แยน คูโต้ แบ็คตัวใหม่แห่งทัพ “เรือใบสีฟ้า”

แยน คูโต้ แบ็คตัวใหม่แห่งทัพ เรือใบสีฟ้า

มันอาจฟังดูแปลกๆที่ความมุ่งมั่นในการบุก และเรื่องไหวพริบของแนวรับจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นยุคทองของวงการฟุตบอลบราซิล โดยย้อนกลับไปในปี 1950 พลพรรค “เซเลเซา” ได้ใช้แผงแบ็คโฟร์เป็นหัวใจในการสร้างสรรค์เกมบุก

ในช่วงเวลานั้น บราซิล ใช้กองกลางเป็นตัวควบคุมเกม และคอยประคองแนวรับพร้อมกับปล่อยให้ฟูลแบ็ค 2 ฝั่งเติมเกมรุก และสนุกไปกับพื้นที่แดนคู่แข่งอย่างเต็มที่ ดังนั้นการโจมตีจากผู้เล่นในตำแหน่งฟูลแบ็คจึงเกิดขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

มันเป็นส่วนสำคัญในสไตล์การเล่นของทีมชาติบราซิลนับตั้งแต่ นิลตัน ซานโตส ตำนานแบ็คซ้ายแซมบ้า ซัดประตูที่น่าเหลือเชื่อในศึกฟุตบอลโลกปี 1958 พร้อมกับพาพลพรรค “เซเลเซา” คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จในท้ายที่สุด

เช่นเดียวกันกับในศึกฟุตบอลโลกปี 2002 ทีญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพนั้น บราซิล ก็ใช้ฟูลแบ็ค 2 ฝั่งอย่าง โรแบร์โต้ คาร์ลอส และ คาฟู ทำเกมรุกริมเส้นทำลายแนวรับคู่ต่อสู้อย่างราบราบจนคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ไปครองได้สำเร็จ

จากการรายงาน ผลบอลสด แยน คูโต้ แบ็คขวาดาวรุ่งชาวบราซิล ของ กอริติบ้า ทีมดังในลีกแดนกาแฟ เป็นนักเตะใหม่ที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก คว้าตัวมาร่วมทีมด้วยค่าตัวประมาณ 6 ล้านยูโร และเขาจะย้ายมาเล่นในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม อย่างเป็นทางการในช่วงซัมเมอร์นี้เมื่ออายุครบ 18 ปี

คูโต้ เกิดเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ปี 2002 ซึ่งมันเป็นวันเดียวกับที่ คาฟู กำลังลงทำหน้าที่ในตำแหน่งแบ็คชวาให้กับทีมชาติบราซิล เผชิญหน้ากับ ตุรกี ในรอบรองชนะเลิศในศึกฟุตบอลโลกปีดังกล่าว โดยดาวเตะวัย 17 ปี ได้รับการขาดหมายว่า เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นทายาทของตำแหน่งแบ็คขวาที่ทัพ “เซเลเซา” กำลังขาดหายไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ย้อนกลับไปในปี 2001 ทีมชาติบราซิลชุดอายุต่ำกว่า 20 ปี ได้สร้างสุดยอดแบ็คขวาที่แข็งแกร่งอย่าง ไมค่อน ซึ่งเป็นอดีตดาวเตะ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ชุดทริปเปิ้ลแชมป์ ขึ้นมาประดับวงการฟุตบอล และในเวลาอีก 2 ปี ต่อมาเสื้อหมายเลข 2 ตกเป็นของ ดานี อัลเวส อดีตยอดแบ๊คขวาของ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า และปัจจุบันเขายังคงเป็นกัปตันทัพ “เซเลเซา” อีกด้วย

ในปี 2005 นั้น ราฟินญา เป็นแบ็คขวาดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองอย่างมากหลังจากที่เขาทำผลงานได้สุดยอดกับ “ราชันสีน้ำเงิน” ชาลเก้ อย่างไรก็ตาม เขามีโอกาสติดทีมชาติบราซิลเพียง 4 เกม และค่อยๆถูกลืมไป

ขณะที่ คูโต้ แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในศึกฟุตบอลอายุต่ำกว่า 17 ปี

ขณะที่ คูโต้ แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในศึกฟุตบอลอายุต่ำกว่า 17 ปีชิงแชมป์โลกที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ และคว้าแชมป์ได้สำเร็จเมื่อปีที่แล้ว แต่พลพรรค “เซเลเซา” เกือบจะไปไม่ถึงฝั่งฝันเช่นกันหลังจากดิ้นรนอย่างหนักในการเอาชนะฝรั่งเศสในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ กับ เม็กซิโก

ในเกมกับฝรั่งเศส และ เม็กซิโก นั้น คูโต้ เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้บราซิลได้รับชัยชนะ โดยดาวเตะตัวใหม่ของ แมนฯซิตี้ แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของการเป็นสุดยอดฟูลแบ็คนั่นก็คือ การเล่นเกมรุก, สปีดที่รวดเร็ว, ความฟิตที่วิ่งได้ตลอดทั้งเกม, เทคนิคที่ยอดเยี่ยม, การเปิดบอลที่แม่นยำ และการตัดสินใจอย่างรอบคอบเพื่อเลือกตัวเลือกที่เหมาะสม

ตลอดทัวร์นาเมนต์ คูโต้ ถือเป็นจุดเด่นของบราซิล เพราะในช่วงที่ทีมกำลังตามหลังคู่แข่งนั้น เขามักได้รับหน้าที่ให้เติมขึ้นสูงไปช่วยเกมรุกทางฝั่งขวา ซึ่งมันพิสูจน์ให้แล้วว่า เขามีการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมกับ ฝรั่งเศส และ เม็กซิโก

เป็นที่ชัดเจนว่า คูโต้ จะไม่ใช้เวลานานในการเล่นฟุตบอลในประเทศบราซิล และหลังจากได้รับความสนใจจาก บาร์เซโลนา ตอนนี้เขาได้รับการยืนยันแล้วว่า จะเป็นผู้เล่นของ แมนฯซิตี้ ในช่วงซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอน

เปป กวาร์ดิโอลา ยอดกุนซือของ แมนฯซิตี้ ขึ้นชื่ออย่างมากเรื่องการทำงานร่วมกับแบ็คจอมลุยหลายๆคน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เขาคุม บาร์เซโลนา และได้ทำงานกับ อัลเวส ซึ่งทั้ง 2 คน พาพลพรรค “เจ้าบุญทุ่ม” กวาดแชมป์อย่างนับไม่ถ้วน

อย่างไรก็ตาม คูโต้ อาจต้องใช้เวลาสักพักในการปรับตัวกับ แมนฯซิตี้ เพราะเขาต้องเจอประเทศใหม่, ภาษาใหม่, วัฒนธรรมใหม่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งขึ้นชื่อว่ายากที่สุดในโลก และแพ้จะเพิ่งเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ กอริติบ้า ไปเพียงแค่ 2 เกม แต่เขาก็ทำกำไรให้กับสโมสรอย่างมหาศาล

การย้ายไปยัง แมนซิตี้ ด้วยค่าตัว 6 ล้านยูโร นั้น ทำให้ คูโต้ กลายเป็นผู้เล่นที่มีราคาแพงที่สุดที่ กอริติบ้า เคยขายได้ของสโมสร หลังจากที่พวกเขาเคยขาย ราฟินญา ให้กับ ชาลเก้ ด้วยค่าตัวราว 5 ล้านยูโร ในปี 2005

หนึ่งทศวรรษครึ่งต่อมา ราฟินญา ผู้ซึ่งเคยย้ายจาก กอริติบ้า ไปผจญภัยในยุโรปกับทีมอย่าง ชาลเก้, บาเยิร์น และเจนัว แต่ในเวลานี้ ดาวเตะวัย 34 ปี กลับมาค้าแข้งในบ้านเกิดกับ ฟลาเมงโก้ ในขณะเดียวกันมันเป็นเวลาที่ คูโต้ กำลังจะย้ายออกไปเผชิญโลกกว้างเช่นเดียวกัน

คูโต้ อาจต้องใช้เวลาสักพักในการปรับตัวกับ แมนฯซิตี้