ฆวน โรมัน ริเคลเม่ นี่คือตำนานเพลย์เมกเกอร์ชั้นอ๋องที่แฟนบอลหลายๆคนต่างก็รู้สึกเสียดาย ที่เขาไม่ประสบความสำเร็จกับการมาเล่นในลีกยุโรปเท่าไหร่นัก แต่กระนั้นแล้วเพลงแข้งของเขา ทั้งในเรื่องการทำเกมรุก การจ่ายบอลคิลเลอร์พาส ฟรีคิก การทำหน้าที่เป็นผู้เล่นหมายเลข 10 ล้วนแล้วแต่สมบูรณ์แบบสุดๆว่ากันว่าในช่วงสมัยที่เล่นบอลอาชีพนั้น สโมสรที่ทำให้ ริเคลเม่ ระเบิดฟอร์มได้ดีที่สุดมีอยู่ 2 ทีมด้วยกัน และยังมีทีมชาติอาร์เจนตินาที่เขาเป็นหัวใจสำคัญของทีมอีกด้วย และเขามีวีรกรรมอะไรเด็ดๆให้เราได้จดจำตัวตนของเพลย์เมกเกอร์สุดคลาสสิกรายนี้บ้าง เรามาชมกัน !
เกือบเดินตามรอย ดิเอโก้ มาราโดน่า
ในอดีตนั้น ริเคลเม่ เคยได้รับการยกย่องให้เป็นถึง “นิวมาราโดน่า” แม้ว่าจะเป็นผู้เล่นหมายเลข 10 เหมือนกัน แต่สไตล์บอลนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าหากว่า ดิเอโก้ มาราโดน่าเป็นตัวบุกทะลวงจนแทบจะเป็นหน้าต่ำอยู่แล้ว ตัวของ ริเคลเม่ เป็นเพลย์เมกเกอร์สไตล์เดียวกันกับ “ซีเนอดีน ซีดาน” นั่นคือใช้สมองในการกำกับการเล่นของทีม เป็นศูนย์กลางเกมรุกเขาเติบโตมากับทีม อาร์เจนติโนส จูเนียร์ และได้ย้ายมาระเบิดฟอร์มกับ โบคา จูเนียร์ จากนั้นก็ย้ายไปเล่นให้กับ บาร์เซโลนา ซึ่งนี่เป็นเส้นทางการค้าแข้งแบบเดียวกับมาราโดน่าเป๊ะๆ
ชีวิตนี้อินดี้ ไม่เล่นนอกตำแหน่ง
ริเคลเม่นั้นเติบโตมาในบทบาทของ “มิดฟิลด์ตัวกลาง” ที่คอยทำหน้าที่เชื่อมเกมกลางสนาม แต่คลาสบอลของเขานั้นเด่นเกินกว่าที่จะเล่นเป็นตัวโฮลดิ้ง เขาจึงโดนปรับบทบาทมาเป็น “จอมทัพหมายเลข 10” หรือกองกลางตัวรุกหลังคู่กองหน้าในระบบ 4-4-2 จนโด่งดัง และจากนั้น ริเคลเม่ ก็ยึดมั่นในการเล่นหมายเลข 10 มาโดยตลอดจนวันแขวนสตั๊ดครั้งสมัยที่ย้ายไปเล่นกับบาร์เซโลนา โค้ชของทีมคือ หลุยส์ ฟาน กาล ที่ได้ส่งตัวของ ริเคลเม่ ลงไปเล่นในตำแหน่ง “ปีกซ้าย” ในแนวรุกซึ่งแน่นอนว่ามันคือตำแหน่งที่ ริเคลเม่ ไม่เคยสัมผัสมาก่อน อีกทั้งนักเตะที่ไม่มีสปีดต้นจัดจ้านแบบเขา แต่กลับโดนจับไปเล่นปีก มันก็ย่อมไม่ได้ทำให้ ริเคลเม่ พอใจเท่าไหร่และเมื่อปฏิเสธที่จะเล่นเป็นปีกซ้าย สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือ “การโดนจับนั่งสำรอง”
เป็นเทพกับทีมระดับกลาง
ในระดับลีกยุโรปนั้น ริเคลเม่ ไม่ประสบความสำเร็จกับบาร์เซโลนาอย่างชัดเจน ซึ่งในปี 2003 หลังจากที่บาร์ซ่าคว้าตัวของ โรนัลดินโญ่ เมจิกลูกหนังเลือดแซมบ้ามาอยู่กับทีม แถมยังยกเสื้อหมายเลข 10 ของริเคลเม่ให้กับ โรนัลดินโญ่ ไปใส่แทน มันเลยทำให้ ริเคลเม่ ต้องเผ่นออกจากบาร์ซ่าแลไปอยู่กับทีม “บียาร์เรอัล” ที่มีคุณภาพทีมดรอปกว่าบาร์เซโลนาตลอดเวลา 3 ปีที่อยู่กับบียาร์เรอัล ริเคลเม่ กลับมาเกิดใหม่ในบทบาทหมายเลข 10 ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ อินเตอร์โตโต้คัพ แถมพาทีมเข้าไปยังรอบรองชนะเลิศ UCL ปี 2006 ได้อีกด้วย แน่นอนว่าเขาคือคนที่คอยปั้นบอลให้กับ ดิเอโก้ ฟอร์ลัน สไตรเกอร์ชาวอุรุกวัยยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำจนได้รางวัลดาวยิงสูงสุด ลาลีกา 2004-05 อีกด้วย
ราชันย์ลูกหนังของโบคาตลอดกาล
หลังจากที่เจ้าตัวมีเรื่องทะเลาะกับ มานูเอล เปเญกรีนี่ โค้ชของบียาร์เรอัล เวลาในการค้าแข้งในลีกยุโรปก็หมดลงพอดี เขาได้ย้ายกลับไปยัง โบคา จูเนียร์ ทีมรักของเขาอีกครั้ง ซึ่งในการกลับมาค้าแข้งรอบที่ 2 ก็ยังคงได้แชมป์มากมากร่วมกับสโมสรและเขายังมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ โบคา ได้แชมป์ โคปา ลิเบอร์ตาดอร์เรสคัพ 2007 ไปครอง ซึ่งมันคือถ้วยแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ครั้งที่ 3 ของเขาอีกด้วย แล้วก็ได้อยู่ช่วยทีมยาวถึงปี 2014 ก่อนจะกลับไปแขวนสตั๊ดกับทีม อาร์เจนติโนส จูเนียร์ ในที่สุดในปี 2014 โดยสร้างสถิติทำประตูในระดับอาชีพได้มากถึง 143 ประตูจากการเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก และยังมีสถิติการทำแอสซิสต์อีกมากมายเช่นกัน
