เพื่อเงินโปะหนี้ … เรื่องราวแห่ง 2 ยอดนักเตะผู้ช่วยทีมเก่าด้วยการ “ยอมย้าย”

เพื่อเงินโปะหนี้ ... เรื่องราวแห่ง 2 ยอดนักเตะผู้ช่วยทีมเก่าด้วยการ “ยอมย้าย”

ขายใช้หนี้ … สิ่งนี้เกิดขึ้นได้กับทุกวงการเลยทีเดียว ไม่ว่าเราจะเป็นหนี้อะไรอยู่ ถ้ามันเกินเยียวยา หาเงินมาใช้ไม่ทัน มันก็ไม่แปลกที่เราอาจจะต้องขายอะไรสักอย่างออกไปเพื่อรีบโปะหนี้ … ไม่เว้นกระทั่งฟุตบอลก็เช่นกัน มันมีหลายๆเหตุการณ์เลยทีเดียวที่สโมสรสักแห่ง มีความจำเป็นจะต้องขายนักเตะในทีมออกไป เพื่อรักษาสมดุลทางการเงินเอาไว้ หรือกระทั่งนำไปโปะหนี้ที่พวกเขาก่อไว้ แม้ว่านักเตะจะไม่อยากย้าย แต่มันก็เป็นเหตุจำเป็นที่ซึ่งพวกเขาจำเป็นจะต้องย้ายทีม แม้ว่าสโมสรดังกล่าว จะเป็นทีมรักที่นักเตะผูกพันมากที่สุดแค่ไหนก็ตาม และนี่คือ 2 เหตุการณ์ที่ทำให้นักเตะชื่อดัง ต้องเศร้าและจ๋อยหู่สุดๆเลยทีเดียวกับการที่เขาต้องย้ายออกจากสโมสรที่เขารัก

มาเตโอ โควาซิช (จากสโมสร อินเตอร์ มิลาน สู่ทีม เรอัล มาดริด)

มาเตโอ โควาซิช (จากสโมสร อินเตอร์ มิลาน สู่ทีม เรอัล มาดริด)

ในปัจจุบัน คุณจะได้เห็นตัวของมิดฟิลด์ฟอร์มแรงรายนี้ ระเบิดผลงานในการเป็นจอมทัพตัวหลักของทีม เชลซี เขาเป็นตัววางบอลชั้นเลิศ วิ่งไล่บอลได้ดี ตัดเกมได้ จ่ายบอลฉลาดและแม่นยำทั้งลูกสั้น ลูกยาว สามารถกำหนดจังหวะการเล่นในแดนกลางได้อย่างเนียนตา อีกทั้ง โควาซิช ยังเป็นนักเตะที่สามารถเล่นได้หลากหลายบทบาทในแดนกลาง ทั้งตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวโฮลดิ้ง หรือจะเป้น เพลย์เมกเกอร์ตัวต่ำที่คอยทำเกมจากแนวลึกก็ได้ ดันขึ้นมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกหลังหน้าเป้า และกระเถิบออกริมเส้นเป็นมิดฟิลด์กึ่งปีกก็ยังได้เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2015 โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมอินเตอร์ มิลาน (ในเวลานั้น) ได้ยืนยันว่าสโมสรถูกบังคับให้ขาย โควาซิช ให้กับเรอัล มาดริด เพราะเนื่องจากกฎ Financial Fair Play ที่บีบให้อินเตอร์ต้องทำแบบนั้น และมันชินี่ก็ได้พูดในระหว่างการแถลงข่าวหลังจบเกมนัดกระชับมิตรกับสโมสร เออีเค เอเธนส์ ไว้ว่า “กฎนี้เป็นกฎที่พวกเราต้องเคารพ ผมไม่คิดว่าจะมีใครอยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้น แต่เราโดนข้อบังคับจาก Financial Fair Play บีบให้เราต้องปฏิบัติตาม“ทุกคนเสียใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตัวผมเองก็ด้วย ประธาน ผู้บริหารและผู้เล่นเองก็เช่นกัน”เรอัล มาดริด ได้ยืนยันถึงการย้ายทีมของ โควาซิช ในอีกสองวันต่อมา โดยพวกเขาประกาศว่า โควาซิช ได้เซ็นสัญญา 6 ปีกับสโมสรแล้ว โดยมีค่าตัว 29 ล้านยูโร ซึ่งอินเตอร์ก็นำเงินก้อนดังกล่าวไปโปะบัญชีทันทีเขาได้สวมเสื้อหมายเลข 16 ให้กับสโมสร และโควาซิช ก็กลายเป็นผู้เล่นชาวโครเอเชียคนที่ 5 ต่อจาก โรเบิร์ต โปรซิเนคกี้, ดาวอร์ ซูเคอร์ , โรเบิร์ต จาร์นี่ และตัวของ ลูก้า โมดริช

กาก้า (จาก เอซีมิลาน สู่ เรอัล มาดริด)

กาก้า (จาก เอซีมิลาน สู่ เรอัล มาดริด)

มีชะตากรรมแบบนี้มาตั้งแต่ก่อนรุ่นของ โควาซิช โดยกาก้า ตำนานเทพบุตรลูกหนังชาวบราซิล มีโอกาสต้องช่วยสโมสรรักของเขาในปี 2009 ซึ่งเป็นปีที่ฟลอเรนติโน่ เปเรซ กลับมาเป็นประธานสโมสร เรอัล มาดริด อรีกครั้งและได้เริ่มโปรเจคต์ “กาลาติกลอส เวอร์ชั่น 2” ในปีนั้น โดยเรอัล มาดริด ได้ทั้ง คริสเตียโน โรนัลโด้ , คาริม เบนเซม่า และ ริคาร์โด้ กาก้า อันเป็นสตาร์พระกาฬมาสู่ทีมพร้อมๆกัน โดยก่อนที่ โรนัลโด้จะมาถึงเรอัลเพียงไม่กี่วัน กาก้า ทำสถิติเป็นนักเตะเจ้าของค่าตัวแพงเป็นสถิติโลกเลยทีเดียวก่อนที่ CR7 จะย้ายมาถึงและทำลายสถิติในอีกไม่กี่วันจากนั้นเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2009 มีรายงานว่า ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานเรอัล มาดริด ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้ง ได้เสนอซื้อ กาก้า จากมิลานในราคา 68.5 ล้านยูโร โดยมันเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียงสองวัน หลังจากที่ผู้เล่นรายนี้ ออกไปปฏิบัติหน้าที่ในฐานะของนักเตะทีมชาติบราซิลในเวลานั้น อาเดรีย โน่ กาลเลนี่ รองประธานและซีอีโอของมิลานยืนยันว่าเขา และ บอสโก้ ไลเต้ พ่อของกาก้า ได้เดินทางไปเม็กซิโกเพื่อเจรจาบางอย่าง”เราทานอาหารกลางวันด้วยกัน และพูดถึง กาก้า บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่เขาต้องเดินทาง”ในวันที่ 4 มิถุนายน กาลเลนี่ ได้บอกกับ Gazzetta dello Sport ว่า ด้วยเหตุผลทางการเงิน มันเป็นแรงจูงใจของเขาในการเจรจากับทาง เรอัล มาดริด เพื่อขายเขาไปสู่เรอัล ด้วยค่าตัว 67 ล้านยูโรกาก้า ได้เปิดตัวในฐานะผู้เล่นของเรอัล มาดริด เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2009 และเขาก็ได้เปิดตัวลงสนามในเกมอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2009 ในชัยชนะของการแข่งขันนัดกระชับมิตรกับโตรอนโต้ ด้วยสกอร์ 5-1 และจากนั้น เขาก็ยิงประตูแรกให้มาดริดได้ระหว่างการแข่งขันปรีซีซั่นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2009 ในชัยชนะ 5-0 เหนือทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์