8 เรื่องราวน่าทึ่งของ เอดิน เซโก้ ผู้ฝ่าดงระเบิดในบ้านเกิดมาแล้ว

1. ในบอสเนีย และ เฮอร์เซโกวีนา ตัวของ เซโก้ จะเป็นรู้จักกันในชื่อ “โบซานสกี้ ดียามองต์” ซึ่งแปลโดยประมาณว่า “อัญมณีแห่งบอสเนีย” โดยชื่อเล่นนี้ ได้ถูกตั้งให้กับกองหน้ารายนี้ในเดือนมีนาคม 2009 โดยผู้บรรยายเกมการแข่งขันชาวบอสเนียอย่าง มาร์ยาน มิจาจโลวิช ซึ่งเพิ่งได้เห็นลีลาการทำประตูที่ยอดเยี่ยมของ เซโก้ ในเกมที่เขาลงเล่นให้กับทีมชาติและสู้กับทีมชาติเบลเยียม

1. ในบอสเนีย และ เฮอร์เซโกวีนา

2. เขาเปิดตัวกับทีมชาติชุดใหญ่เป็นเกมแรกในการสู้กับตุรกีเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2007 แถมยังเป็นการเปิดตัวที่อลังการซะด้วย เมื่อบอสเนียเป็นฝ่ายตามหลังตุรกีอยู่ 2-1 แต่เมื่อเซโก้ลงมาเล่น เขาก็ยิงลูกวอลเลย์สุดสวยเป็นประตูตีเสมอได้ ก่อนที่ทีมชาติบอสเนียของเขาจะพลิกชนะไปด้วยสกอร์ 3-2

3. หากคุณเป็นกองหน้า คุณก็ย่อมหวังถึงการจะกลายเป็นตัวทำประตูสูงสุดของประเทศคุณเสมอ และตัวของ เซโก้ ก็สามารถทำได้มาแล้วเช่นกัน! เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2012 ทีมชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา สามารถเอาชนะลิกเตนสไตน์แบบถล่มทลาย 8-1 โดยเกมนี้ เซโก้ ทำแฮตทริกได้ และสามประตูนั้นเพียงพอที่จะทำให้เขาเพิ่มสถิติในการยิงให้กับทีมชาติเป็น 24 ประตู แซงหน้าสถิติก่อนหน้านี้ที่ เอลเบร์ โบลิช เคยทำไว้ที่ 22 ประตูไปในที่สุด

4. ไม่เพียงแต่การเป็นดาวยิงสูงสุดให้กับทีมชาติบ้านเกิดของเขาเท่านั้น แต่เอดิน ยังมีประวัติในการเป็นดาวยิงสูงสุดระดับสโมสรมาแล้ว โดยมันเป็นช่วงที่เขาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2011-12 เมื่อเขาได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยิงได้ 4 ประตูในเกมเดียว โดยมันการแข่งขันกับ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ส ซึ่งเขาทำแฮตทริก “สมบูรณ์แบบ” ได้ในเกมนี้ โดยเป็นการยิงประตูด้วยเท้าขวา , เท้าซ้าย และศีรษะ ได้ในเกมเดียวกัน

5. เขาได้กลายเป็นตำนานของบ้านเกิดของเขาไปแล้ว โดยแฟนบอลสดุดีให้เซโก้เป็นราชันย์ของบอสเนียตั้งแต่วันที่เขายิงประตูให้ บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก ซึ่งการซัลโวถึง 10 ประตูของเขาในระหว่างการแข่งขันรอบคัดเลือก มันทำให้พวกเขาสามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรก และนี่ยังเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติครั้งแรกของพกวเขาด้วย

5. เขาได้กลายเป็นตำนานของบ้านเกิดของเขาไปแล้ว

6. เอดินอาจเป็นฮีโร่ของเด็กๆ ที่คลั่งไคล้ฟุตบอลในกรุงโรม แต่เมื่อตอนเขายังเป็นเด็ก และเติบโตมาในย่าน ซาราเยโว ประเทศบอสเนีย เขาเองก็เคปลาบปลื้มกับตำนานกองหน้าจากเอซีมิลานอยู่รายหนึ่งที่เขาชื่นชมมานาน และนักเตะที่เขาจดจำลีลาการทำประตูได้เสมอก็คือ อันเดรย์ เชฟเชงโก้ ตำนานแข้งชาวยูเครนที่เป็นนักเตะคนโปรดของเขา

7. เมื่อพิจารณาถึงความสมบูรณ์แบบในการเล่นเป็นกองหน้าตัวปิดสกอร์ของเขา จริงอยู่ที่เขาอาจจะยิงได้มากมายทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ แต่มันยากที่จะเชื่อว่าเขาไม่ได้เริ่มอาชีพในฐานะกองหน้าด้วยซ้ำ ตำแหน่งแรกของเขาคือตำแหน่งกองกลางและเขาก็ต้องดิ้นรนอย่างหนักในการจะแจ้งเกิดในการเป็นมิดฟิลด์ จนหลายคนคิดว่า เขาอาจจะไม่มีวันก้าวไปสู่จุดสูงสุดได้ แต่หลังจากเขาย้ายสโมสรไปเล่นยังต่างแดน เขาได้เล่นกองหน้า และเขาก็ไม่เคยกลับไปเล่นเป็นกองกลางอีกเลย

8. ประชาชนทุกคนในบอสเนีย ผ่านประสบการณ์เรื่องสงครามในประเทศมาหมดแล้ว และ เอดิน เชโก้ ก็ไม่ต่างกัน ในสมัยที่เขายังเล่นในบ้านเกิด เพื่อนร่วมทีมที่ย้ายมาจากต่างประเทศหลายคน ต่างพากันยกเลิกสัญญาและหนีออกจาก ซาราเยโว กันไปหมด ตอนสมัยเขายังเด็ก ยิ่งเป็นในช่วงที่เมืองแห่งนี้ถูกล้อม แต่ครอบครัวของเซโก้ก็ปฏิเสธที่จะย้ายจากบ้านเกิดไป และเมื่อสงครามเริ่มจะยืดเยื้อ เซโก้ ก็ได้ใช้เวลาหลายปีตั้งแต่ช่วง 6 ถึง 10 ขวบอาศัยอยู่ในแฟลตชั้นใต้ดินที่มีห้องนอนเพียง 1 ห้อง ครอบครัวของเขามีงปู่ย่า พ่อแม่ และรวมถึงมีสมาชิกในครอบครัวกว่า 12 คนอัดรวมกันแต่สิบปีต่อมา เซโก้ ก็ได้กลายเป็นทูตยูนิเซฟคนแรกของบอสเนีย

8. ประชาชนทุกคนในบอสเนีย