แฟรงค์ แลมพาร์ด … เหยื่ออารมณ์คนล่าสุดของ “เสี่ยหมี”

แฟรงค์ แลมพาร์ด ... เหยื่ออารมณ์คนล่าสุดของ “เสี่ยหมี”

แฟรงค์ แลมพาร์ด ในที่สุดก็ได้กลายเป็น “อดีต” กับสโมสรเชลซีไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เขาพาทีมเชลซีปราชัยถึง 6 เกมจากในการแข่งขัน 8 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก และนั่นก็ทำให้ “เสี่ยหมี” โรมัน อับราโมวิช ไม่พอใจในการทำทีมของอดีตจอมทัพดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรายนี้แม้ว่าจะสามารถพาทีมเก็บชัยชนะในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 4 เหนือทีม ลูตัน ทาวน์ จนเข้ารอบ 5 ไปได้สำเร็จเป็นการส่งท้าย แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ผลงานที่ดีพอที่จะทำให้ อับราโมวิชคิดจะรั้งแลมพาร์ดไว้ และได้มีการสั่งปลดในทันทีเรียกได้ว่าหลังจากที่กลับมาทำงานให้กับทีมอีกครั้งในฐานะโค้ช แลมพาร์ด ก็เจอกับความกดดันแบบสุดๆในการทำงานมากเลยทีเดียว เพราะการทำงานให้กับเชลซี ถ้าทีมไม่ประสบความสำเร็จ มันก็ยากที่ อับราโมวิช จะรั้งตัวโค้ชไว้ และเขาเองก็คงไม่สนใจด้วยเช่นกันว่า แลมพาร์ด จะเคยมีสถานะเป็นตำนานของสโมสรยังไงมา แต่ทีมชุดปัจจุบันนั้นสำคัญที่สุด !ว่าแต่ว่าสาเหตุที่มันทำให้ แลมพาร์ด โดนปลดทั้งๆที่ทำทีมมาได้แค่ 1 ปีครึ่งเท่านั้นมันเพราะอะไร

ประสบการณ์ในลีกสูงสุดที่น้อยเกินไป

แลมพาร์ดนั้นเคยได้แชมป์มากมายกับเชลซีในฐานะนักเตะ เขายิงประตูได้มากจนรั้งตำแหน่งดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสร แต่เมื่อมาจับงานโค้ช งานแรกที่เขาทำก็คือเป็นโค้ชให้กับ “ดาร์บี้ เคาน์ตี้” ที่อยู่ในระดับ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เขาเกือบพาทีม ดาร์บี้ เอาชนะในรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นกลับมาอยู่ในพรีเมียร์ลีกด้วยซ้ำ แต่พลาดท่าในการเล่นนัดสุดท้าย แต่จากนั้นแลมพาร์ดก็ดวงขึ้นสุดๆ เมื่อเขาได้รับโอกาสจากเชลซีในการดึงตัวเขามาทำทีมแทน เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่ลาออกไป การทำทีมเชลซีในปีแรกด้วยประสบการณ์ที่น้อยนิด แถมทีมยังโดนห้ามซื้อนักเตะด้วย มันเลยทำให้ แลมพาร์ด ต้องทนใช้งานนักเตะที่เชลซียังเหลืออยู่ และยังต้องเข็นนักเตะจากอคาเดมี่มาเล่นด้วยอีก ในจุดนี้ อับราโมวิช อาจจะพอเข้าใจและยอมอะลุ่มอะล่วยให้แต่เมื่อเข้าปีที่ 2 ถือว่าแลมพาร์ดประสบการณ์แล้ว ได้เงินสนับสนุนก็มาก แต่กลับกลายเป็นว่าทุกอย่างแย่ยิ่งกว่าปีแรกอีก มันก็ไม่น่าแปลกใจที่กุนซือชั่วโมงบินในลีกสูงสุดน้อยมากอย่าง แลมพาร์ด จะกระเด็น

ทำงานให้เชลซี เสี่ยงอยู่แล้วเพราะประธานสโมสร !

ทำงานให้เชลซี เสี่ยงอยู่แล้วเพราะประธานสโมสร !

โรมัน อับราโมวิช ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าของทีมที่ไม่ค่อยเลี้ยงผู้จัดการทีมเอาไว้นานๆ ถ้าหากว่าผลงานในปีที่ 2 ห่วยแตก ! โดยเขาปลดกุนซือชื่อดังมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเคยพาทีมคว้าแชมป์ให้กับสโมสรมากแค่ไหนหรือโปรไฟล์สูงแค่ไหน และคนหนุ่มมือใหม่สุดๆอย่างแลมพาร์ด ต่อให้โปรไฟล์ตอนเป็นนักเตะดีแค่ไหน แต่นั่นคือตอนเป็นนักเตะ ไม่ใช่โค้ช คนอย่าง อับราโมวิช ไม่เคยให้โอกาสง่ายๆอยู่แล้ว เขายอมตัดทิ้งแล้วไปลุ้นกับโค้ชระดับโลกคนอื่นน่าจะคุ้มกว่าที่จะปล่อยให้ทีมเสียหายไปมากกว่านี้

การหวังแค่ติดพื้นที่ไป UCL มันไม่พอ

ทีมระดับเชลซีในทุกๆฤดูกาล ตั้งแต่ที่ อับราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการ พวกเขาเป็นทีมที่ต้องหวังการคว้าแชมป์เท่านั้นโดยตั้งธงไว้ที่พรีเมียร์ลีกในทุกฤดูกาล ! แต่ว่าการที่ แลมพาร์ด ไม่สามารถเข็นทีมให้ไปไกลกว่าการลุ้นพื้นที่ไปเล่นบอลถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกย่อมไม่ดีแน่ ถ้าหากเขาคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยรายการใหญ่ๆมาครองได้นั้นอาจจะยังพอต่อลมหายใจได้อยู่ แต่การลุ้นพื้นที่ UCL ไปวันๆ มันไม่ใช่สิ่งที่ประธานสโมสรต้องการแน่นอน

ค่าใช้จ่ายที่ลงทุนไปนั้น “ไม่คุ้มทุนอย่างแรง”

ค่าใช้จ่ายที่ลงทุนไปนั้น “ไม่คุ้มทุนอย่างแรง”

เชลซีลงทุนไปเยอะมากในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเพื่อปิดดีลกับทั้ง ฮาคิม ซีเยช , ติโม แวร์เนอร์ , ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่เป็นสามตัวรุกประสิทธิภาพสูง แต่ว่าตัวของ แวร์เนอร์ ที่ยิงประตูกระจายกับไลป์ซิก และตัวของ ฮาแวร์ตซ์ ที่ทั้งยิงทั้งแอสซิสต์ได้เพียบให้กับ เลเวอร์คูเซ่น กลับเล่นไม่เอาไหนเลยในพรีเมียร์ลีกเมื่อค่าตัวก็แพง แต่ผลงานกลับสวนทาง คนเป็นโค้ชที่เบิกงบเพื่อซื้อตัวพวกเขามาร่วมทีมก็ต้องเป็นคนต้องรับผิดชอบแทนนั่นเอง