ซีเนอดีน ซีดาน กับสถานีแห่งต่อไปของเขาในการคุมทีม ? ว่ากันว่ามันอาจจะเป็นปีสุดท้ายที่ ซีเนอดีน ซีดาน ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสของทีม เรอัล มาดริด ที่จะได้คุมทีมแห่งนี้ต่อไปด้วยปัญหาหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นกับทีม มันเลยมีเหตุผลหลายๆประการเลยทีเดียว ที่จะทำให้อดีตจอมทัพหัวไข่ดาวรายนี้ ต้องอำลสโมสรแห่งนี้เป็นครั้งที่ 2 (ในบทบาทกุนซือ) หลังจากที่เขาเคยอำลาการทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมแห่งนี้มาแล้วครั้งหนึ่งในช่วงกลางปี 2018 หลังจากที่พาทีมป้องกันแชมป์ยุโรปไว้ได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันแต่ว่าเขาก็ได้กลับมาคุมทีมอีกครั้งหลังจากห่างเหินกันไป 10 เดือนด้วยกัน และเขาเองก็ใช้เวลา 1 ฤดูกาลเท่านั้นในการพาทีมแย่งแชมป์ลาลีกากลับมาจากอ้อมกอดของ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาล 2019-20นั่นก็เท่ากับว่า ซีดาน พาทีมได้แชมป์ลาลีกา 2 สมัยเข้าไปแล้วหลังจากเคยได้ในฤดูกาล 2016-17 แต่ว่าภายใต้ความสำเร็จของ ซีดาน มันก็มีข่าวอยู่ว่า “บอร์ดบริหารของสโมสร” ไม่ได้ปลื้มใจกับผลงานของกุนซือรายนี้เท่าไหร่บอร์ดบริหารของสโมสรหลายๆคน ไม่ชอบใจสไตล์การคุมทีมของซีดาน ที่หาจุดเด่น จุดขายของตัวเองไม่เจอ บางคนมองว่าซีดานหวังใช้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะในการขับเคลื่อนทีมมากกว่าใช้แทคติกที่ชัดเจน และที่สำคัญ ซีดานทำให้เห็นในหลายๆครั้งว่า เขาไม่สามารถทำให้ทีมมีผลงานที่สม่ำเสมอ พอจะวางใจในระยะยาวได้ด้วย มันเลยเป็นอีก 1 เหตุผลที่ทำให้ซีดานอาจจะไม่พอใจ และเลือกอำลาทีมไป แต่ถ้าหากเราจะถามว่า ถ้าเขาลาออก เขาจะย้ายไปคุมทีมไหนแทนกันล่ะ ?
ยูเวนตุสดีไหม ?
เรียกว่าตอนนี้ทีมที่มีข่าวพัวกันกับ ซีดาน มากที่สุดนั้นมันมีแค่ทีม ยูเวนตุส เพียงทีมเดียวจริงๆ เพราะไม่มีอะไรให้วิเคราะห์กันมาก ทีมใหญ่ๆหลายแห่งนั้น พวกเขามีกุนซือที่มีผลงานลงตัวอยู่แล้ว และในมุมมองของบอร์ดบริหารทีมฟุตบอลชั้นนำในยุโรปหลายๆแห่ง เหมือนจะมีความคิดคล้ายๆกับบอร์ดบริหารมาดริด นั่นก็คือพวกเขามองว่า ซีดาน ไม่ได้มีจุดขายอะไรที่ชัดเจนในการคุมทีม แทคติกก็คลุมเครือ หาความลงตัวได้ยาก การจะเสี่ยงเอาเขามาคุมทีม ใช่ว่าจะสามารถวางใจในระยะยาวได้เขาไมได้มีแทคติกเกมรุกที่ชัดเจนแบบ “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” , ไม่ได้มีจุดเด่นเรื่องการทำทีมเน้นเพรสซิ่งแบบที่ “เจอร์เก้น คล็อปป์” ทำให้กับลิเวอร์พูล หรือกระทั่งกับตัวของ ฮันซี่ ฟลิก สูตรการเล่นที่เราเห็นจากซีดานได้บ่อยๆก็เช่น 4-3-3 หรือ 4-5-1 แต่ก็ไม่ได้มีความนุ่มลึกอะไรมากนักในเขิงแทคติกแต่ว่ายูเวนตุสนั้น กลับมองตัวของซีดานในเรื่อง “บารมี” ซะมากกว่าเรื่องความสามารถ เพราะอย่างแรก ซีดาน คืออีก 1 ตำนานจอมทัพที่เก่งมากๆของยูเวนตุสในช่วงกลางยุค 90 ถึงต้นยุค 2000 เขาได้แชมป์มากมายกับทีมในเวลานั้น เป็นเจ้าของค่าตัวสถิติโลกในปี 2001 หลังจากที่เขาย้ายไปซบตักเรอัล มาดริดสำคัญที่สุดคือในทีมยูเวนตุส มีนักเตะที่ซีดานเคยคุมมาแล้วอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ และตัวของ ดานิโล่ อยู่ในทีมด้วยอีก เขาเองก็ย่อมรู้อยู่แล้วว่า ควรทำยังไงถึงจะทำให้ โรนัลโด้ ระเบิดฟอร์มออกมาได้และถ้าพูดว่า ซีดาน คือกุนซือที่ชอบใช้งานความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ และไม่ได้มีแทคติกอะชัดเจน งั้นทีมแบบยูเวนตุสก็เหมาะสมสำหรับเขาเลยจริงๆทีมนี้ มีนักเตะที่มีทักษะความสามารถเฉพาะตัวเก่งๆหลายคนให้ซีดานได้ใช้งานแบบสบายใจ แถมบอร์บริหารและแฟนบอลก็ดูท่าทางจะรักและผูกพันกับซีดานเป็นพิเศษด้วย สำคัญที่สุดคือ เขาคือกุนซือคนล่าสุดที่สามารถพาทีม เรอัล มาดริด ป้องกันแชมป์ยุโรปไว้ได้ 3 สมัยติดต่อกันเป็นคนแรกนับตั้งแต่บอลรายการนี้เปลี่ยนชื่อจากยูโรเปี้ยนคัพ มาเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกด้วยอีก และ 1 ใน 3 ครั้งที่ซีดานพามาดริดได้แชมป์ยุโรป ก็คือการพาทีมอัดยูเว่ในนัดชิงชนะเลิศตอนปี 2017 นั่นเองความสำเร็จในถ้วยยุโรป คือสิ่งที่ยูเว่ตามหามานาน บางทีซีดานคนนี้อาจจะบันดาลให้พวกเขาได้
