15 ปี กับดับเบิ้ลแอสซิสต์ในตำนานของ เฮนริค ลาร์สสัน

15 ปี กับดับเบิ้ลแอสซิสต์ในตำนานของ เฮนริค ลาร์สสัน

มันเป็นระยะเวลาถึง 15 ปีเต็มแล้ว นับตั้งแต่วันที่แฟนบอลบาร์เซโลน่า ได้เฮตอนที่ทีมรักของพวกเขาได้แชมป์ยุโรปสมัยที่ 2 ไปครอง นั่นคือถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาล 2005-06 ซึ่งเรียกว่าในฤดูกาลดังกล่าวนั้น บาร์เซโลน่า โชว์ฟอร์มได้เป็นพระเอกสุดๆทั้งในลีกตัวเองและในระดับบอลถ้วยยุโรปเลยทีเดียว !บาร์เซโลน่า หมายมั่นที่จะคว้าแชมป์ยุโรปรายการนี้ให้ได้ หลังจากที่พวกเขาเคยอกหักในนัดชิงชนะเลิศมาหลายครั้ง และได้แชมป์หนล่าสุดก็คือในปี 1992 พวกเขาจึงหมายมั่นว่าในยุคที่ โรนัลดินโญ่ กำลังฟอร์มเทพนั้น พวกเขาก็อยากที่จะได้แชมป์ยุโรปมาครองสักครั้งให้ได้นั่นเองบาร์เซโลน่าชุดดังกล่าว มีผู้เล่นแนวรุกระดับชั้นอ๋องอยู่ในทีมหลายคน โดยเฉพาะกับตัวชูโรงที่มี โรนัลดินโญ่ ดาวเตะอันดับ 1 ของโลก ณ เวลานั้น แถมยังเป็นเจ้าของเสื้อหมายเลข 10 ของบาร์เซโลน่า เพิ่งได้รางวัล บัลลงดอร์ 2005 มานอนกอดหมาดๆ คอยทำเกมฝั่งซ้าย ตรงกลางก็มี ซามูเอล เอโต้ ยอดดาวยิงหมายเลข 9 ชาวแคเมอรูนที่เพิ่งได้รางวัลดาวยิงสูงสุดลาลีกา 2005-06 มาครอง และฝั่งขวาก็มี ลูโดวิช ลูลี่ ปีกชาวฝรั่งเศสที่มีเทคนิคการเล่นดีประจำการอยู่ส่วนในรายของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่อยู่ในช่วงที่เป็นดาวรุ่ง ได้รับบาดเจ็บมาจากเกมการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับเชลซีไปแล้ว ไม่สามารถลงเล่นในเกมนัดชิงชนะเลิศได้แต่ว่าสิ่งที่เราจะโฟกัสก็คือ นักเตะที่ลงมาช่วยพลิกเกมให้กับ บาร์เซโลน่า ที่มีนามว่า เฮนริค ลาร์สสัน นั่นเอง !ดาวยิงทีมชาติสวีเดน ในอดีตเคยเป็นสุดยอดดาวซัลโวของทีม กลาสโกว เซลติก และยังเป็นคีย์แมนคนสำคัญของทีมชาติสวีเดนอีกด้วย เขาไม่ใช่กองหน้าเห็นแก่ตัว แต่เขาพร้อมที่จะทำให้เพื่อนร่วมทีมเล่นง่ายไปกับจังหวะการเล่นเกมรุกอันเนียนตาของเขาในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก มันคือเกมนัดสุดท้ายของ ลาร์สสัน ในสีเสื้อของบาร์เซโลน่า โดยเขากำลังจะกลับไปเล่นให้กับทีม เฮลซิ่งบอร์ก ในลีกบ้านเกิดแล้ว แต่ก็ยังไม่วายทิ้งตำนานของเขาไว้ที่บาร์เซโลน่าเช่นกัน !

ยิงไม่ได้ แอสซิสต์ก็ได้วะ !

ยิงไม่ได้ แอสซิสต์ก็ได้วะ !

อย่างที่เราบอกไป ลาร์สสัน เป็นกองหน้าในสไตล์ที่ดาวยิงรายอื่นๆอยากลงเล่นด้วย เพราะเขาทำงานหนัก พร้อมเปิดทางให้กับดาวยิงคนอื่นได้ลั่นสกอร์แทนเขาเสมอถ้าหากว่ามีโอกาส และเขาเองก็แสดงความใจกว้างให้เห็นในบอลถ้วย UCL นัดชิงชนะเลิศของบาร์เซโลน่าอีกด้วยในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาล 2005-06 บาร์เซโลน่า ได้เข้ามาชิงชัยกับ อาร์เซนอล ตัวแทนจากอังกฤษ ซึ่งบาร์ซ่าทำท่าว่าจะได้เปรียบตั้งแต่ต้นเกม เมื่ออาร์เซนอลเหลือนักเตะแค่ 10 คนในสนามจากจังหวะที่ เยนส์ เลห์มันน์ ไปรวบขาของ เอโต้ ที่หลุดเข้าไปในเขตโทษ เลยทำให้นายด่านเลือดเบียร์โดนใบแดงทันที !แต่กระนั้นอาร์เซนอล กลับเป็นฝ่ายทำประตูได้ก่อน จากจังหวะที่ เธียร์รี่ อองรี เปิดฟรีคิกให้กับ โซล แคมป์เบล โหม่งพังประตูนำได้ก่อนแต่แล้วในช่วงครึ่งหลัง บาร์ซ่า ที่เกมนี้ยังซ่าไม่ออก โรนัลดินโญ่ ก็ยังเล่นไม่ออก มันเลยทำให้ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด ตัดสินใจส่งไพ่ตายนามว่า เฮนริค ลาร์สสัน ลงสนามทันทีและในบทบาทตัวเดินเกมรุก ลาร์สสัน เป็นคนใส่พานทองลูกแรกให้กับ เอโต้ ยิงประตูผ่านมือ มานูเอล อัลมูเนีย มือกาวอาร์เซนอลที่ลงเล่นแทนเลห์มันน์เข้าไปได้แบบคมกริบ โมเมนตัม

เฮนริค ลาร์สสัน , บาร์เซโลน่า , ลาลีกา

เฮนริค ลาร์สสัน , บาร์เซโลน่า , ลาลีกา

ความได้เปรียบ กลับสู่ฝั่งบาร์ซ่าทันที !และมันไม่จบแค่นั้น ก่อนหมดเวลาราวๆ 10 นาที บาร์เซโลน่าก็ได้ประตูชัยที่รอคอยเสียที เมื่อลาร์สสัน จ่ายบอลคิลเลอร์พาสให้กับตัวของ ชูเลียโน เบเล็ตติ แบ็กขวาเลือดแซมบ้าที่เติมเกมขึ้นมา จัดการยิงลอดขาอัลมูเนียเข้าประตูไปอย่างเด็ดขาดเป็นสกอร์ 2-1ในวันที่ โรนัลดินโญ่ เล่นไม่ออก ก็ยังมีตัวของ ลาร์สสัน ทำดับเบิ้ลแอสซิสต์ช่วยพลิกเกมให้บาร์ซ่าได้สำเร็จ แล้วแบบนี้ใครจะกล้าลืมตำนานของกองหน้าเลือดไวกิ้งรายนี้กันล่ะและในบทบาทตัวเดินเกมรุก ลาร์สสัน เป็นคนใส่พานทองลูกแรกให้กับ เอโต้ ยิงประตูผ่านมือ มานูเอล อัลมูเนีย มือกาวอาร์เซนอลที่ลงเล่นแทนเลห์มันน์เข้าไปได้แบบคมกริบ โมเมนตัมความได้เปรียบ กลับสู่ฝั่งบาร์ซ่าทันที ! และมันไม่จบแค่นั้น ก่อนหมดเวลาราวๆ 10 นาที บาร์เซโลน่าก็ได้ประตูชัยที่รอคอยเสียที เมื่อลาร์สสัน จ่ายบอลคิลเลอร์พาสให้กับตัวของ ชูเลียโน เบเล็ตติ แบ็กขวาเลือดแซมบ้าที่เติมเกมขึ้นมา จัดการยิงลอดขาอัลมูเนียเข้าประตูไปอย่างเด็ดขาดเป็นสกอร์ 2-1ในวันที่ โรนัลดินโญ่ เล่นไม่ออก ก็ยังมีตัวของ ลาร์สสัน ทำดับเบิ้ลแอสซิสต์ช่วยพลิกเกมให้บาร์ซ่าได้สำเร็จ แล้วแบบนี้ใครจะกล้าลืมตำนานของกองหน้าเลือดไวกิ้งรายนี้กันล่ะ