เรื่องราว เวย์ รูนีย์ กองหน้ามากประสบการณ์

เรื่องราว เวย์ รูนีย์ กองหน้ามากประสบการณ์

เวย์ รูนีย์ ถือว่าเป็นนักเตะอีกหนึ่งคนที่มากประสบการณ์ เพราะการที่เขาได้ออกไปค้าแข้งต่างถิ่นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้รู้เทคนิค และจุดอ่อนของแต่ล่ะทีมได้เป็นอย่างดี ด้วยความรู้ที่เขาเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กๆ และสามารถไต่เต้าเข้ามาเป็นนักเตะทีมเยาวชนให้กับ เอฟเวอร์ตัน ในปี 2001 ในช่วงเริ่มต้นมีความปราถนาในการเล่นให้ เอฟเวอร์ตัน เป็นอย่างมาก ผู้คนต่างให้ความสนใจและประทับใจในตัวของเขากับการได้สวมเสื้อ “Once a blue, Always a blue” หมายเลขที่ 18 และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นในการแจ้งเกิดในวงการฟุตบอลของ เวย์ รูนีย์ คือการเอาชนะ อาร์เซน่อล ในปี 2002 ได้สำเร็จ

หลังจากนั้น เวย์ รูนีย์ ก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงมาโดยตลอด จากที่เป็นนักเตะที่ถูกมองข้าม ก็สามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นนักเตะตัวจริงของเอฟเวอร์ตันได้ ถือว่าเป็นการผันตัวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขากลายเป็นที่น่าจับตามองให้กับหลายๆสโมสร ในปี 2004 เวย์ รูนีย์ ได้ย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน ไปยัง แมนเชอร์เตอร์ยูไนเต็ด และยังเป็นนักเตะที่มีค่าตัวสูงที่สุดในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ในตอนนั้นเขาได้สวมเสื้อหมายเลข 8 แทน นิคกี้ บัตต์ ที่ย้ายออกไปอยู่ที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด นอกจากนั้นต่อมาในปี 2006 เขายังได้ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ แทน รืด ฟัน นิสเติลโรย

การปะทะกับโด้จิ๋ว

ในปี 2006 ฟอร์มการเล่นของเขาไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาเกิดอาการบาดเจ็บ ในการแข่งขัน รอบ 8 ทีมสุดท้ายของทีมชาติอังกฤษ ในการพบเจอกับ ทีมชาติโปรตุเกศ และโดนใบแดงไล่ออกสนาม แฟนบอลของ เวย์ รูนีย์ ต่างจับผิดไปยัง คริสเตียโน โรนัลโด้ ว่าเป็นผู้ที่ทำให้ เวย์ รูนีย์ โดนใบแดงจนถูกไล่ออกสนามไป และมีคนสร้างข่าวขึ้นมาว่า เวย์ รูนีย์ ตั้งตัวเป็นศัตรูกับ คริสเตียโน โรนัลโด้ แต่แล้วเขาก็ได้ออกแถลงข่าวสยบพวกคำยุแยงพวกนั้นที่ผู้คนได้ใส่ความไว้ให้ หลังจากนั้น เวย์ รูนีย์ และ คริสเตียโน โรนัลโด้ ก็สามารถเล่นเข้าขากันได้เป็นอย่างดี และยังคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในปี 2007 มาได้อีกด้วย ก่อนที่ โรนัลโด้ จะได้ย้ายออกจากทีมไป และเขาเลยได้เปลี่ยนเป็นเลข 10 โดยที่ เดนิส ลอว์ เป็นผู้มอบให้ เขาสามารถทำผลงานได้ดีกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้อย่างต่อเนื่อง รวมเป็นระยะเวลาทั้งหมด 12 ปี นับตั้งแต่ปี 2004-2016

การปะทะกับโด้จิ๋ว

ในปี 2016 เวย์ รูนีย์ ถูกลดบทบาทหน้าที่ลงอย่างมาก เพราะทางสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เปลี่ยนผู้จัดการทีมจาก หลุยส์ ฟาน กัล แทนที่โดย โซเซ่ มูรินโญ่ เขาได้เข้ามาปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นของทีม ดึงเอานักเตะเยาวชนขึ้นมาเป็นตัวจริง ทำให้ เวย์ รูนีย์ ถูกลดหน้าที่ลงถึงขั้นหมดความสุขในการเล่นฟุตบอลไปเลย สุดท้ายทำให้เขาตัดสินใจย้ายออกจากทีม และทีมแรกที่เขานึกถึงคงไม่พ้น เอฟเวอร์ตัน เขาไม่รอช้าในการทำสัญญาถึงแม้ว่าจะถูกลดค่าเหนื่อยไปถึง 50 เปอร์เซ็น แทนตำแหน่งหมายเลข 10 ของ โรเมลู ลูกากู ที่ย้ายสลับกับเขาไปที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อายุยิ่งเพิ่ม ฝีมือยิ่งตก

เวย์ รูนีย์ ตัดสินใจย้ายข้ามทวีปไปค้าแข้งให้ ดีซี ยูไนเต็ด

คนเราเกิดมาก็ต้องมีอายุที่เพิ่มมากขึ้นกันทั้งนั้น ทั้งนี้ เวย์ รูนีย์ ที่มีอายุมากขึ้น ทำให้ความคล่องแคล่วและประสิทธิภาพการเล่นของเขาเริ่มช้าลง ทำให้เขาตัดสินใจย้ายข้ามทวีปไปค้าแข้งให้ ดีซี ยูไนเต็ด ของประเทศอเมริกา ด้วยการเซ็นสัญญายาวถึง 3 ปีครึ่ง เมื่อปี 2018 เขาได้ประกาศยุติบทบาทการเล่นฟุตบอล ในนามทีมชาติอย่างเป็นทางการ ด้วยอายุที่มากขึ้นบวกกับฟอร์มการเล่นที่ลดน้อยลงในวัย 32 ปี เขาลงสนามรับใช้ทีมชาติอังกฤษมาตั้งแต่อายุ 17 ปี ถึงเวลาจึงจำเป็นต้องถอยออกมาเพื่อให้นักเตะรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพที่ดีมาสร้างความยิ่งใหญ่ให้อังกฤษต่อไป ทำให้พิสูจน์ได้ว่าเขาคือผู้เล่นกองหน้าที่เป็นระดับตำนาน ไม่ว่าจะเล่นให้ทีมชาติ หรือสโมสร ก็ต่างยกยอให้เขาเป็นกองหน้าที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุด เขาได้สร้างชื่อเสียง และประทับเกียรติประวัติของตัวเองไว้อย่างมากมาย เวร์น รูนีย์ คือกองหน้าเบอร์ 1 ของอังกฤษ ของประวัติศาตร์ที่ต้องจารึกไว้ในฟุตบอลโลก