1. อีริคเซ่น มีโอกาสได้ลงสนาม เปิดตัวเป็นนักเตะระดับทีมชาติเดนมาร์กชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2010 โดยเขาได้ลงเจิมในเกมกับทีม ออสเตรียจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน เขาก็ได้รับการใส่ชื่อให้อยู่ในทีมชาติเดนมาร์กทั้ง 23 คน ซึ่งเดนมาร์กได้ไปเล่นในรอบสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ โดยเขาเป็นกองกลางที่มีอายุน้อยที่สุดในการแข่งขัน โดยเขาได้ลงเล่นกับเนเธอร์แลนด์และญี่ปุ่นในรอบแบ่งกลุ่ม2. อีริคเซ่น เป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเดนมาร์ก 3 สมัยติดต่อกัน (2013, 2014, 2015) และตอนนี้ดาวเตะของ อินเตอร์ มิลาน ก็ได้ไปครองเป็นสมัยที่ 4 แล้ว หลังจากได้รับรางวัลอันทรงเกียรติเป็นครั้งที่ 4 ในปี 2017 เป็นครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นช่วงที่เขาโชว์ฟอร์มได้สดสุดๆกับ สเปอร์ส3. อีริคเซ่น ถือว่า เจ้าของสถิตินักเตะเดนมาร์กที่ยิงประตูได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งสถิติของเขาดีกว่า นิคลาส เบนท์เนอร์ กองหน้ารุ่นพี่ที่ค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกมานานกว่าเขาด้วยซ้ำ4. ไม่ใช่แค่คริสเตียน อีริคเซ่น เท่านั้นที่เป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่ว่าในครอบครัวของอีริคเซ่นก็มีคนที่ไปเล่นบอลอาชีพเหมือนกับเขาด้วยเช่นกัน โดย “ลูซี่” น้องสาวของเขาก็เป็นผู้เล่นอาชีพด้วยเช่นกัน!เธอได้รับการเรียกตัวไปเล่นให้กับทีมชาติหญิงของเดนมาร์กในเดือนมีนาคม 2017 เพื่อเผชิญหน้ากับทีมชาติหญิงฟินแลนด์ในเดือนเมษายนด้วยเช่นกัน5. ไอด้อลของ อีริคเซ่น ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน โดยเป็นตัวของ ไมเคิล เลาดรู๊ป ยอดตำนานเพลย์เมกเกอร์กัปตันทีม เดนมาร์ก ที่ซึ่งว่ากันว่าเป็นนักเตะที่ อีริคเซ่น ก็อปปี้สไตล์การเล่นมาเป็นของตัวเอง
6. ในสมัยที่นักเตะจอมทัพรายนี้ยังเล่นให้กับ สเปอร์ส เขาเป็นตัวหลักของทีมชาติเดนมาร์กในฐานะกัปตันทีมชาติ และเป็นเจ้าของเสื้อหมายเลข 10 ของทีมชาติเดนมาร์กด้วย และเขายังมีสถิติในการทำแอสซิสต์หลายต่อหลายครั้ง โดยทำได้ 67 แอสซิสต์ในการลงเล่นให้กับ สเปอร์ส และยิงได้ 51 ประตูในพรีเมียร์ลีกจากช่วงเวลา 6 ปีครึ่งที่อยู่กับ สเปอร์ส แถมยังเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกด้วย7. ในสมัยที่ย้ายมาเล่นให้กับอินเตอร์ มิลาน ใหม่ๆนั้น เขาเองก็ใช่ว่าจะเป็นที่ชื่นชอบของ อันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนซะเท่าไหร่นัก และการที่เขาเล่นเป็นเพลย์เมกเกอร์ที่คอยปั้นเกมหลังกองหน้าตัวเป้ามาตลอด มันเป็นตำแหน่งที่ คอนเต้ ไม่เคยคิดที่จะใส่ลงไปในแผนการเล่นของเขาแต่จากการที่คอนเต้ลองเปิดใจและใช้งาน อีริคเซ่น ลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวโฮลดิ้งที่คอยวางบอลทำเกมจากแนวลึก คอยช่วยเชื่อมเกมให้กับเพื่อน มันเลยทำให้เขาแจ้งเกิดอย่างสวยงามในฐานะจอมทัพตัวต่ำของอินเตอร์8. ในชีวิตนี้ อีริคเซ่น เคยมีโอกาสคว้าแชมป์ “ลีก” เพียงครั้งเดียวเท่านั้น นั่นคือการคว้าแชมป์ลีกฮอลแลนด์ หรือ อิรดิวิชีส์ ก่อนที่เขาจะย้ายมาเล่นให้กับ สเปอร์ส ในปี 2013 แต่ว่าตลอดระยะเวลา 6 ปีครึ่งที่อยู่กับทีมสเปอร์ส เขาไม่เคยคว้าแชมป์รายการไหนร่วมกับสโมสรได้เลย ยกเว้นได้แค่รองแชมป์พรีเมียร์ลีก 2015-16 และได้รองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018-199. ในเวลานี้ทางตัวของ อีริคเซ่น กำลังจะได้แชมป์รายการที่ 2 ของตัวเองแล้วนั่นคือ แชมป์เซเรียอา หลังจากที่อินเตอร์ของเขา รั้งตำแหน่งจ่าฝูงของเซเรียอาแบบนำเดี่ยว และคาดว่าถ้าหากอีก 6 นัด อินเตอร์ไม่พลาด พวกเขาก็น่าจะได้แชมป์เซเรียอามาครองในรอบ 12 ปีเลยทีเดียว10. ปกตินั้นนักเตะมักจะมีเท้าถนัดข้างใดข้างหนึ่ง แต่ตัวของอีริคเซ่น มีสิ่งหนึ่งที่คล้ายคลึงกับ ไมเคิล เลาดรู๊ป ไอด้อลของเขา นั่นก็คือ อีริคเซ่น เป็นนักเตะที่ใช้เท้าสองข้างได้ดีพอกัน ทำให้เขาถูกยกย่องในฐานะนักเตะถนัดสองเท้าเลยทีเดียว
