัดการกับความกดดันในเกมแบบนี้ได้อย่างไร”

“คาร์โล แสดงให้ผมเห็นถึงวิธีที่เขาจะพูดกับผู้เล่น และสิ่งที่ผมเห็นคือ คนที่มีประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ที่พูดอย่างสงบ และจัดการกับข้อเท็จจริงในสนาม เขาให้ข้อมูลต่างๆกับลูกทีม แต่มันไม่ได้มากจนเกินไป และการพูดคุยแบบนั้นที่จะช่วยผู้เล่นให้มีความมั่นใจ จากนั้นผู้เล่นออกไปในช่วงครึ่งหลังอย่างสงบ และควบคุมทุกอย่างได้ และเล่นเกมที่ดีมาก และเราก็ชนะในท้ายที่สุด” คลีเมนต์ กล่าวทิ้งท้าย

คลีเมนต์ ไม่เคยเป็นนักฟุตบอลในลีกอาชีพเลย