ก่อนที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตรียมที่จะเผชิญหน้ากับ เอฟเวอร์ตัน ในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือ “ไก่เดือยทอง” เปิดเผยว่าเขากำลังพยายามหาแท็คติดคใหม่ที่จะนำ สเปอร์ส ก้าวไปข้างหน้า แต่ทำไมเขาถึงไม่เชื่อใจนักเตะใหม่อย่าง ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ กองกลางเฟรนช์แมน, โจวานี่ โล เซลโซ่ มิดฟิลด์อาร์เจนไตน์ และ ไรอัน เซสเซยง ตัวริมเส้นดาวรุ่ง
โปเช็ตติโน่ มีประสบการณ์มากมายในอาชีพโค้ชของเขา เขาได้ต่อสู้กับการหนีตกชั้น และจ่ายค่าอุปกรณ์ต่างๆที่ เอสปันญ่อล ด้วยเงินของตัวเองมาแล้ว โดยนายใหญ่วัย 47 ปี ยังเคย สเปอร์ส เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่นก่อนมาแล้วอีกด้วย
5 เดือนหลังจากศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงฯ และการจบอันดับ 4 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ในฤดูกาลนี้ สเปอร์ส ฟอร์มตกอย่างน่าใจหายจนหล่นไปอยู่อันดับที่ 11 ในตารางคะแนน และเก็บได้เพียง 13 แต้ม จาก 11 เกม หลังเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 1-1 ในนัดล่าสุด
มันเป็นช่วงเวลาการทดสอบสำหรับทุกคนที่สโมสร สเปอร์ส ในห้องโถงของสนามฝึกซ้อม Hotspur Way อันเก่าแก่ของพวกเขา โปเช็ตติโน่ กำลังพิจารณาชะตากรรมด้านหน้าของเขาด้วยความสงบตามปกติของตัวเอง
โค้ชชาวอาร์เจนไตน์ กล่าวกับ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “แน่นอนเรารู้ว่า เรามีหน้าที่รับผิดชอบในการพลิกสถานการณ์แบบนี้และเปลี่ยนเกมให้เป็นหนึ่งในเกมที่ชนะอีกครั้ง แต่เราไม่กังวล เราสงบสติอารมณ์ และทำงานในความรู้ที่ว่า ในสถานการณ์ฟุตบอลเรื่องประเภทนี้สามารถเกิดขึ้นได้”
“สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเรามักจะเป็นทีมที่ชนะมากกว่าที่เคยแพ้ ซึ่งเราเล่นในฟอร์มที่ดีอยู่เสมอกับบรรดาสโมสรระดับท็อป แม้ว่าจะมีวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน และเหนือสิ่งอื่นใดการเข้าถึงศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงฯได้เปลี่ยนรูปแบบของสโมสร ผู้คนต้องการให้เราอยู่ในระดับนั้นอีกครั้ง และเราเข้าใจสิ่งนั้นแป็นอย่างดี”
โปเช็ตติโน่ ได้ตั้งความคาดหวังสูงเหล่านี้สำหรับตัวเขาเอง เขาได้เปลี่ยนแปลง สเปอร์ส นับตั้งแต่เขามาถึงที่นี่ในปี 2014 แต่เมื่อเร็วๆนี้สถานการณ์ไม่ง่ายหลังจากไปเล่นในศึก แชมเปียนส์ ลีก รอบชิงฯ และตามมาด้วยฤดูร้อนที่น่าอึดอัดใจ ซึ่งทิ้งเขาไว้กับสิ่งที่เขาอธิบายว่า เป็นทีมที่ไม่มั่นคง
“ด้วยทีมที่เล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นทีมที่ผู้เล่น 90% ต้องไปเล่นให้กับทีมชาติของพวกเขา มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องจำไว้ว่า พรีซีซั่นมีความสำคัญอย่างไร มันเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เล่นจะมาถึงในช่วงพรีซีซั่นเพื่อที่เราจะได้ทำงานร่วมกันและสร้างพลังในเชิงบวก”
“มันเป็นสิ่งที่เราต้องเจอในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ และสถานการณ์ส่วนบุคคลของผู้เล่นบางคนเกี่ยวกับการย้ายทีม เราไม่ได้มีเสถียรภาพมากพอ และเราเริ่มทำงานช้าในการพยายามค้นหาพลังเชิงบวกนั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิธีการเล่นของผู้เล่นในสนาม” อดีตกุนซือ เอสปันญ่อล กล่าว
สำหรับผู้จัดการทีมที่กระตือรือร้นในการได้รับรางวัลร่วมกันเหนือสิ่งอื่นใด และเชื่อในสิ่งที่เขาเรียกว่าพลังเชิงบวกนั้น มีความคิดที่ว่าทุกอย่างเชื่อมโยงกัน มันก็ยังห่างไกลจากอุดมคติที่เขาต้องการ แต่ก็ยังพอมีสัญญาณของความคืบหน้าที่ดีเมื่อเร็วๆนี้
ย้อนกลับไปในเกมที่ สเปอร์ส บุกไปพ่าย ลิเวอร์พูล 1-2 ที่สนามแอนฟิลด์ ในเกมลีกเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น พวกเขาเริ่มเกมได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการยิงประตูขึ้นนำ “หงส์แดง” ไปก่อน แต่ไม่สามารถรักษาสกอร์เอาไว้ได้ นั่นทำให้ โปเช็ตติโน่ กำลังพยายามหาแท็คติคที่ลงตัวอีกครั้ง
จากข้อมูลของ Opta นั้น ระบุว่า โปเช็ตติโน่ ใช้แผนการเล่นที่แตกต่างกันถึง 6 รูปแบบในเกมพรีเมียร์ลีกถึง 10 เกม ซึ่งน้อยกว่า วัตฟอร์ด เพียงทีมเดียวเท่านั้น ซึ่งทั้ง 2 ทีม เปลี่ยนใช้ผู้เล่นเป็นจำนวนมากในแต่ละเกมที่ผ่านมา
โปเช็ตติโน่ กล่าวว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การลองทำสิ่งที่แตกต่างกันเพื่อค้นหาการเชื่อมโยงต่อกันที่ถูกต้อง และค้นหาเคมีที่เราต้องการ เพื่อช่วยให้เราค้นพบความแข็งแกร่ง และความยอดเยี่ยมในเกมของเราอีกครั้ง”
“มันเป็นการค้นหาที่ไม่หยุดหย่อนเมื่อสิ่งต่างๆเป็นไปด้วยดี มันเป็นการค้นหาที่จะรักษาความสม่ำเสมอเอาไว้ ซึ่งเป็นเรื่องยากเช่นกัน แต่เมื่อสิ่งต่างๆไม่ดี และผลลัพธ์ไม่ดี มันจึงเป็นคำถามของการค้นหาสูตรการเล่นต่างๆที่ให้ความสมดุลกับทีม และช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่คุณต้องการ”
“ผมมีความสุขกับทีมนี้ และผมมีความสุขกับผู้เล่นของผม แต่สิ่งที่เราพยายามทำในตอนนี้คือ การค้นหาแนวทางร่วมกันที่ถูกต้อง ดังนั้นเราจึงต้องโชว์ฟอร์มที่แข็งแกร่งพอที่จะเริ่มเก็บคะแนนมากขึ้น และเริ่มได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง” นายใหญ่ “ไก่เดือยทอง” กล่าว
การค้นหาสูตรใหม่ได้รับผลกระทบจากโปรไฟล์ของทีมรวมถึงบุคลากรต่างๆ สเปอร์ส เป็นทีมที่อายุน้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลที่ 3 ของ โปเช็ตติโน่ ซึ่งมีผลอย่างมากในรูปแบบการเล่นที่พวกเขาไล่ล่าคู่แข่ง แต่ผู้เล่นหลักบางคนอายุมากขึ้น และอายุเฉลี่ยของผู้เล่นตัวจริงก็เริ่มเพิ่มขึ้น
การที่นักเตะหลายคนอายุมากขึ้น มันไม่เอื้อต่อรูปแบบการเล่นที่ สเปอร์ส เคยทำมา อย่างไรก็ตาม โปเช็ตติโน่ ไม่มีการร้องขอความเห็นใจจากคนอื่นๆ เพราะเขารู้ว่าความรับผิดชอบอยู่ที่เขาเพื่อหาวิธีใหม่ในการทำงาน
“คุณต้องพยายามทำให้ดีที่สุด ผมเชื่อว่าความรับผิดชอบของเราคือการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่เรามี มันเป็นความจริงเรายังคงค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการทำผลงานได้ดี และได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่านี้ แต่เราหวังว่า ช่วงเวลานี้จะสั้นสุด และทีมจะเริ่มปฏิบัติในเร็วๆนี้ ตามที่เราเชื่อ” โปเช็ตติโน่ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สเปอร์ส มีอายุเฉลี่ยของนักเตะน้อยลง หลังจากที่ เอ็นดอมเบเล่, โล เซลโซ่ และ เซสเซยง ซึ่งอายุเฉลี่ย 21 ปี ย้ายมาร่วมทีมเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวรวมกัน 120 ล้านปอนด์ แต่ โปเช็ตติโน่ คิดว่าผู้เล่นใหม่ไม่ใช่การแก้ปัญหาในทันทีทันใด
โปเช็ตติโน่ อธิบายว่า “มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องไม่รับผิดชอบมากเกินไปกับการเซ็นสัญญาใหม่ พวกเขาย้ายมาเพื่อให้ทีมมีคุณสมบัติบางอย่าง แต่แน่นอน เรายังเข้าใจว่าพวกเขาเป็นผู้เล่นที่ต้องปรับตัว และในกรณีของ เอ็นดอมเบเล่ และ โล เซลโซ่ นั้น มาจากต่างประเทศ มาจากลีกที่แตกต่างกัน มันเป็นมากกว่าเรื่องของประสิทธิภาพที่พวกเขามี”
“มีแรงกดดันมากมายสำหรับพวกเขา แต่มีตัวอย่างมากมายของผู้เล่นอายุน้อยเช่น ซอง ฮึง มิน และคนอื่นๆอีกมากมายที่ต้องการเวลา 1 ฤดูกาล หรือ 1 ฤดูกาลครึ่งเพื่อที่จะโชว์ฟอร์มในระดับที่เราต้องการ ผู้เล่นใหม่ทั้ง 3 คนนี้จะไม่ได้รับการยกเว้น พวกเขาไม่ใช่อย่างนั้น”
ขณะเดียวกัน โปเช็ตติโน่ คุม สเปอร์ส มาเป็นฤดูกาลที่ 6 แล้ว เมื่อถูกถามว่า มันทำให้เขารู้สึกแก่ขึ้นหรือเปล่า โค้ชอาร์เจนไตน์ กล่าวว่า “ในแง่ฟุตบอลมันเป็นเวลานานมากตลอดชีวิต ตอนนี้การเป็นผู้จัดการทีมเป็นเรื่องยากมากขึ้น คุณสามารถทำงานได้ดีมาก แต่ถ้าคุณไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ มันก็ยาก”
ความกดดันสำหรับผลลัพธ์นั้นอยู่ที่ โปเช็ตติโน่ แต่ตอนนี้ เขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก่อนที่ สเปอร์ส และมันก็ไม่มีอะไรเทียบกับปีแรกของเขาที่ เอสปันญ่อล เมื่อเขาได้รับมรดกทีมที่ดูเหมือนจะตกชั้น และสโมสรก็มีความวุ่นวายทางการเงิน
อดีตโค้ช เอสปันญ่อล กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องยาก แต่เรื่องแบบนั้นก็ช่วยผมมากเช่นกัน เมื่อผมยังเด็กเมื่อผมเริ่มต้นอาชีพของตัวเองในการพัฒนาคุณสมบัติของผมเพื่อปรับปรุง และเรียนรู้วิธีที่จะรับมือกับความยากลำบาก ผมคิดว่ามันเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาตัวเองจนถึงตอนนี้ มันเหมือนกับการพัฒนาด้านอาชีพของผมด้วย”
“มันยากกว่าที่จะหันเหความสนใจตัวเองในวันนี้ ใน 11 ปีที่ผ่านมา วงฟุตบอลมีการพัฒนาอย่างมากสภาพการทำงานเป็นที่นิยมมากขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่มากขึ้น เครื่องมือในการวิเคราะห์ และอื่นๆอีกมากมายมันช่วยคุณได้ แต่มันก็ต้องทำงานหนักมากขึ้น และมีเวลากับมันมากขึ้นใน 24 ชั่วโมงต่อวัน คุณไม่สามารถหยุดคิดถึงเรื่องฟุตบอลได้เลย”
มันขึ้นอยู่กับความทุ่มเท และความทุ่มเทที่ โปเช็ตติโน่ กำลังเข้าใกล้ความท้าทายในการค้นหาวิธีการใหม่ๆ สำหรับ สเปอร์ เขาพูดอย่างภาคภูมิใจเกี่ยวกับงานที่เขาทำไปแล้ว และจดจำความสุขอันยิ่งใหญ่ของเกมแรกของเขา ซึ่งเป็นชัยชนะต่อ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในนาทีสุดท้ายในปี 2014
