กล้าที่จะยอมรับในฝีเท้านั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยทีเดียว บางคนต้องพิสูจน์อยู่หลายอย่างกว่าจะกลายมาเป็นตำนานนักเตะได้แต่ในอีกทางหนึ่ง นักเตะบางคนได้เลือกที่จะ “เปลี่ยนตำแหน่งจากที่ตัวเองโปรดปรานที่สุด ไปเล่นในอีกตำแหน่งหนึ่งแทน ซึ่งหนนี้แหละที่ทำให้ “ร่างเทพ” ของพวกเขาปรากฏกายขึ้นมาทันที และวันนี้เราจะกล่าวถึงเหล่านักเตะกองกลางที่เปลี่ยนตัวเองมาเป็นตัว “เรจิสต้า” หรือตัวทำเกมแนวลึกแล้วดันปังสุดๆจนทำให้พวกเขาได้รับการยกย่องอย่างสุดขีดมาจนถึงทุกวันนี้
ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ
ตำนานมิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่นผู้นี้ มีฉายาว่า “อันเดรีย ปีร์โล่ แห่งเอเชีย” เลยทีเดียว ในสมัยที่เป็นดาวรุ่งนั้น เอ็นโดะ ไม่ได้เล่นต่ำอยู่หน้าแผงหลังหรือยืนค่อนๆไปทางกลางสนาม แต่เขาเป็นมิดฟิลด์สไตล์หมายเลข 10 ที่ปั้นเกมอยู่หลังกองหน้าเลยทีเดียวแต่ทว่าในทีมชาติญี่ปุ่นนั้น มีนักเตะหมายเลข 10 ดีกรีสูงที่ซึ่งค้าแข้งอยู่ในยุโรปมาหลายปีอย่าง ชุนสุเกะ นากามูระ ยืนขวางทางอยู่ มันเลยทำให้ เอ็นโดะ มักจะเป็นตัวสำรองในทีมซะมากกว่า !แต่แล้ว จากการแนะนำของ ซิโก้ ตำนานจอมทัพแซมบ้าผู้ซึ่งเป็นกุนซือทีมชาติญี่ปุ่นในช่วงระหว่างปี 2004-2006 ได้แนะนำให้เขาลองถอยลงต่ำมาคอยเป็นตัวเชื่อมเกมอยู่ในแดนกลาง คอยออกบอล วางบอลยาวจากแนวลึกเพื่อทำเกม มันเลยทำให้ เอ็นโดะ แจ้งเกิดในบทบาทจอมทัพตัวต่ำหรือ เรจิสต้า ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ชาบี้ เฮร์นานเดซ
ตำนานมิดฟิลด์เท้าชั่งทองของบาร์เซโลน่ารายนี้ จัดว่าเป็นนักเตะที่รู้ตัวเร็วกว่าใครเพื่อนเลยทีเดียว มันเลยทำให้เขาแจ้งเกิดตั้งแต่วันแรกที่เขาขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของบาร์เซโลน่าในบทบาทกองกลางจอมทัพสไตล์เรจิสต้า แล้วเขาเปลี่ยนมาเล่นตำแหน่งนี้ตอนไหนย้อนกลับไปในสมัยที่ยังเด็ก ชาบี้ ก้าวเข้าสู่อคาเดมี่ “ลา มาเซีย” ของบาร์เซโลน่าและเขาหมายมั่นจะเล่นในตำแหน่ง “กองหน้าตัวต่ำ” แต่ทว่าทั้งรูปร่างที่เล็ก ไม่มีสปีด แต่เขากลับมีเซนส์ในการครองบอล อ่านเกม และจ่ายบอลสั้นยาวได้แม่นยำเกินวัย เลยทำให้โค้ชได้ให้การสนับสนุนเขาในการเล่นเป็นมิดฟิลด์เรจิสต้ามากกว่า และตั้งแต่นั้นมา จอมทัพนามว่าชาบี้ก็ถือกำเนิดขึ้น
อันเดรีย ปีร์โล่
ปีร์โล่นั้นก็มีจุดที่คล้ายกับ ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ ที่เรากล่าวถึงไปแล้วเช่นกัน นั่นก็คือปีร์โล่เติบโตมาในฐานะ “เพลย์เมกเกอร์หมายเลข 10” หลังคู่กองหน้า หรือแม้แต่กับบทบาทหน้าต่ำด้วย เพราะเขาโปรดปรานที่จะเล่นในตำแหน่งเดียวกันกับ โรแบร์โต้ บาจโจ้ ตำนานหมายเลข 10 ทีมชาติอิตาลีที่เป็นไอด้อลของเขานั่นเองแต่ปีร์โล่นั้น ขาดความคล่องตัวในการเล่นบอลในพื้นที่แคบๆหรือพื้นที่สุดท้าย ไม่มีความเร็ว และเมื่อเจ้าตัวได้รับโอกาสย้ายมาเล่นกับเอซีมิลาน เขาก็ได้เสนอตัวกับ คาร์โล อันเชล็อตติ เพื่อลองเล่นในบทบาทมิดฟิลด์ตัวโฮลด์บอลอยู่หน้าแผงหลัง คอยออกบอลยาว ทำเกมจากแนวลึกและสุดท้ายผลงานของ ปีร์โล่ ปังสุดๆในบทบาทดังกล่าว เขาสร้างตำนานจากบทบาทเรจิสต้าได้ยันวันสุดท้ายที่เขาเล่นบอลอาชีพเลยทีเดียว
คริสเตียน อีริคเซ่น
นี่เป็นรายล่าสุดที่ได้ลองเล่นในบทบาทเรจิสต้าให้กับทีมอินเตอร์ มิลาน แล้วดันปังสุดๆ ! โดยปกตินั้น อีริคเซ่น ที่เราคุ้นเคยในการเล่นเป็นหมายเลข 10 หรือตัวทำเกมด้านซ้ายมาตลอดนั้น ต้องยอมเปลี่ยนตำแหน่งการเล่นและสไตล์บอลเพื่อเอาตัวรอดในทีม อินเตอร์ มิลาน ของอันโตนิโอ คอนเต้ เลยทีเดียว ในทีมอินเตอร์ของ คอนเต้ ไม่มีตำแหน่งหมายเลข 10 ให้อีริคเซ่นได้เล่น แต่สุดท้ายเมื่อเขาลองเปลี่ยนมาเป็นตัว เรจิสต้า ผลก็คือนักเตะแบบเขาที่จ่ายบอลคิลเลอร์พาสแม่นยำอยู่แล้ว ก็ได้กลายเป็นตัวทำเกมแนวลึกที่มีเท้าสองข้างวางบอลยาวได้สุดฉมัง เขามีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้น และยังกลายเป้นหัวใจในแดนกลางให้กับอินเตอร์ไปแล้ว
