ดิ สเตฟาโน่ – ปุสกัส! FACT FILE แห่งคู่หูแข้งทองของ เรอัล มาดริด

ดิ สเตฟาโน่ – ปุสกัส! FACT FILE แห่งคู่หูแข้งทองของ เรอัล มาดริด

ถ้าคุณจะนึกถึงคู่หูเกมรุกระดับตำนานของวงการฟุตบอลสักคู่หนึ่งที่หลับตายังรู้เลยว่าคู่หูตัวเองวิ่งตรงไหน แล้วก็สามารถผลักดันยิงผลัดกันแอสซิสต์ให้กันได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ มันคือการเล่นประสานงานที่เข้าขากันราวกับว่าเป็น โอโซระ ซึบาสะ และ มิซากิ ทาโร่ 2 ตัวตัวละครคู่หูแข้งทองจากมังงะเรื่อง “กัปตันซึบาสะ” เลยทีเดียว และในอดีตนั้นฟุตบอลสเปนในช่วงยุค 50 มีตำนานของคู่หูดาวยิงที่เกรียงไกรที่สุดของ เรอัล มาดริด อยู่ด้วยพอดี ซึ่งการประสายงานของสองดาวยิงคู่นี้เป็นที่สะพรึงของกองหลังทีมตรงข้ามที่มีคิวต้องมาปะทะกับ เรอัล มาดริด เลยก็ว่าได้มันคือเรื่องราวของ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ และ เฟเรนซ์ ปุสกัส สองตำนานกองหน้าระดับขึ้นหิ้งของ มาดริด และนี่คือเรื่องราวที่น่าสนใจของสองคู่หูมาดริดคู่นี้

ดิ สเตฟาโน่ เคยเกือบจะเป็นนักเตะบาร์ซ่า

ในสมัยที่ ดิ สเตฟาโน่ ยังเป็นดาวรุ่งอยู่ในลีกโคลอมเบียกับสโมสร มิเลียนาริออส ด้วยฝีเท้าและอายุของเขานั้นเป็นที่โดนใจของสโมสรมหาอำนาจของลีกสเปนทั้ง บาร์เซโลนา และ เรอัล มาดริด โดยที่ฝั่งของบาร์ซ่านั้นเกือบจะได้ลายเซ็นของนักเตะรายนี้ไปครอง แต่ทว่า เรอัล มาดริด ก็โดดเข้ามาแจมด้วยจนเป็นเหตุที่ทำให้เกิด “เอล คลาซิโก้” นอกรอบในตลาดนักเตะการยื้อแย่งตัวของ ดิ สเตฟาโน่ ระหว่างทั้งสองทีมกลายเป็นประเด็นดราม่ากันใหญ่โตจนสุดท้าย ต้องมีตัวกลางมาช่วยหาทางออกให้ด้วยการเสนอให้ทั้งสองสโมสรแบ่งกันใช้งาน ดิ สเตฟาโน่ คนละ 6 เดือน โดยที่บาร์เซโลนาจะได้ใช้สิทธิ์นั้นก่อน แต่บาร์ซ่าไม่ยอมรับข้อเสนอ พวกเขาถอนตัวจากการเซ็นสัญญากับแข้งตัวรุกรายนี้ทันทีเพราะรับไม่ได้ มันเลยเป็นเหตุที่ทำให้ เรอัลมาดริด ได้ตัวของ ดิ สเตฟาโน่ ไปร่วมทีมแทน

ปุสกัส เคยโชว์สกิลอุดปากเด็กที่บูลลี่ตัวเองมาแล้ว

ปุสกัส เคยโชว์สกิลอุดปากเด็กที่บูลลี่ตัวเองมาแล้ว

ปุสกัสนั้นเป็นนักเตะที่มีรูปร่างอ้วน และมักจะโดนดูถูกจากคู่แข่งเสมอ แต่มันก็ลงท้ายด้วยการที่คู่แข่งเหล่านั้นโดนปุสกัสสอนบอลแบบเจ็บๆให้เป็นประจำ และในงานการกุศลที่นักเตะระดับโลกหลายคน ได้มาสอนฟุตบอลเด็กๆ ในงานดังกล่าวมีนักเตะระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นคือตัวของ จอร์จ เบสต์ มาสอนฟุตบอลเด็กๆด้วย แต่เด็กๆนั้นไม่รู้จักตัวของ ปุสกัส และได้ออกท่าทางดูถูกตัวของปุสกัสที่ดูเงอะงะ แถมยังอ้วน ไม่ได้มีรูปร่างที่สง่างามแบบเบสต์
แต่กระนั้นแล้ว เบสต์ ที่รู้ดีถึงพิษสงของนักเตะถนัดเท้าซ้ายแบบปุสกัสก็ได้บอกกับเด็กๆว่า อย่าเพิ่งดูคนจากภายนอก และให้ดูสิ่งที่ปุสกัสกำลังจะทำ ซึ่งปรากฏว่าดาวยิงซ้ายทองคำรายนี้ โชว์การยิงบอลโดนคานประตูติดต่อกัน 9 ครั้งจากการเตะบอลทั้ง 9 ครั้ง ! และในครั้งที่ 10 ปุสกัสโชว์การเดาะบอลขึ้นไปพักที่ศีรษะก่อนจะปล่อยบอลไหลไปที่ด้านหลัง และเขาก็ใช้ส้นเท้าซ้ายกระดกบอลให้ข้ามหัวกลับมาด้านหน้า แล้วก็โชว์การยิงฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายข้างถนัดโดนคานเต็มเปาเป็นครั้งที่ 10 !เด็กๆในงานต่างก็ต้องอ้าปากค้าง และจากนั้นเบสต์ก็ได้พูดว่า “ขอแนะนำนะเด็กๆ นี่คือ เฟเรนซ์ ปุสกัส ว่าที่กองหน้าของเรอัล มาดริด คนใหม่”

รวมพลังยิงโหดใส่แฟรงค์เฟิร์ตร่วมกัน 7 เม็ด

 

ในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโรเปี้ยนคัพ 1958-59 ที่กลาสโกวประเทศสกอตแลนด์ เรอัล มาดริด ได้โคจรมาเจอกับทีม ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ตัวแทนจากบุนเดสลีกา และในเกมนี้ ดิ สเตฟาโน่ ที่ได้จับคู่กับ ปุสกัส ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศยูโรเปี้ยนคัพเป็นครั้งแรกก็แผลงฤทธิ์ทันที โดยที่ ดิ สเตฟาโน่ กดแฮททริกได้ ส่วนตัวของปุสกัสเหมายิงคนเดียว 4 ประตูในเกมนี้ ทำให้มาดริดคว้าแชมป์ยุโรปไปครองด้วยการกราดยิง ไอน์ทรัคไปแบบเบาะๆ 7 ประตูเลยทีเดยว

ดิ สเตฟาโน่ คือแข้งมาดริดคนแรกที่ได้บัลลงดอร์

ดิ สเตฟาโน่ คือแข้งมาดริดคนแรกที่ได้บัลลงดอร์

รางวัลบัลลงดอร์มีประกาศมอบเป็นครั้งแรกในปี 1956 และคนที่ได้ไปครองเป็นคนแรกคือ สแตนลีย์ แมทธิวส์ ปีกระดับตำนานของแบล็คพูล ต่อมาในปี 1957 รางวัลบัลลงดอร์ก็ได้หวนกลับมาประกาศอีกครั้ง และหนนี้ ดิ สเตฟาโน่ ก็เข้าวินไปในรายการนี้ และถือว่าเป็นแข้งมาดริดคนแรกที่ได้สัมผัสกับรางวัลลูกบอลทองคำ ก่อนที่จะได้ฟาดรายการนี้อีกรอบในปี 1959 ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่านักเตะที่ได้บัลลงดอร์มากกว่า 1 สมัยเป็นคนแรกนั้นคือ ดิ สเตฟาโน่ นั่นเอง