โรเมลู ลูกากู กับช่วงเวลาพิสูจน์ตัวเองรอบ 2 กับเชลซี !

โรเมลู ลูกากู กับช่วงเวลาพิสูจน์ตัวเองรอบ 2 กับเชลซี !

ฟิตขึ้น … ผอมเพรียวลง เล่นบอลฉลาดขึ้น ! โรเมลู ลูกากู ในเวอร์ชั่นอัพเกรดฝีเท้า ได้กลับมาที่เชลซี – ​​และอังกฤษอีกครั้งแล้ว ! ว่ากันว่านี่คือผู้เล่นใหม่ แต่หน้าเก่าที่มีอะไรหลายอย่างดีกว่าเดิม ดีกว่าตอนที่เขาจากอังกฤษไปด้วยซ้ำแต่การอัพเกรดตัวเองของลูกากู มันจะเพียงพอหรือไม่ที่จะทำให้เหล่านักวิจารณ์ที่จ้องเล่นแง่กับเขามาตลอด กล้าที่จะเดใจและเอ่ยปากชมกองหน้ารายนี้ ที่เคยย้ายออกจากประเทศอังกฤษไปเมื่อสองปีก่อน…?ตอนนี้ด้วยวัย 28 ปี ตอนนี้เขาเป็นแชมป์ลีกอิตาลีมาแล้ว 1 สมัย และตัวของ ลูกากู ก็ได้กลับมายังเชลซีอีกครั้งแล้ว ว่ากันว่าการย้ายกลับมาที่นี่ ไม่ใช่เพราะเรื่องเงินอย่างที่ทุกคนทราบ ลูกากู เป็นนักเตะที่มีแพสชั่นต่อเกมสูง เรื่องเงินไม่ใช่เพื่อสิ่งที่เขาสนใจ แต่สำหรับสิ่งที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้ เขาก็แค่ต้องการกลับมาแก้มือกับทีมนี้ และไม่ใช่แค่ โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมคนใหม่ของเขาเท่านั้นที่ต้องการเขา แต่เป็นตัวของ โรมัน อับราโมวิช ก็ต้องการเขาเช่นกัน ซึ่งเจ้าของเชลซีได้ทำทุกวิถีทาง เพื่อหวังนำลูกากูกลับมาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ในช่วงซัมเมอร์นี้ แม้กระทั่งการส่ง อาร์คาดีย์ ลูกชายของเขาที่เป็นรองประธาน ให้เดินทางไปที่เมืองมิลานเพื่อช่วยในการเจรจาครั้งนี้ด้วยกล่าวกันว่านี่คือการเสริมทัพที่ตรงจุดที่สุดของเชลซีแล้วในฤดูกาลนี้ หรืออาจจะตรงจุดมากกว่าในทุกๆซีซั่นที่ผ่านมาด้วยซ้ำ !

การกลับบ้านเก่าที่แสนคุ้มค่า !

การกลับบ้านเก่าที่แสนคุ้มค่า !

วันแล้ววันเล่าที่มีนักข่าวเข้ามาขอสัมภาษณ์กับ ลูกากู แม้แต่ตอนฝึกซ้อมแบบเปิดก็ยังมีการจัดพื้นที่ให้นักข่าวเข้ามาสัมภาษณ์กับกองหน้าหมายเลข 9 คนใหม่ของทีมด้วยในวันเปิดตัว ลูกากู ต่อหน้าแฟนบอลของทีมเชลซีนั้น ถือได้ว่าเป็นวันที่ชื่นมื่น กับการที่เขาได้กลับ “บ้าน” อีกครั้ง สโมสรมีความพยายามอย่างมากที่จะนำตัว ลูกากู มาเป็นปืนใหญ่ในแดนหน้าและเป็นศูนย์กลางเกมรุกของสโมสรในซีซั่นนี้ แน่นอน แฟนบอลเองก็ย่อมต้องการเห็นผลลัพธ์จากเท้าซ้ายและลูกโหม่งของสไตรเกอร์รายนี้ทันทีอยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่าเขาเองก็จากอังกฤษไปพักหนึ่ง ต้องให้เวลาเขาในการปรับจูนตัวเองเช่นกัน

จากปากน้ามู ...

จากปากน้ามู …

โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตผู้จัดการทีมเชลซี ซึ่งปัจจุบันคุมทีมโรม่า ได้แจงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการใช้งาน ลูกากู ทั้งคู่เคยทำงานร่วมกันที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยมูรินโญ่นั้นเคยขัดขวางการย้ายทีมของ ลูกากู ในสมัยที่อยู่กับเอฟเวอร์ตัน เพื่อไม่ให้เขากลับไปยังเชลซี โดยในขณะนั้นมูรินโญ่ได้พยายามโน้มน้าวให้เขาเลือกย้ายมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดแทน“ผมเชื่อว่าเขาได้รับสิ่งดีมากมายจากที่ อินเตอร์ มันตรงตามที่เขาต้องการ” มูรินโญ่ ที่ซึ่งได้เห็น ลูกากู ประสบความสำเร็จอย่างสูงตลอดเวลาสองปีกับอินเตอร์ มิลาน ได้กล่าวกับสื่อเขาต้องรู้สึกได้แน่นอนว่าเขาคือลูกผู้ชายคนหนึ่ง , มั่นใจว่าเขาคือที่หนึ่ง, เขาได้รับความรักจากโค้ช, จากกองเชียร์ สื่อมวลชนก็สนับสนุนเขา สโมสรก็ด้วย เขาได้ความรักนั้นมาทั้งหมดแล้วการกลับมาเชลซีอาจจะชื่นมื่น แต่แน่นอนว่าทุกคนย่อมจำกันได้ ว่า ลูกากู นั้นไม่ได้รับ “ความรัก” อย่างที่มูรินโญ่เคยกล่าวไว้อย่างแน่นอน ถ้าพูดถึงในฐานะนักเตะของยูไนเต็ดช่วงเวลาของเขาที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ลูกากูถูกยัดให้เป็น “แพะรับบาป” สำหรับปัญหาของทีมในทุกครั้ง ใช่ … เขาไม่ได้เล่นบอลได้แบบไร้ที่ติ แต่คำวิพากษ์วิจารณ์บางอย่างนั้น มันทำให้เขารู้สึกตกต่ำได้เหมือนกัน เมื่อใดที่ทีมแพ้ คนแรกๆที่จะโดนด่ายับเยินจากทั้งนักวิจารณ์และแฟนบอลก็หนีไม่พ้นหัวหอกทีมชาติเบลเยี่ยมในคราวที่ได้รับฉายาว่า “ตู้เย็น” นั่นเองแหละ มูรินโญ่ ยังได้พูดอีกว่า “โรเมลูเป็นคนประเภทที่สั่งได้ดั่งใจนะ เขายิงประตูได้มากมายในอังกฤษ แต่ผู้คนมักจะบอกว่าเขาไม่เหมาะกับโปรไฟล์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บางคนตัดสินเขาเพียงแค่ในบางเกมที่เขาทำประตูไม่ได้ บางคนก็มองว่าสิ่งที่เขาทำเพื่อทีม มันยังไม่เพียงพอแต่ตอนนี้ มันคงจะถึงเวลาแล้วที่ ลูกากู จะตอกหน้านักวิจารณ์ทั้งหลายว่า ตู้เย็น ในอดีตนั้นก็สามารถ ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำเช่นกัน เขาจะพิสูจน์ตัวเองได้แค่ไหน ก็ต้องรอชม !