คัลลัม ฮัตสัน โอดอย เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งแฟนๆของ เชลซี คงได้เห็นและเชยชมกันไปบ้างแล้วซึ่งผลงานที่ออกมาถือว่าเจ้าหนูชาวอังกฤษคนนี้สอบผ่าน แต่ผู้จัดการทีมอย่าง เมาริซิโอ ซาร์รี่ กลับให้โอกาสดาวรุ่งฝีเท้าดีคนนี้น้อยเกินไป เจ้าของแชมป์โลกชุดยู 17 ปีชาวอังกฤษ ยังคงไม่ได้รับโอกาสเท่าที่ควรในการลงเล่นเกมลีก แม้ โอดอย จะแสดงศักยภาพในบอลถ้วยให้เห็นแล้วก็ตาม จนทำให้นักเตะเริ่มไม่พอใจโดยเมื่อตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาวที่ผ่านมา โอดอย ได้รับความสนใจจาก บาเยิร์น มิวนิค แต่ เชลซี ได้ปฏิเสธเงินก้อนโตกว่า 35 ล้านปอนด์สำหรับดาวรุ่งคนนี้ จำนวนเงินที่ยอดทีมเมืองเบียร์เสนอมานั้นมันแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของดาวรุ่งคนนี้ และนั้นก็เป็นเหตุผลว่าทำไม ซาร์รี่ ต้องส่ง โอดอย ลงเป็นตัวจริงบ้างเสียที
4 เหตุผลที่ โอดอย ควรได้เป็นตัวจริง
1.อนาคตที่ไม่แน่นอนของ อาซาร์ และการสูญเสียสุดยอดดาวรุ่ง
เชลซี ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นฝีเท้าดี แต่ โอดอย ทำได้เพียงนั่งตัวอุ่นๆอยู่บนม้านั่งสำรองแทบทุกๆสัปดาห์ ในขณะที่ บาเยิร์น มิวนิค ก็กำลังเฝ้าจับตาสถารการณ์ของ โอดอย อย่างใกล้ชิด และบวกกับปัญหาภายในทีม เชลซี ที่กำลังประสบกันอีกด้วย และสิ่งสำคัญที่สุดอีกอย่างก็คือสัญญาของ โอดอย จะหมดลงในฤดูร้อนปี 2020 มันหมายความว่าถ้า เชลซี ไม่ทำอะไรสักอย่าง เชลซี จะเสียดาวรุ่งอังกฤษคนนี้ไปแบบไม่ได้เงินสักเพนนีเดียวเลย ดังนั้น เชลซี จะถูกสถานการณ์บังคับขาย โอดอย ออกไป ถ้าไม่อยากเสียฟรี แต่ประเด็นคือ เชลซี จะยื่นข้อเสนอ และข้อตกลงยังไงเกี่ยวกับอนาคตของ โอดอย ถ้าอยากจะให้ โอดอย เซ็นสัญญากับ เชลซี ต่อ และดูเหมือนว่าในฤดูกาลถัดไป เชลซี อาจจะต้องใช้งาน โอดอย เพราะดูเหมือนว่าอนาคตของ อาซาร์ จะไม่แน่นอนเสียแล้วเพราะ เรอัล มาดริด ต้องการตัวแทน โรนัลโด้ และดูเหมือนว่าทั้ง เปรโดร และ วิลเลี่ยน ก็ไม่ได้อยู่ในช่วงฟอร์มที่ดีและด้วยอายุหลัก 30 อีก โอกาสของ โอดอย ก็ค่อยๆขยับเข้ามาเช่นกัน และแน่นอนว่าการมาของ คริสเตียน พูลิซิซ ในฤดูกาลหน้า เชลซี ก็คงอยากเก็บดาวรุ่งคนนี้ไว้อยู่ต่อในฤดูกาลหน้าอีกเช่นกัน เพราะศักยภาพของ โอดอย นั้นเขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีความทะเยอทะยาน และมีความปราถนาที่อยากจะออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงมากๆ และดูเหมือนว่า เชลซี ต่างหากที่ต้องการ โอดอย มากกว่าที่ โอดอย จะต้องการ เชลซี และวิธีเดียวที่จะทำให้เด็กหนุ่มคนนี้เปลี่ยนใจได้นั้นก็คือการได้สตาร์ทเป็นตัวจริงเสียที
2.เมื่อได้ลงเล่น โอดอย มักจะโชว์ฟอร์มได้ดีเสมอ
โอดอย ได้ลงเล่นในเกมลีกไปเพียง 5 นัด หรือเพียง 103 นาทีเท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้ว ซาร์รี่ มักจะให้ โอดอย ลงเล่นในถ้วยยูโรป้า และบอลถ้วยในประเทศ แต่เมื่อ โอดอย ได้ลงเล่น โอดอย มักจะทำได้เยี่ยมเสมอ ใน 324 นาที ในรายการยูโรป้า โอดอย ยิงไป 3 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ นั้นแสดงให้เห็นว่า โอดอย มีส่วนกับทุกการเข้าทำทุก 81 นาที นอกจากนี้ โอดอย ยังได้รับตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์จากสื่อชื่อดังแห่งหนึ่งด้วย จากเกมที่ เชลซี พบ พีเอโอเค เอเธนส์ และอีกเกมที่พบกับ มัลโม่ และได้เรทติ้งเฉลี่ยถึง 7.63 และสถิติอื่นในยูโรป้าก็น่าสนใจอีกเช่นกันโดยอัตราการเลี้ยงบอลหลบคู่ต่อสู้สำเร็จถึง 26 ครั้ง อัตราการผ่านบอลสำเร็จ 89.4% ,13 คีย์พาส และเพียง 4 การจับบอลไม่สำเร็จใน 7 เกมของ โอดอย จากฟอร์มและตัวเลขที่โดดเด่น โดย ซาร์รี่ ให้สัมภาษณ์ถึง โอดอย ว่า “มันอันตราย เราไม่อยากสร้างแรงกดดันมากเกินไปให้กับเขา เพราะเขาอายุเพียง 18 ปี” แต่จากตัวเลขและสถิติบ่งบอกว่า โอดอย สามารถรับมือในสิ่งที่แฟนๆคาดหวังได้ พูดง่ายๆ ซาร์รี่ จำเป็นต้องใช้ โอดอย และมาดูกันว่า โอดอย จะสามารถพิสูจน์ว่า ซาร์รี่ คิดผิด
3.วิลเลี่ยน และ เปรโดร ต้องถูกกดดันบ้าง
มันกลายเป็นของตายไปแล้วสำหรับ วิลเลี่ยน และ เปรโดร ที่ได้ลงเล่นมาตลอดในปี 2018/19 ทั้งสองคนทำได้เพียง 11 ประตู และอีก 6 แอสซิสต์ สำหรับบอลลีก ทั้งคู่นั้นต่างทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังมากๆโดยเฉพาะสำหรับแฟนๆ เชลซี ส่วนหนึ่งของปัญหาก็คือภายใต้การคุมทีมของ ซาร์รี่ นั้นดูเหมือนว่า ไม่ว่าฟอร์มของทั้งคู่จะแย่แค่ไหน แต่ทั้งสองคนมักจะได้ลงเล่นเสมอมาเช่นเดียวกับ ดาวิด ลุยส์ จอร์จิญโญ่ และมา กอส อลอนโซ่ นี่คือนักเตะที่การันตี 11 ตัวจริงไม่ว่าฟอร์มของพวกเขาจะน่าผิดหวังสักแค่ไหนก็ตาม หาก ซาร์รี่ เริ่มใช้ โอดอย ลงเล่น 11 ตัวจริงแทน เปรโดร และ วิลเลี่ยน ในเกมพรีเมียร์ลีก มันส่งผลดีกับ โอดอย และจะส่งผลดีต่อทั้ง เปรโดร และ วิลเลี่ยน ด้วยเช่นกัน เพราะมันจะแสดงให้เห็นว่าไม่มีอะไรการันตีในตำแหน่งตัวจริงของทั้งคู่อีกแล้ว ถ้ายังเล่นในฟอร์มแบบนี้อยู่ ฉะนั้นนักเตะรุ่นพี่ทั้งสองต้องงัดฟอร์มที่ดีและต่อเนื่องออกมาให้ได้ ฉะนั้น เชลซี ควรหยุดส่งสามผู้เล่นแนวรุกชื่อเดิมลง เพราะจากฟอร์มที่น่าผิดหวัง มันถึงเวลาแล้วที่ โอดอย ควรจะได้รับโอกาสเสียที
4.มันจะเป็นสัญญาณเตือนไปยังผู้เล่นดาวรุ่งคนอื่นๆ
แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะผลักดันดาวรุ่งให้ลงเล่นในเกมลีก ในขณะที่สถานการณ์ของทีมแลจะไม่สู้ดีนัก แต่นอกจาก โอดอย แล้ว เชลซี ยังมีดาวรุ่งฝีเท้าดีอยู่อีกมากกมายเช่นกัน เช่น อีธาน แอมปาดู , เมสัน เมาท์,แทมมี่ อับบราฮัม, รีช เจมส์ และเทร์โบร์ คาโรบาห์ ดาวรุ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลผลิตของ เชลซี ทั้งนั้น แต่มันก็เหมือนหนังม้วนเดิม โอดอย ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อโอกาสในการลงเล่นเกมลีกอย่างมาก และในขณะเดียวกันถ้า โอดอย กลับไม่ได้รับโอกาสนั้นเท่าที่ควร โอดอย ก็คงต้องออกจากแสตมป์ ฟอร์ตบริดจ์ เพื่อย้ายไปทีมอื่นเพื่อโอกาสในการลงเล่นที่มากขึ้นเหมือนรุ่นพี่อย่าง เควิน เดอบรอยน์,โรเมรู ลูกากู และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นี้คือพูดเล่นยอดเยี่ยมที่ เชลซี เสียไป ปัญหานี้อาจจะจบลงถ้า เชลซี ให้โอกาส โอดอย ออกสตาร์ทตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ และ โอดอย จะเป็นนักเตะดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ของ เชลซี คนแรกในรอบเกือบสองทศวรรษที่ได้ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่แบบเต็มตัว และแน่นอนว่าไม่มีอะไรรับประกันว่า โอดอย จะเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ได้แบบ จอห์น เทอร์รี่ แต่ โอดอย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพแล้วว่าเขาสามารถทำมันได้อย่างแน่นอน และแน่นอนว่า ซาร์รี่ ควรเลือกเกมลีกที่ไม่ยากจนเกินไป และส่ง โอดอย ลงเป็น 11 ตัวจริงเสียที เพราะ เชลซี ก็คงไม่อยากจะเสี่ยงและเสีย โอดอย ไป แบบในกรณี ซาลาห์ และ เดอ บรอยน์ อีกเช่นกัน
