ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่ ! ถึงเวลาแจ้งเกิดในบทบาทใหม่แล้ว

ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่ ! ถึงเวลาแจ้งเกิดในบทบาทใหม่แล้ว

ท็อตแนม อาจจะกลับมาเป็นทีมที่สามารถการันตีเรื่องผลการแข่งขันได้อีกครั้ง (แม้ว่าสถิติการทำประตูจะยังไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวเท่าไหร่) ภายใต้การคุมทีมของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ แต่พวกเขาก็ยังเหมือนกับว่ามีงานสุดหินให้ต้องทำอยู่ในเวลานี้พวกเขาอาจจะโชคดีที่มีผู้เล่นที่จบสกอร์เก่งที่สุดในโลกอย่าง แฮร์รี่ เคน เพราะแค่ว่านักเตะสเปอร์สคนอื่นๆในสนาม คิดไม่ออกว่าจะทำยังไงกับเกมดี ก็แค่จ่ายบอลไปให้เขาก็พอแต่ว่าในช่วงหลังๆ ดูเหมือนว่าทีมตรงข้ามก็ชักจะทันมุขของสเปอร์สแล้ว ว่าพวกเขาควรจะทำอย่างไรเพื่อหยุดการเล่นเกมรุกของ สเปอร์ส ขอแค่พวกเขาขวางทางไม่ให้บอลไปถึง เคน ก็เท่ากับว่าพวกเขาตัดปัญหาเรื่องพลังการยิงประตูของสเปอร์สได้แล้วและในเมื่อบอลไปไม่ถึงตัวปิดสกอร์ การยิงประตูก็ต้องหวังพึ่งพาที่นักเตะคนอื่นแทน แต่สเปอร์สเองก็ยังมีจุดอ่อนอยู่พอสมควร เพราะถ้าหากว่าพวกเขายังขาดนักเตะในแดนกลางที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำเกมรุก ทั้งยิงทั้งจ่ายเหมือนสมัยที่ คริสเตียน อีริคเซ่น ยังอยู่กับทีม มันก็เลยดูยากขึ้นถ้าหากว่าจะเพิ่มสถิติในการยิงประตูจากแดนกลางและเมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็เลยได้เห็น ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่ ถูกนำตัวกลับเข้าสู่รายชื่อผู้เล่นตัวจริงอีกครั้ง โดยเฉพาะสำหรับการลงสนามเพื่อสู้กับ แรนส์ ในวันพฤหัสบดี และแฟนบอลก็มีคำถามว่า เอ็นดอมเบเล่ ไหวกับระบบแดนกลางของสเปอร์ส ณ เวลานี้เหรอ

มิดฟิลด์รายนี้เหรอ? ก็ไม่เชิง เขาอาจจะเวิร์คก็ได้ ..

มิดฟิลด์รายนี้เหรอ? ก็ไม่เชิง เขาอาจจะเวิร์คก็ได้ …

นับว่าน่าเป็นห่วงมากสำหรับแฟนบอลในช่วงแรก เพราะมิดฟิลด์รายนี้ก็ร้างสนามไปนาน และบทบาที่เขาเล่นนั้น ก็คือกองกลางที่จะต้องลำเลียงบอลและเชื่อมเกมกับเหล่าตัวรุกเช่น แฮร์รี่ เคน และรวมถึง ลูคัส มูร่า แต่เขาจะทำได้ไหวจริงๆเหรอ นั่นคือคำถามของแฟนบอลในตอนแรกแต่แล้วเขาก็ทำได้จริงๆ เอ็นดอมเบเล่ อาจจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในเกมที่สเปอร์สได้สู้กับ แรนส์ในช่วง 30 นาทีก่อนเกมในครึ่งแรกจะจบนั้น เอ็นดอมเบเล่ แทบจะไม่มีอิมแพคต่อทีมเลยก็จริง บางทีเขาอาจจะยังขาดความฟิตและความเข้าใจในเกมไปบ้าง – เพราะการเริ่มต้นลงสนามเป็นตัวจริงครั้งสุดท้ายของเขา มันเกิดขึ้นในวันที่ 21 เมษายน – หรือบางทีเขาอาจจะยังคงต้องการเวลาอีกนิดหน่อย เพื่อที่จะหาวิธีที่จะทำให้เขาสามารถรีดฟอร์มการเล่นสูงสุด 100% ของเขาออกมา และจะต้องรีดออกมาในช่วงเวลาที่เหลือทั้งหมดด้วยแม้ว่าครึ่งหลังจะจบลงอย่างน่าผิดหวัง ทั้งสองทีมต่างเสมอกันไป 2-2 แต่ว่า เอ็นดอมเบเล่ ได้กลับกลายเป็นมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดของสเปอร์ส และสมควรที่จะได้อยู่เล่นต่อในครึ่งหลังอยู่แล้ว ซึ่งตั้งแต่นาทีที่ 46 เป็นต้นไป เขาก็เริ่มเล่นได้อย่างโดดเด่นอีกครั้ง

การเล่นเป็นตัวเชื่อมเกมของเขากับ เคน มันได้แสดงให้เห็นอีกครั้ง

การเล่นเป็นตัวเชื่อมเกมของเขากับ เคน มันได้แสดงให้เห็นอีกครั้ง

ว่าเป็นเขานี่แหละที่ตามเซนส์บอลของเคนได้ทัน และในขณะเดียวกัน เขาก็พยายามพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษเพื่อโอกาสที่ดีในการจะยิงเองด้วย และเขาก็ชักจะมีความยืดหยุ่นทางร่างกายที่มากขึ้น เมื่อผนวกกับทักษะของเขาในการจะเลี้ยงบอลฝ่าแนวรับ หรือพยายามยิงประตูจากแถวสองด้วย มันก็เริ่มทำให้แฟนบอลชักจะเห็นเงาของ เอ็นดอมเบเล่ เหมือนสมัยที่เขาอยู่กับลียงมากขึ้นแล้วเขาพยายามพลิกเกม ทำทุกอย่างให้กับสเปอร์ส ที่แม้ว่าจะมีผลงานที่แย่มากไหนก็ตามในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ ก็ต้องยอมรับว่า เอ็นดอมเบเล่ สำคัญต่อทีมมากเลยจริงๆเขามีพรสวรรค์อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า จะทำยังไงเพื่อให้เขาสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีเอาไว้ได้ตลอดมากกว่า …ที่สำคัญคือ ถ้าหากว่าเขาสามารถเล่นในบทบาทหลังกองหน้าได้ดี และสามารถเชื่อมเกมกับเพื่อนในแดนกลางและในแดนหน้าได้ด้วย มันอาจจะถึงเวลาที่ นูโน่ จะต้องให้โอกาสนักเตะรายนี้ลงเล่นบ่อยๆเป็นพิเศษแล้ว !