จามาล มูเซียล่า ยอดดาวรุ่งแห่งทีมชาติเยอรมัน เป็นอีก 1 เพชรเม็ดงามที่คิดว่าแฟนบอลอังกฤษคงจะเสียดายในฝีเท้าของเขาไม่น้อยแน่นอนเขามีโอกาสลงเล่นทั้งสิ้น 2 เกมให้กับทีมชาติอังกฤษรุ่น U21 ในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ก่อนที่เขาจะเลือกลงเล่นเป็นนักเตะในนามทีมชาติเยอรมนีชุดใหญ่ในที่สุด แถมยังสนุกกับฤดูกาลแห่งการพัฒนาฝีเท้าเข้าขั้นขีดสุดของเขาในถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า ของสโมสรบาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาล 2020/21อีกด้วยเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ จามาล มูเซียล่า ดูเหมือนจะเป็นดาวรุ่งที่มีฟอร์มการเล่นร้อนแรงที่สุดของอังกฤษ แต่ตอนนี้เขากำลังจะลงสนามสู้กับอังกฤษซะเอง ในสีเสื้อทีมชาติเยอรมันในการแข่งขันที่ เวมบลีย์ ในคืนวันอังคารนี้แล้วในศึกยูโร 2020ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เขาลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ U21 และอีก 4 วันต่อมา เขาก็ทำประตูแรกได้ ซึ่งสมาคมฟุตบอลอังกฤษและ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ ต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่เห็นผลงานของเขาส่อแววพัฒนาไปในทางที่ดี โดยที่ทั้ง เซาธ์เกต และฝ่ายบริหารของ เอฟเอ ต่างก็รู้สึกได้ว่าพวกเขาน่าจะสามารถโน้มน้าวใจให้แข้งวัย 17 ปีในขณะนั้น ซึ่งเป็น 1 ในผู้เล่นชั้นนำของบุนเดสลีกาที่มีอายุน้อยที่สุดของ บาเยิร์น มิวนิค เลือกที่จะเล่นให้กับทีม “สิงโตคำราม” อย่างเป็นทางการในที่สุดมันคือช่วงเวลาที่ก้าวกระโดดของเจ้าหนู มูเซียล่า อย่างแท้จริง เขาได้ลงเล่นแบบเต็มอิ่มตลอด 1 ปีกับบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งกล่าวกันว่าถ้าหาก มูเซียล่า ยังอยู่กับเชลซี เขาอาจจะเป็นได้แค่นักเตะที่วนเวียนอยู่ในอคาเดมี่ และรอวันที่จะต้องย้ายทีมแบบยืมตัวแน่นอน
“ตอนแรก เขาส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่า เขายังมองเห็นอนาคตของเขากับทีมชาติอังกฤษ”
ไมเคิล ชอนไวตซ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของอคาเดมีทีมเชลซี ได้กล่าวในช่วงเวลาที่ มูเซียล่า เพิ่งจะประเดิมสนามในสีเสื้อทีมชาติอังกฤษชุดเล็ก ซึ่งจากเกมดังกล่าว มันก็ทำให้แฟนบอลต่างก็ให้การยกย่อง มูเซียล่า ว่าจะกลายหนึ่งในแข้งพรสวรรค์ที่เล่นบอลได้ฉลาดที่สุดของยุโรปก็มิปานเลยทีเดียวแต่ว่าช่วงเวลาให้หลังแค่เพียงอีก 6 เดือนต่อมา มูเซียล่า ซึ่งมีอายุครบ 18 ปีในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดันจะต้องกลายเป็นคู่ต่อสู้ของทีมชาติอังกฤษ ที่จะได้ลงเล่นในเวมบลีย์ในคืนวันอังคารนี้ซะแบบนั้น โดยเขาได้กลับมาเยือนมาตุภูมิของตัวเองในฐานะ “นักเตะทีมชาติเยอรมัน”ช่วงเวลาหนึ่งปีก่อนที่เขาจะได้ประเดิมสนามให้กับทีมชาติอังกฤษ U-21 มูเซียล่า ได้ย้ายออกจากอคาเดมี่ของเชลซี เพื่อไปร่วมทีมบาเยิร์นในฤดูร้อนปี 2019 แล้วหลังจากนั้นไม่นาน โยอาคิม เลิฟ ผู้จัดการทีมชาติเยอรมันก็ได้ติดต่อมาหาเขา เพื่อโน้มน้าวให้นักเตะรายนี้ ลองพิจารณาในการเลือกเล่นให้กับทีมชาติเยอรมัน ที่ดูจะมีอนาคตในการคว้าแชมป์ระดับนานาชาติมากกว่าอังกฤษแอนดรูว์ มาร์ติน โค้ชทีมฟุตบอลของโรงเรียนไฮสคูล “ครอยดอน ไวท์กิฟต์” ซึ่งมูเซียล่า มีโอกาสลงเล่นให้ในสมัยเข้าศึกษาภาคบังคับ เขามีโอกาสทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับผู้เล่นดาวรุ่งรายนี้ด้วย และได้บอกกับ Sky Sports ว่าการตัดสินใจของ เลิฟ ที่เลือกมูเซียล่าไปเล่นให้กับเยอรมัน จะมีผลต่อชีวิตค้าแข้งของเขาในอนาคตไม่น้อยเลย
“ผมคิดว่านั่นเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่เลยล่ะ” เขากล่าว
“เป็นความผิดของทีมชาติอังกฤษ พวกเขาไม่มีกลอุบายอะไรเลยที่จะสามารถโน้มน้าวให้เขาอยู่ต่อ โร้ดแมปของพวกเขาเองก็ไม่มีอะไรที่ชัดเจน หรือดีพอที่จะทำให้นักเตะรายนี้กล้าวางใจพวกเขาน่าจะเสียดายแหละ คงจะได้เห็นเขาก้าวหน้ามากขึ้นในการเล่น แค่สองปีกับบาเยิร์น มันก็เพียงพอที่จะตัดสินแล้วล่ะว่าเขาคิดถูก อังกฤษจะมาต้องการเขาในตอนนี้ก็สายไปแล้ว เพราะ มูเซียล่า ได้เลือกประเทศที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกของฟุตบอลไปแล้ว พวกเขาได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าพวกเขาต้องการ มูเซียล่า ให้เป็นอนาคตของทีมแค่ไหนตอนที่จามาลอยู่กับเรา เขามีได้รับข้อเสนอจากเอฟเออังกฤษ และเอฟเอของเยอรมนี ผมจำได้ว่าผมได้คุยกับเขาอยู่นะ เกี่ยวกับการตัดสินใจในการเลือกทีมชาติ แต่ถามว่าเมื่อตอนที่เขาอายุ 15 ปี ณ จุดนั้น เขาชอบอังกฤษการเล่นในอคาเดมี่ของสโมสรฟุตบอลในอังกฤษ ได้ฝึกฝีเท้าในแคมป์ทีมชาติชุดเล็ก เขามีโอกาสได้รู้จักเด็กๆ เจนเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาจะมาจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ อาร์เซนอล พวกเขาก็สนิทกัน ได้เล่นร่วมกันเป็นประจำและยังให้เกียรติซึ่งกันและกันเสมอ แนวทางมันชัดเจนนะว่า มูเซียล่า น่าจะอยากอยู่กับทีมชาติอังกฤษในเวลานั้นการย้ายไปเล่นในเยอรมันตอนอายุ 16 ปี เขามีโอกาสได้ลงเล่นให้กับทีมชาติเยอรมัน เล่นในระบบอคาเดมี่ของเยอรมัน เขาซึมซับอะไรต่างๆที่เป็นเยอรมันมาหนึ่งปีแล้ว และตอนนี้เขาอยู่ในทีมชุดใหญ่ ดังนั้นแล้ว เขาที่เคยเล่นในระบบอคาเดมี่ในบุนเดสลีกามาตลอดทุกสัปดาห์ พอได้มาอยู่กับทีมชาติ ผมว่าเขาจะเล่นได้อย่างกลมกลืน และน่าเสียดายสำหรับอังกฤษมากเช่นกัน”คุณภาพของ มูเซียล่า ในการเล่นฟุตบอลนั้นไม่น่าแปลกใจสำหรับพวกเราทุกคน เขาได้ฝึกร่วมกับแข้งระดับโลกในบาเยิร์น มิวนิค ทุกวัน ได้ติดทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งนั่นก็หมายความเด็กคนนี้จะสามารถรับมือกับความกดดันครั้งใหญ่ได้แบบสบาย
