มีอยู่จริงเหรอ! นักเตะผู้ทำตัวเยี่ยงโค้ชคนที่ 2 ในทีม !

มีอยู่จริงเหรอ! นักเตะผู้ทำตัวเยี่ยงโค้ชคนที่ 2 ในทีม !

มันมีอยู่จริงๆเหรอสำหรับนักเตะบางคนที่บางครั้งเหมือนจะทำตัวยิ่งกว่าคนเป็นโค้ชซะเองอีก !?ถ้าหากว่าเป็นนักเตะที่ควบตำแหน่ง “โค้ชแอนด์เพลย์เยอร์” ในโลกลูกหนังนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะส่วนใหญ่นักเตะที่อยู่ในวัยใกล้เลิกเล่น และได้ผ่านการอบรมวิชาชีพโค้ชระดับโปรไลเซนส์มาแล้ว สามารถทำงานเป้นโค้ชได้ทันทีต่อให้ยังเป็นพ่อค้าแข้งที่ยังไม่ได้เลิกเล่นบอลอาชีพยกตัวอย่างเช่นรายของ เวย์น รูนี่ย์ ในช่วงก่อนหน้าที่เขาจะแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ เขาเองก็มีโอกาสทำหน้าที่ทั้งเป็นโค้บและผู้เล่นให้กับทีมดาร์บี้หรือจะเป็นรายของ แวงต์ซ็องต์ กอมปานี ตำนานปราการหลังชาวเบลเยี่ยมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ในเวลานี้กำลังทำงานเป็นโค้ชให้กับสโมสร อันเดอร์เลชท์ ในลีกบ้านเกิด แต่ว่าในช่วงก่อนจะแขวนเกือกนั้น กอมปานี ก็ได้ทำหน้าที่ทั้งเป็นผู้เล่น-โค้ช ในคนๆเดียวกันให้กับอันเดอร์เลชท์นี่แหละแต่สิ่งที่เราจะสื่อก็คือ มันมีอยู่จริงๆเหรอ กับพวกนักตะที่บางครั้งทำตัวโอเวอร์แอ็กติ้งอยู่ข้างสนาม กระตุ้นเพื่อนร่วมทีมราวกับเป็นโค้ชซะเอง ทั้งๆที่โค้ชตัวจริงก็

ยืนหัวโด่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขาเท่าไหร่

ยืนหัวโด่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขาเท่าไหร่

สิ่งนี้ คิดว่าหลายคนคงจะเคยเห็นมาจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าจอมสับชาวโปรตุเกสที่เคยออกอาการแอ๊กอาร์ตกระตุ้นเพื่อนอยู่ข้างสนามในตอนที่ ทีมชาติโปรตุเกส กำลังแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2016 กับทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งในเกมดังกล่าวนั้น โรนัลโด้ บาดเจ็บจนต้องโดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ต้นเกม แต่แทนที่จะนั่งพักเงียบๆเพื่อบรรเทาอาการบาดเจ็บ แต่ CR7 ที่เป็นกัปตันทีมชาติ กลับไปยืนโวย สั่งให้ลูกทีมวิ่ง เพรสซิ่ง ราวกับเป็นโค้ชหรือจะเป็นในฟุตบอลโลก 2018 ที่ซึ่งทีมชาติอาร์เจนติน่า รองแชมป์เก่าจากปี 2014 มีปัญหาในเรื่องแท็คติกอย่างชัดเจน และในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม อาร์เจนติน่าที่มีอยู่ 1 แต้มจาก 2 เกมแรก จำเป็นต้องชนะไนจีเรียและลุ้นให้โครเอเชียชนะไอซ์แลนด์ด้วย เพื่อทำให้พวกเขาเข้ารอบตามไปในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม ซึ่งโค้ชทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดดังกล่าวก็คือ ฮอร์เก้ ซามเปาลี ที่ดูจะมีปัญหาในเรื่องการจัดทัพเหลือเกินและจากภาพที่ทีมงานถ่ายทอดสด จับภาพได้ตอนก่อนที่นักเตะฟ้าขาวจะกลับมาลงเล่นในช่วงครึ่งหลัง เราก็ได้เห็น ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมที่เพิ่งยิงประตูได้ในครึ่งแรก กำลังแจกแจงแผนการให้เพื่อนร่วมทีมได้รู้ว่าในครึ่งหลัง พวกเขาควรจะทำยังไง ควรเล่นอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่าอันที่จริงนี้ หน้าที่มันควรเป็นของโค้ช แต่ก็รู้ๆกันอยู่ในเวลานั้น ไม่มีนักเตะฟ้าขาวคนไหนให้ความเชื่อมั่นในแท็คติกของ ซามเปาลี อีกแล้วถ้าหากเราย้อนกลับไปในยุค 70 นักเตะสไตล์ที่ค่อนข้างทำตัวเป็นเหมือนโค้ชอีกราย ก็มีให้เห็นเช่นกัน … เพียงแต่เขาคนนั้นดันเป็นพวกที่มีมันสมองเป็นเลิศ และสามารถรับคำสั่งจากโค้ชที่อยู่ข้างสนามและนำไปถ่ายทอดให้เพื่อนร่วมทีมได้เข้าใจแผนได้อย่างแยบยลและนักเตะคนที่ว่านี่ก็คือ โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานจอมทัพผู้ล่วงลับของทีมชาติฮอลแลนด์นั่นเอง !ในสมัยที่ ครัฟฟ์ ยังมีชีวิตอยู่นั้น เขาเคยค้าแข้งให้กับหลายๆสโมสร แต่สโมสรหลักๆที่เขาระเบิดฟอร์มเทพออกมาได้มากที่สุดก็คือ อาแจ็กซ์ และ บาร์เซโลน่า ภายใต้การทำทีมของ ไรนุส มิเชลล์ ที่ครัฟฟ์ยกย่องให้เป็นพ่อคนที่ 2 ของเขาเลยทีเดียว

ไรนุส เป็นเจ้าแห่งแท็คติกเกมรุก

ไรนุส เป็นเจ้าแห่งแท็คติกเกมรุก

โดยเฉพาะกับระบบการเล่น โททัล ฟุตบอล ที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับอาแจ็กซ์ และ ทีมชาติฮอลแลนด์ และแผนการเล่นนี้ ครัฟฟ์ ที่เป็นศูนย์กลางของระบบ จะเป็นคนรับคำสั่งจากโค้ชในฐานะกัปตันทีม และคอยบัญชาการเกม กำกับเกมทุกอย่าง จัดระเบียบทีม ตำแหน่งการยืนของเพื่อนในสนาม ซึ่งครัฟฟ์ทำได้ดีราวกับมี ไรนุส ลงไปสิงอยู่ในตัวเขาและเล่นในสนามไปด้วยกันโดยอาศัยร่างของครัฟฟ์เป็นโฮสต์เลยทีเดียวและมันก็ไม่น่าเชื่อว่า ความฉลาดของครัฟฟ์มันยังลากยาวไปจนถึงยุคที่เขาคุมทีมในฐานะโค้ชเต็มตัวด้วยอีกแน่ะเรื่องราวของนักเตะที่ทำตัวเยี่ยงโค้ชนั้น มันมีอยู่อีกมากมาย เพียงแต่เราต้องดูว่านักเตะคนนั้นๆ แค่ทำตัวอีโก้ โวยวายเวลาเพื่อนเล่นไมได้ดั่งใจ หรือว่ามีเซนส์ในการจัดทัพหรือมีหัวในการคิดแท็คติกระดับอัจฉริยะซ่อนอยู่ในตัว และเขาใช้งานมันได้ก่อนเวลาอันควรกันแน่มากกว่า …