เอ็นโกโล่ ก็องเต้ … เคยสำคัญแต่วันนี้ยังสำคัญสำหรับเชลซี จริงหรือไม่ …

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ... เคยสำคัญแต่วันนี้ยังสำคัญสำหรับเชลซี จริงหรือไม่ ...

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย เขาได้รับการยกย่องมานานหลายปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขามีโอกาสน้อยลงที่จะพิสูจน์เรื่องนี้ โดยเฉพาะในปีนี้อาการบาดเจ็บเริ่มคืบคลานเข้ามาวุ่นวายในชีวิตของมิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสรายนี้อย่างหนักในฤดูกาล 2019/20 เมื่อเขาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บตามส่วนต่างๆของร่างกายที่มันไม่น้อยกว่า 8 จุดเลย แล้วมันก็ทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นรวมกันถึง 25 เกมจากทุกรายการ และสภาพร่างกายของเขาที่กรอบลงเรื่อยๆ ก็ดูท่าทางว่าจะทำให้ก็องเต้ ไม่สามารถวิ่งเต็มสปีดได้มากเท่าไหร่ ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นมาตลอดตั้งแต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาการบาดเจ็บหนักถึง 5 ครั้งของเขาเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เขาต้องเสียโอกาสในการลงสนามไปมากถึง 9 เกมในฤดูกาล 2020-21 และหลังจากที่ได้กลับมาเริ่มต้นการแข่งขันในฤดูกาลนี้ แต่ก็นับว่าน่าเป้นห่วงก็องเต้มากเลยทีเดียว เพราะเขาออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ อาการบาดเจ็บที่ขาหนีบและตอนนี้ เจ้าตัวยังติดไวรัสโควิดเข้าให้อีก ก็แน่นอนล่ะว่าแค่ช่วงเริ่มต้นซีซั่นใหม่ในปีนี้ ก็องเต้ ก็แทบจะหายหน้าไปจากทีมหลายนัดแล้วแม้ว่าอาการบาดเจ็บจะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับนักกีฬาอาชีพเสมอ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งนี้กำลังกลายเป็นปัญหาสำคัญสำหรับเชลซีด้วยเช่นกัน เพราะก็องเต้นั้สำคัญสำหรับทีมเหลือเกินขนาดในฐานะที่เป็นกองกลางที่ครองบอลและแย่งบอลได้ดีที่สุดในโลก การจะหาใครสักคนมาแทนที่ ก็องเต้ ในตำแหน่งกลางรับนั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ เชลซีคือทีมที่โดนผลกระทบนี้เต็มๆ พวกเขาไม่มีนักเตะคนไหนในทีมที่มีสไตล์คล้ายคลึงกับกองกลางตัวตัดเกมแห่งทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้เลยจอร์จินโญ่ เป็นกองกลางแนวคลาสสิกที่เน้นการทำเกมด้วยการวางบอลจากแนวลึก แต่เขาไม่ได้มีพละกำลังที่จะวิ่งสู้ฟัดเพื่อไล่บอล ตัดบอล แบบที่ก็องเต้ทำได้

ตัวของ มาเตโอ โควาซิช และรูเบ็น ลอฟตัส-ชีค

ตัวของ มาเตโอ โควาซิช และรูเบ็น ลอฟตัส-ชีค

ก็ไม่ได้มีเซนส์ในเรื่องการเล่นเกมรับ และดูเหมือนว่า ซาอูล ญีเกซ น่าจะใกล้เคียงที่สุดในบรรดากลุ่มนักเตะมิดฟิลด์ในทีมเชลซีตอนนี้ แต่ว่านับตั้งแต่ย้ายมาจากแอตเลติโก มาดริด เขาก็ยังคงปรับตัวเข้ากับทีมไม่ได้ด้วยเหตุนี้ เชลซีจึงต้องเปลี่ยนแทคติคทุกครั้งที่ก็องเต้ไม่อยู่ในทีม และผลการแข่งขันก็เปลี่ยนไปอย่างมาก …แพ้เหรอ … เปล่าเลย ! ไหลลื่น !เดอะ บลูส์ คว้าชัยชนะได้ทั้งสามเกมโดยไม่มีก็องเต้คอยปัดกวาดในฤดูกาลนี้ ด้วยสกอร์รวม 7-0 จากสามนัดที่ว่า และสถิติที่เชลซีแพ้ไปสามนัดในลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว (นับเฉพาะตอนที่ โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาคุมทีมเมื่อปีที่แล้ว) หนึ่งในนั้นคือเกมที่โดนเวสต์บรอมวิชถล่มเละเทะ 5-2 ซึ่งเกมนี้ ก็องเต้ ไม่ได้ลงสนาม

เชลซีเป็นทีมที่แตกต่าง

เชลซีเป็นทีมที่แตกต่าง

ไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงหากไม่มีก็องเต้ และเนื่องจากปัญหาด้านความฟิตของเขากำลังเริ่มที่จะทำให้ ก็องเต้ ร้างสนามไปมากขึ้น ทางเชลซีเองก็คงจะมานั่งรอเขาอย่างเดียวไม่ไหวแล้ว พวกเขาจึงต้องหาใครสักคนที่สามารถเติมเต็มช่องว่างที่เขาทิ้งไว้ได้โดยสมบูรณ์แบบ และจะต้องไม่มีการเปลี่ยนรูปแบบการเล่นให้มันเพี้ยนไปจนมากกว่านี้ด้วยว่ากันว่า ออเรลิยอง ชูอาเมนี่ สตาร์ตัวรับของทีม โมนาโก คือนักเตะที่เชลซีมองว่ามีฝีเท้าและสไตล์ที่ใกล้เคียงก็องเต้มากที่สุด และเชลซีเองก็ได้ติดตามฟอร์มการเล่นของดาวเตะวัย 21 ปีรายนี้มาระยะหนึ่งแล้ว และมุ่งเป้าไปที่การเซ็นสัญญากับเขาตั้งแต่ในช่วงซัมเมอร์ แต่ท้ายที่สุดแล้วนั้น เชลซี ก็ทำไม่สำเร็จและต้องปล่อยให้เขาต้องอยู่ค้าแข้งที่ฝรั่งเศสต่อไปอีกสักระยะด้วยสไตล์ที่คล้ายกับก็องเต้ แถมอายุยังน้อยด้วย ทางโมนาโกประมาณค่าตัวของ ชูอาเมนี่ ไว้ที่ราวๆ 35 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทางเชลซีอาจจะมีกำลังพอที่จะจ่ายได้ในซัมเมอร์หน้าส่วนแคนดิเดตรายต่อมาก็คือ คอนอร์ กัลลาเกอร์ รายนี้อาจไม่ใช่ตัวแทนโดยตรงของก็องเต้ แต่เขามีเซนส์ในการจ่ายบอลคีย์พาสจากแนวลึกได้ด้วย ซึ่งมันอาจจะสร้างมิติในการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้อย่างรวดเร็วอีกก็องเต้ อาจจะไม่ได้สำคัญสำหรับเชลซีอีกต่อไป ถ้าหากว่าเขาอยากกลับมามีส่วนสำคัญของทีม ก็คงต้องอยู่ที่เขาแล้วว่าจะฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตาม ฟุตบอลและวันเวลา มันไม่เคยรอใคร