เอ็ดดี้ ฮาว ต้องสร้างปาฏิหาริย์ให้กับ บอร์นมัธ อีกครั้ง

เอ็ดดี้ ฮาว ต้องสร้างปาฏิหาริย์ให้กับ บอร์นมัธ อีกครั้ง

เรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อของ “เดอะ เชอร์รีส์” บอร์นมัธ ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จากการเป็นทีมที่เจอวิกฤตเกือบจะหลุดออกจากลีกอาชีพสู่การขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดแดนผู้ดี แต่ตอนนี้พวกเขาใกล้จะถึงจุดจบแล้วหรือไม่

ในเกมลีกนัดล่าสุดจากรายงานการ ดูบอลสด ที่ บอร์นมัธ บุกไปพ่าย “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่สนามบรามอลล์ เลน เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ทำให้ทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือคนหนุ่มชาวอังกฤษ ต้องหล่นไปอยู่ในอันดับ 16 ในตารางคะแนน และมีแต้มเหนือทีมในโซนตกชั้นเพียง 2 คะแนนเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ในเกมที่เหลือของซีซั่นนี้ บอร์นมัธ ต้องเผชิญกับศึกหนัก เนื่องจากพวกเขาต้องเล่นกับทีมครึ่งบนของตารางคะแนนมากกว่าทีมในครึ่งล่าง และสิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับ“เดอะ เชอร์รีส์” แต่ ฮาว ยืนยันว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ในการพาทีมหนีตกชั้น

ผู้จัดการทีม บอร์นมัธ กล่าวกับ “บีบีซี” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “มันยากเมื่อคุณไม่ได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ แต่มันเป็นความท้าทายที่ผมพร้อมเผชิญ ทัศนคติ, ความพยายามของผู้เล่น และความมุ่งมั่นของพวกเขา ผมคิดว่าเรายังคงมีโอกาสที่ดีกับคุณภาพที่เรามีในทีม”

“เรายังไม่หมดหวังที่จะอยู่ในพรีเมียร์ลีกต่อไป ผมรักลีกนี้ ผมรักทุกอย่างเกี่ยวกับมัน และผมรู้ว่ามันสำคัญกับสโมสรแห่งนี้มากแค่ไหน พวกเรามีความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จ 100%” ฮาว กล่าวอย่างเชื่อมั่น

สนาม วิทาลิตี้ สเตเดี้ยม ของ บอร์นมัธ ถือเป็นสนามที่เล็กที่สุดในศึกพรีเมียร์ลีก โดยมีแฟนบอลเข้าชมเฉลี่ยประมาณ 11,000 คน ซึ่งน้อยกว่าสนามอื่นๆอย่างน้อย 10,000 คน แต่ตลอด 4 ฤดูกาลที่เลื่อนชั้นขึ้นมา “เดอะ เชอร์รีส์” ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการจบอันดับ 16, 9, 12 และ 14 ตามลำดับ

กาเร็ธ เดวีส์ นักข่าวกีฬาของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองผู้ดี ซี่งเป็นแฟนบอล บอร์นมัธ มานานกว่า 30 ปี กล่าวว่า “นี่เป็นฤดูกาลที่ยากที่สุดสำหรับ บอร์นมัธ นับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมา และ ฮาว ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพาทีมให้อยู่รอด”

“ในเวลานี้การจะอยู่รอดนั้น โอกาสอยู่ในมือของ ฮาว และผู้เล่นทุกคน และ ฮาว จำเป็นต้องสร้างปาฏิหาริย์ให้กับ บอร์นมัธ อีกครั้ง มันจะเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดถ้าเขาสามารถทำได้”

เดวิด บรูคส์ กองกลางดาวรุ่งชาวเวลส์ ของ บอร์นมัธ ซึ่งเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล PFA Young Player of the Year เมื่อปีที่แล้วนั้น ยังไม่ได้ลงเล่นในฤดูกาล 2019-20 เลยแม้แต่เกมเดียว เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ขณะที่ ชาร์ลี แดเนียลส์ แบ็คซ้ายตัวเก่ง ก็บาดเจ็บตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน บรรดานักเตะตัวหลักอย่าง สตีฟ คุก, นาธาน อาเก้, ลูอิส คุก, ไซมอน ฟรานซิส, คริส เมปแฮม และ โจชัว คิง ต่างก็สลับกันบาดเจ็บ และแทบไม่ได้ลงสนามให้กับ บอร์นมัธ ได้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเลยในฤดูกาลนี้

หาก บอร์นมัธ ต้องการแรงบันดาลใจนั้น พวกเขาควรพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งเวลานี้ในซีซั่น 2016-2017 ทีมของ ฮาว เก็บได้ 26 คะแนน จาก 26 เกม ซึ่งมันเป็นสถิติเดียวกันกับคะแนนตอนนี้ โดยพลพรรค “เดอะ เชอร์รีส์” ขนะ 5 เกม เสมอ 5 เกม และแพ้ไป 2 เกม จาก 12 นัดล่าสุดของพวกเขา

ในฤดูกาลนี้ บอร์นมัธ เคยเอาชนะทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และบุกไปเอาชนะ เชลซี ถึงสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ มาแล้ว แต่พวกเขาแพ้ไป 5 เกมติดต่อกันในเดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และเก็บได้เพียง 1 คะแนน จาก 6 เกม ก่อนจะถึงช่วงวันคริสต์มาส

ฮาว ยืนยันว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ในการพาทีมหนีตกชั้น

เดวีส์ กล่าวต่อว่า “มีความไม่พอใจอย่างแท้จริงจริง และเห็นได้ชัดจากบางช่วงในฤดูกาลนี้ ซึ่งทีมเราต้องดิ้นรนอย่างหนักแบบไม่เคยเห็นมาก่อนในยุคของ ฮาว อย่างไรก็ตาม เสียงจากแฟนบอลส่วนใหญ่ชัดเจนว่า ยังคงสนับสนุนเขาต่อไป”

สำหรับแฟนๆ บอร์นมัธ ส่วนใหญ่อาจมีความคิดในการตั้งคำถามว่า ตำแหน่งของ ฮาว นั้น ใครจะสามารถเข้ามาแทนที่ได้ โดยหากย้อนกลับไปในเดือนมกราคมปี 2009 นั้น สโมสรที่มีหนี้สินมากมาย และไม่สามารถบริหารเรื่องการเงินได้ ซึ่งถูกลงโทษด้วยการตัดไป 17 คะแนน ในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลศึกลีก ทู

ในเวลานั้น ฮาว อายุเพียง 31 ปีและไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการคุมทีมมาก่อน แต่เขาก็ช่วยให้ บอร์นมัธ เอาตัวรอดในลีก และไม่ถูกขับออกจากลีกอาชีพได้ และการเอาชนะ กริมสบี้ ในเกมสุดท้ายของศึก ลีก ทู ในฤดูกาล 2008-09 นั้น เป็นจุดเริ่มต้นสู่การมาเล่นในลีกวัน

ในซีซั่น 2012-2013 ฮาว พา บอร์นมัธ เลื่อนชั้นมาเล่นในลีก วัน ได้สำเร็จ จากนั้นในฤดูกาล 2014-2015 เขาพาทีมชั้นมาเล่นในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ก่อนจะพาพลพรรค “เดอะ เชอร์รีส์” ขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2016

เดวีส์ กล่าวว่า “ผู้จัดการทีมคนอื่นๆ ในสโมสรอื่นๆ จะได้รับการบอกให้เก็บของโต๊ะทำงานของเขาทันทีหากทีมอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่เนื่องจากความสำเร็จที่น่าทึ่งของ ฮาว ก่อนหน้านี้นั้น ได้ซื้อเวลาให้เขาอย่างไม่ต้องสงสัย”

“ไม่ว่าผลของฤดูกาลนี้จะเป็นอย่างไร เขาเป็นคนที่เหมาะสมที่จะนำพาสโมสรไปสู่เดอะ แชมเปี้ยนชิพ หรือพรีเมียร์ลีก หากสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น และ บอร์นมัธ ต้องตกชั้น นโยบายการทำทีม และการซื้อนักเตะหนุ่มของ ฮาว จะทำให้ บอร์นมัธ อยู่ได้อย่างสบายๆในลีกระดับรองลงมา”

โทนี่ พูลิส อดีตกุนซือ สโต๊ค ซิตี้ และเป็นอดีตนักเตะของ บอร์นมัธ ได้แสดงความคิดเห็นผ่านทาง “BBC Radio 5 Live” ว่า “ผมอาศัยอยู่ในเมืองนี้มาตั้งแต่ปี 1986 และสโมสรฟุตบอลแห่งนี้แตกต่างจากสโมสรอื่น ๆ ไม่มีทางที่ ฮาว จะยังคงได้ทำงานต่อหากเขาทำงานกับทีมอื่น แต่สโมสรนี้รู้ว่า พวกเขาเป็นหนี้บุญคุณของ เอ็ดดี้ ในการพาพวกเขาไปสู่การเปลี่ยนแปลง”

“ดูที่สนามของพวกเขาตอนนี้สิ เมื่อปรียบเทียบกับตอนที่ผมเล่นอยู่มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ฮาว สร้างบางสิ่งที่พิเศษ และผู้คนในเมืองเข้าใจว่า เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผมมีความรู้สึกมากมายกับสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ และ ฮาว เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างของสโมสรฟุตบอลนี้” พูลิส กล่าว

คริส เบ็นเน็ตต์ เป็นแฟนตัวยงของ บอร์นมัธ เป็นเวลา 25 ปี กล่าวว่า “ฮาว เป็นตำนานของสโมสรและเราโชคร้ายมากที่ได้ผลการแข่งขันที่ไม่ดีนัก แต่ผมหวังว่าเขาจะไม่ดื้อรั้นกับสไตล์การเล่นของเขาเอง บางครั้งการชนะแบบน่าเกลียด 1-0 ผมก็โอเค”

จูเลียน เบล แฟนบอลอีกราย กล่าวว่า “ฮาว ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ และการที่เราฟอร์มตกเพราะนักเตะบาดเจ็บมันเป็นสิ่งที่นอกเหนือความคาดหมาย”

ทิม ดูร์แกน สาวก บอร์นมัธ กล่าวว่า “พวกเราควรดูว่า เบิร์นลี่ย์ เป็นตัวอย่างว่า พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างไรจากการยึดติดกับกุนซืออย่าง ฌอน ไดซ์ ความมั่นคงเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้จัดการทีมได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว”

แฟนบอลรายหนึ่งระบุว่า “ผมชอบมากเมื่อ เบิร์นลี่ย์ ยังคงยึดติดกับ ฌอน ไดซ์ เมื่อพวกเขาถูกตกชั้น นั่นเป็นขั้นตอนแรกที่พวกเขาทำเพื่อพาตัวเองกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ซึ่งพวกเขาทำได้ และ บอร์นมัธ ก็ควรทำเช่นเดียวกัน และ ฮาว จะมีสมอง และยุทธวิธีที่ดีพอที่จะพาเราอยู่ในพรีเมียร์ลีก”

ร็อบ แฟนเนอร์ แฟนบอลอีกรายกล่าวว่า “ผมต้องการสนับสนุน เอ็ดดี้ ฮาว ต่อไป แม้ว่าเราจะกลับไปอยู่ที่ 17 ในลีก ทู ก็ตาม แต่นั่นจะไม่เกิดขึ้น เขาเป็นเหตุผลว่า ทำไมสโมสรแห่งนี้จึงอยู่ที่ไหน เขาเป็นผู้นำที่แท้จริง และจะเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเรา”

ผมต้องการสนับสนุน เอ็ดดี้ ฮาว ต่อไป