เมาโร เอ็มมานูเอล อิคาร์ดี้ (Mauro Emanuel Icardi) นักเตะมืออาชีพที่แย่งเมียเพื่อน

กัปตันทีม อินเตอร์ มิลาน

เมาโร เอ็มมานูเอล อิคาร์ดี้ เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน เปิดวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1993 เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวอาร์เจนตินาเล่นตำแหน่งกองหน้าของสโมสร อินเตอร์ มิลาน ที่เวลานี้ได้เป็นกัปตันทีมแล้ว และเคยติดทีมชาติอาร์เจนตินามาแล้ว โดยเขาเป็นกองหน้าตัวเป้าและได้รับฉายาว่า สัตว์ป่าในกรอบเขตโทษ และเพชฌฆาตดาวซัลโว

อิคาร์ดี้ เคยเป็นนักเตะเยาวชนของ ลามาเซีย ที่ บาร์เซโลน่า มาก่อน และย้ายไป ซามพ์โดเรีย ที่เริ่มตันนักฟุตบอลอาชีพที่ ซามพ์โดเรีย เขาย้ายร่วมทีม อินเตอร์ มิลาน ในเดือนกรกฎาคม 2013 และยิงประตูได้มากกว่า 100 ประตูในเซเรีย อา เวลานี้เขามาเป็นดาวซัลโวอันดับ 9 ตลอดกาลของ อินเตอร์ อิคาร์ดี้ ยังได้รับรางวัลดาวซัลโวเมื่อปี 2014/15 และ 2017/18 ซึ่งปีนั้นเขาได้ดาวซัลโวร่วมทั้งสองซีซั่น หลังจากฤดูกาล 2014/15 เขายังได้รับมอบหมายเป็นกัปตันทีมคนใหม่ของ อินเตอร์ มิลาน ด้วย สามปีต่อมา อิคาร์ดี้ ก็พาอินเตอร์เข้ามาเล่นในฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก โดยเข้าเล่นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี อิคาร์ดี้ แต่งงานกับ วันด้า นารา ที่มีสามีเป็นอดีตเพื่อนร่วมทีมเก่าของ อิคาร์ดี้ เมื่อสมัยอยู่ ซามพ์โดเรีย (มักซี่ โลเปซ) และทำให้ นารา หย่าร้างกับ แมกซี่ โลเปซ เพราะว่าความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ อิคาร์ดี้ นั่นเอง

ประวัติ อิคาร์ดี้ ก้าวแรกของวงการลูกหนัง

ประวัติ อิคาร์ดี้ ก้าวแรกของวงการลูกหนัง

อิคาร์ดี้ เป็นนักฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินาและสนามในทีมชาติครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2013 นับแต่นั้นมาเขาก็ยังลงเล่นกับทีมชาติไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควร ซึ่งแฟนบอลหลายคนที่อาร์เจนตินาต่อต้านการแย่งภรรยาของ โลเปซ เลยไม่อยากจะให้เขามาเป็นนักเตะทีมชาติ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่มีโอกาสได้ลงสนามให้ทีมฟ้า-ขาว เท่าไหร่นัก อิคาร์ดี้ ยังไม่ได้เล่นให้ทีมชาติในฟุตบอลโลก 2018 ด้วย
เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ

เริ่มต้นค้าแข้ง

อิคาร์ดี้ เกิดที่โรซาริโอ อาร์เจนตินาและย้ายมาเล่นที่สเปน เกาะคานารี่ส์ ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เขาเข้าเป็นนักฟุตบอลที่สโมสร เบชินดาริโอ ที่เมืองแกรนด์ คานาเรีย และยิงประตูได้มากกว่า 500 ประตูในระดับเยาวชน
ปี 2007 เขาต้องตัดสินใจว่าจะย้ายไป บาร์เซโลน่า หรือ เรอัล มาดริด และยังได้รับข้อเสนอจาก บาเลนเซีย, เซบีย่า,เอสปันญอล, เดฟอร์ติโบ ลาคอรุนญ่า , อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล สุดท้ายเป็น บาร์เซโลน่า ที่ได้เซ็นสัญญากับ อิคาร์ดี้ และเซ็นเข้าสู่ทีมเมื่อปี 2013

อิคาร์ดี้ เข้าเล่นกับสโมสรจากคาตาลัน เมื่อฤดูกาล 2008/09 โดยที่ลงสนามในทีมชุด ยู 17 ปี จากนั้นเลื่อนขึ้นมาเล่นทีม ยู19 ก่อนที่จะย้ายมาเล่นให้ทีม ซามพ์โดเรีย ในฟุตบอลเซเรีย อา ด้วยสัญญายืมตัว เมื่อเดือนมกราคม 2011 อิคาร์ดี้ กล่าวว่าเขาคิดถูกที่ตัดสินใจย้ายมาเล่นที่ ซามพ์โดเรีย

ซามพ์โดเรีย

ซามพ์โดเรีย

วันที่ 11 มกราคม 2011 ซามพ์โดเรีย ยืนยันว่าได้เซ็นสัญญาคว้า เมาโร อิคาร์ดี้ เข้าร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว จนกระจั่งจบซีซั่น 2010/2011 และหลังจากที่ประสบความสำเร็จกับทีม เขายิงประตู 13 ประตูใน 19 เกมในทีมชุดเยาวชน และทีมฝั่งอิตาลีตัดสินใจซื้อขาดด้วยค่าตัว 400000 ยูโรเมื่อเดือนกรกฎาคม 2013 เขาเซ็นร่วมทีม 3 ปี ในฤดูกาล 2011/12 เขายิงได้ 19 ประตูในทีมสำรองลีกกลุ่ม A และเป็นดาวซัลโวอันดับสามของลีก

วันที่ 12 พฤษภาคม 2012 อิคาร์ดี้ ได้ลงสนามทีมชุดใหญ่ของ ซามพ์โดเรีย นัดที่แข่งกับยูเว่ สตาเบีย ลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ของ บรูโน่ ฟอร์นารี่ นาทีที่ 75 และสิบนาทีหลังจากนั้นเขายิงประตูชัยให้ทีมชนะได้ 2-1 เป็นประตูแรกในเกมฟุตบอลระดับอาชีพของเขา

วันที่ 26 กันยายน 2012 เขาได้ลงสนามในเกมเซเรียอา เป็นเกมที่พบ โรม่า และลงสนามมาแทนมิดฟิลด์ชาวปารากวัย มาร์เซโล่ เอสติการ์ราเบีย นาทีที่ 49 จากนั้นวันที่ 12 พฤศจิกายน อิคาร์ดี้ ยิงประตูแรกในเซเรีย อา เกมดาร์บี้แมตช์ เดลล่า ลันแตร์น่า ที่พบเจนัวเป็นเกมที่ชนะ 3-1 วันที่ 6 มกราคม 2013 เขายิงได้สองประตู เกมที่แข่งกับ ยูเวนตุส ทำให้ทีมชนะ ยูเวนตุส ได้ 2-1 นับเป็นความพ่ายแพ้เกมที่สองหลังจากที่ ยูเวนตุส สร้างสนามใหม่ด้วย

วันที่ 27 มกราคม 2013 อิคาร์ดี้ ยิงได้ 4 ประตูจาก 6 ประตูที่ลาซามพ์ ชนะ เปสคาร่า และพาทีมจากเมืองเจนัว(ลา ซามพ์) รอดพ้นจากการตกชั้นสู่เซเรีย บี ได้สำเร็จ วันที่ 18 พฤษภาคม ลงเล่นเกมสุดท้ายในฤดูกาล อิคาร์ดี้ ยิงประตู ยูเวนตุส ได้อีกและยังพาทีมชนะ ยูเวนตุส ได้ทั้งไปและกลับ (ซามพ์ชนะ 3-2 ที่สนามลุยจิ เฟอร์ราริส)

อินเตอร์ มิลาน

ช่วงปลายเดือนเมษายน อิคาร์ดี้ ย้ายไปร่วมทีมอินเตอร์ในฤดูกาล 2013/14 ด้วยค่าตัวในการย้ายทีม 6.5 ล้านยูโร โดยทั้งสองทีมเป็นเจ้าของตัวนักเตะร่วมกัน เขาลงสนามเกมแรกให้ทีมงูใหญ่ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม โดยเล่นร่วมกับกองหน้าชาวแอลจีเรีย อิซัค เบลโฟดิล และได้สวมเสื้อหมายเลข 9 ของทีม เขากล่าวยอมรับเลยว่าเป็นความฝันที่เป็นจริงของเขาเลย ที่ได้สวมเสื้อหมายเลขนี้ ซึ่งมีหลายทีมที่ติดต่ออยากได้เขา แต่สุดท้ายเขาตัดสินใจย้ายมาเล่นยังถิ่นซานซิโร่ ก่อนหน้านี้ เขาลงสนามเกมแรกหลังจากที่เซ็นสัญญาเพียงหนึ่งวัน เป็นเกมที่ไปเยือนและเอาชนะ เตรนติโน่ 3-0 โดยลงสนามเป็นสิบเอ็ดคนแรกและได้ลงเล่นแค่ครึ่งแรกเท่านั้น จากนั้นยิงประตูเกมแรกให้อินเตอร์เกมปรีซีซั่น นัดที่เสมอทีมในบุนเดสลีกา ฮัมบูร์ก จากการแอสซิสต์ให้ของ เฟรดี้ กัวริน

อิคาร์ดี้ ฤดูกาล 2013

ฤดูกาล 2013/14

วันที่ 25 สิงหาคม 2013 อิคาร์ดี้ ลงสนามให้อินเตอร์ เป็นทางการนัดแรก โดยลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง เกมที่ชนะเจนัว 2-0 เขายิงชนคานในเกมนั้น เขายิงประตูแรกสำหรับเกมลีกวันที่ 14 กันยายน เป็นเกมที่ซาน ซิโร่ นัดที่เสมอ ยูเวนตุส 1-1 หลังจากที่ลงมาเป็นตัวสำรองนาทีที่ 73 แต่ว่าเขาได้รับบาดเจ็บอยู่ช่วงหนึ่งทำให้ต้องพลาดการลงสนามไปหลายเกม และกลับมาลงสนามได้อีกครั้งวันที่ 14 เดือนกุมภาพันธ์ 2014 เป็นนัดที่แข่งกับ ฟิออเรนตินา ที่สนาม อาร์เตมิโอ ฟรังคี่ (โดยเขาเจ็บไป 4 เดือน ) และยังยิงประตูชัยให้ทีมได้ด้วย วันที่ 5 เมษายน เขาลงสนามให้งูใหญ่เกมเสมอ โบโลญญ่า 2-2 และมีเกมที่ไปเยือน ซามพ์โดเรีย ทีมเก่าของเขาที่สนามลุยจิ เฟอร์ราริส อินเตอร์ชนะ 4-0 เขาได้รับเสียงโห่จากแฟนบอลเจ้าบ้านแต่เขาก็นิ่งเงียบและยิงประตูนาทีที่ 13 จากการจ่ายบอลของปาลาซิโอ หลังจากนั้นก็ได้รับใบเหลืองจากการแสดงท่าดีใจที่ไม่เหมาะสม

วันที่ 10 พฤษภาคม 2014 เขาได้ลงสนามเกมนัดสุดท้ายของ ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ เป็นเกมที่ อินเตอร์ ชนะ ลาซิโอ 4-1 รักษาพื้นที่ไปเล่นฟุตบอลยูโรป้า ลีกเกมเพลย์ออฟฤดูกาลหน้าด้วย อิคาร์ดี้ ยิงประตูที่สองของ อินเตอร์ นาที่ 37 หลังการจ่ายแอสซิสต์ของ มัตเตโอ โควาซิช และก็วิ่งไปแสดงความยินดีกับ ซาเน็ตติด้วย นับเป็นการลงประเดิมสนามฤดูกาลของ อิคาร์ดี้ โดยเขาลงสนามไป 23 นัด เป็น 22 เกมฟุตบอลลีก และยิงได้ 9 ประตู เฉลี่ยแล้วจะยิงหนึ่งประตูในทุก ๆ 145 นาที

วันที่ 10 มิถุนายน 2014 อินเตอร์ มิลาน และ ซามพ์โดเรีย ที่เป็นเจ้าของ อิคาร์ดี้ ร่วมกันโดยมีค่าตัวที่ 6.5 ล้านยูโร สุดท้ายอินเตอร์ตัดสินใจซื้อขาด อิคาร์ดี้ ทำให้เขากลายเป็นนักตะของอินเตอร์โดยสมบูรณ์แบบ

ฤดูกาล 2014/15

วันที่ 20 สิงหาคม 2014 อินเตอร์ มิลาน ลงสนามเกมแรกของฤดูกาล นัดที่พบสตาร์แนนทีมจากไอซ์แลนด์ เป็นเกมเลกแรกของฟุตบอลยูโรป้าลีก อิคาร์ดี้ ยิงประตูแรกในเกมที่ชนะ 3-0 เป็นประตูแรกของเขาในเกมฟุตบอลสโมสรยุโรป และเกมเลกที่สองที่เล่นที่ซาน ซิโร่ อินเตอร์ชนะได้ 6-0 โดยเขาลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลังยิงได้ สองประตู พาทีมผ่านเข้ารอบในสกอร์ท่วมท้น 9-0

เกมนัดที่สองในลีก วันที่ 14 กันยายน เขายิงประตูแฮตทริกที่สองในเกมฟุตบอลเซเรียอา เมื่อพาทีมชนะ ซาสซูโอโล่ 7-0 สิบวันต่อมา อิคาร์ดี้ เจ็บต้องถูกเปลี่ยนตัวออกนาทีที่ 24 จากการเข้าปะทะกับ ดานี่ ออสวัลโด้ เกมที่เปิดบ้านชนะ อตาลันต้า 2-0 วันที่ 26 ตุลาคม อิคาร์ดี้ ยิงประตูแรกในฟุตบอลเซเรีย อา เป็นครั้งแรกในรอบเดือน เป็นประตูจากจุดโทษพาทีมชนะเชเซน่าและส่งผลให้อินเตอร์ชนะเกมทีมเยือนเป็นครั้งแรกในฤดูกาล เขายิงประตูได้อีกครั้ง นาทีที่ 90 เป็นลูกจุดโทษโดยอินเตอร์ได้ฟาวล์จากจังหวะที่ ซดราฟโก้ คุซมาโนวิช ถูกทำฟาวล์ เกมที่ชนะ ซามพ์โดเรีย 1-0 และทำให้ ซามพ์โดเรีย แพ้เป็นเกมแรกของฤดูกาล 2014/15

วันที่ 9 พฤศจิกายน อิคาร์ดี้ ยิงสองประตู หลังจากการผ่านให้ของ ปาลาซิโอ เกมที่เสมอ 2-2 ต่อ เฮลลาส เวโรน่า ที่บ้านของตนเอง ผลเสมอเกมนี้ วอลเตอร์ มาซซารี่ ถูกปลดออกจากการเป็นผู้จัดการทีม และ โรแบร์โต้ มันชินี่ เข้ามาแทนที่ วันที่ 6 มกราคม 2015 อิคาร์ดี้ ได้ลงสนามเกมแรกของครึ่งฤดูกาลหลัง เขายิงได้หนึ่งประตูเกมที่เสมอ ยูเวนตุส ที่สนาม ยูเวนตุส สเตเดี้ยมโดยยิงประตูนาที 64 จากการแอสซิสต์ของ มิดฟิลด์ชาวโคลอมเบีย เฟรดี้ กัวริน และเกมนั้นเขาเกิดขัดแย้งกับเพื่อนร่วมทีม ออสวัลโด้ ที่ อิคาร์ดี้ พยายามยิงบอลเองทั้งๆที่เพื่อนของเขาอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า จากเหตุการณ์นี้ทำเอา ออสวัลโด้ ย้ายทีมในช่วงปลายเดือนมกราคมเลย ถัดจากนั้นอีก 5 วัน อิคาร์ดี้ ฟอร์มดี ยิงประตูที่สองให้ทีมในจังหวะโอเวอร์เฮดคิกเกมที่ชนะ เจนัว 3-1 ที่ซานซิโร่ โดย ปาลาซิโอ จ่ายบอลมาให้ นัดที่พบ ซาสซูโอโล่ อินเตอร์ แพ้ 1-3 และเขายิงได้หนึ่งประตูในเกมนั้น หลังจากที่กองหลัง ซาสซูโอโล่ทำพลาด

หลังจากเกมนั้น เขาและกัวรินเกิดขัดแย้งกับแฟนบอล ในสนามมาเปอี สเตเดี้ยม พวกเขาขว้างเสื้อให้แฟนบอลแต่แฟนบอลปฏิเสธและโยนเสื้อแข่งกลับคืนมาให้เขา วันที่ 7 กุมภาพันธ์ เขายิงได้สองประตูเกมที่ชนะในบ้านเหนือ ปาแลร์โม่ 3-0 และไม่แสดงอาการดีใจใดๆ เขากล่าวว่าที่เขาไม่ฉลองประตูเพราะว่าเขาผิดหวังกับการกระทำของแฟนบอลและก็ไม่ยอมต่อสัญญาใหม่กับทีมด้วย

วันที่ 11 เมษายน เขาประตูแรกเกมที่ชนะ 3-0 เกมเยือนเหนือ เวโรน่า ช่วยให้ อินเตอร์ ชนะเป็นเกมแรกจากชัยชนะ 6 นัดติดต่อกัน เขายิงประตูได้ในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่ชนะ 4-3 เหนือ เอ็มโปลี และทำให้เขาได้ดาวซัลโวของทีมที่ 22 ประตูเท่ากับ ลูก้า โทนี่ ของ เวโรน่า ถึงแม้ว่าอินเตอร์จะไม่ได้ไปแข่งฟุตบอลสโมสรยุโรปอีกเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ปี 1999 แต่ อิคาร์ดี้ ก็โชว์ผลงานได้อย่างร้อนแรงมาก และได้รับการเซ็นสัญญากับทีมงูใหญ่ต่อไปอีก 4 ปี

เมาโร อิคาร์ดี้ นักเตะมืออาชีพที่แย่งเมียเพื่อน

2015–16 season: Captain

ฤดูกาล 2015/16

ก่อนที่จะออกสตาร์ทฤดูกาลเขา เขาได้รับมอบหมายให้เป็นกัปตันทีม อินเตอร์ มิลาน แทนที่ของ อันเดรีย ราน็อคเคีย ที่เล่นได้ย่ำแย่เมื่อฤดูกาล 2014/15 และเกมแรกของเขากับบทกัปตันทีมก็คือเกมชนะ อตาลันต้า อิคาร์ดี้ ถูกส่งลงสนามแทนที่ของ สเตฟาน โยเวติช (โยโย่ยิงประตูชัยนาทีทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 ) หลังจากนั้น อิคาร์ดี้ ก็เจ็บต้นขาและต้องพลาดการลงสนามเกมที่พบคาร์ปิ แต่ว่าเขากลับมาลงสนามอีกครั้งเกมวันที่ 13 กันยายน เกมที่ชนะมิลาน 1-0 และเขายิงประตูแรกหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บเกมที่ชนะ คิเอโว่ เวโรน่า (ในสัปดาห์ถัดมา) เขายิงประตูให้ทีมคว้าชัยชนะต่อเนื่องเป็นนัดที่ 4 วันที่ 27 กันยายน เขามีชื่อเป็นผู้ทำประตูอีกครั้งเกมที่แพ้ต่อ ฟิออเรนติน่า 1-4 ซึ่งทำให้อินเตอร์แพ้ด้วยสกอร์ขาดลอยที่สุดในฤดูกาลนั้น

หนึ่งเดือนถัดมา เขาลงสนามและยิงประตูเกมที่ชนะ โบโลญญ่า 1-0 จากการแอสซิสต์ของ อาเด็ม ลายิช เขาบ่นว่าเพื่อนร่วมทีมไม่ช่วยส่งบอลให้เขาเท่าที่ควรแต่ว่าเขาก็ออกมาขอโทษต่อเพื่อนร่วมทีมในเวลาต่อมา อิคาร์ดี้ กล่าวออกสื่อว่า 10 นัดที่ผ่านมาผมได้รับโอกาสจากเพื่อนร่วมทีมเพียง 4 ครั้งเท่านั้น แต่ผมสามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ 3 ประตู ผมคิดว่าผมอยากจะได้รับการสนับสนุนมากกว่านี้ และถัดมาเขาเป็นตัวสำรองเกมที่พบ โรม่า อินเตอร์ ชนะ 1-0 หลังเกมนั้นกุนซือโรแบร์โต้ มันชินี่ ลากออกจากทีม และนัดสุดท้ายนั้นเขาปล่อยให้ อิคาร์ดี้ นั่งอยู่บนม้านั่งสำรอง ซึ่งศูนย์หน้ารายนี้กล่าวเสริมว่าเขาต้องการช่วยทีม อย่างไรก็ตามเขาลงสนามสิบเอ็ดคนแรกเกมที่พบ โตริโน่ และ อินเตอร์ ชนะได้ 1-0

วันที่ 22 พฤศจิกายน เขาลงสนามเกมเซเรียอาเป็นนัดที่ 100 ยิงประตูเกม 4-0 เหนือ โฟรซิโนเน่ และเป็นชัยชนะที่มากที่สุดของทีมในฤดูกาลนั้น วันที่ 13 ธันวาคม เขายิงประตูในเกมที่ชนะ อูดิเนเซ่ 4-0 และฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของนักเตะ อูดิเนเซ่ ได้ทั้งสองครั้ง อินเตอร์ลงสนามเกมสุดท้ายของปี 2015 แพ้ต่อ ลาซิโอ 1-2 คาสนามซานซิโร่ แต่ก็ยังจบปีด้วยการเป็นทีมจ่าฝูงในช่วงนั้น อิคาร์ดี้ เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมลำดับที่ 82 จากการจัดอันดับของเดอะ การ์เดี้ยน หนังสือพิมพ์ของอังกฤษ

วันที่ 6 มกราคม 2016 อิคาร์ดี้ ยิงประตูจากการผ่านของ อิวาน เปริซิช จากเสาไกลและเป็นประตูเดียวที่ชนะ เอ็มโปลี ได้ 1-0 เดือนถัดมาวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เขายิงประตูที่ 50 ให้อินเตอร์ในทุกรายการเกมชนะ 1-0 เหนือ คิเอโว่ ที่สนามเหย้าของตัวเอง พาอินเตอร์ชนะเกมลีกเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน เดือนกุมภาพันธ์ 2016 มีรายงานว่าอินเตอร์ปฏิเสธข้อเสนอขอซื้อตัวเขาจากทีมแมนยูฯที่ค่า 30 ล้านยูโร 9 เมษายน เขายิงประตูที่ 50 ในฟุตบอลเซเรียอา ในเกมที่ไปเยือนเอาชนะ โฟรซิโนเน่ 1-0 จากการลงสนามให้อินเตอร์ 100 นัดพอดี

อิคาร์ดี้ ย้ายไปร่วมทีมอินเตอร์

ฤดูกาล 2016/17

อิคาร์ดี้ ออกสตาร์ทเกมแรกเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เกมที่เล่นเกมเยือนชนะ คิเอโว่ ในนัดเปิดสนามฟุตบอลเซเรียอา และยิงประตูแรกในฤดูกาล เกมที่เปิดบ้านเสมอ ปาแลร์โม่ 1-1 วันที่ 11 กันยายน เขายิงได้สองประตูรวมถึงประตูชัยนาทีสุดท้าย ที่ทำให้อินเตอร์มีชัยเหนือทีมน้องใหม่ เปสคาร่า ในสัปดาห์ถัดมา อินเตอร์ พบ ยูเวนตุส อิคาร์ดี้ ยิงประตูตีเสมอนาที 68 และประตูจาก เปริซิช ในอีกสิบนาทีจากนั้นช่วยให้ อินเตอร์ เอาชนะ ยูเวนตุส ได้ในเกมฟุตบอลลีกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2012 และเขายิงได้ 7 ประตูจากการลงสนามพบ ยูเวนตุส 8 นัด (เป็นผู้พิชิตม้าลายตัวจริง) และต่อมาเขาลงสนามเกมชนะ เอ็มโปลี 2-0 ในอีกสามวันถัดมา จากผลงานที่ผ่านไป 6 นัดเขายิงได้ 6 ประตูขึ้นนำเป็นดาวซัลโว และทำให้เขายิงประตู 4 นัดติดต่อกันในฟุตบอล เซเรีย อา

วันที่ 7 ตุลาคม อิคาร์ดี้ เซ็นขยายสัญญากับทีมงูใหญ่ออกไปถึงปี เดือนมิถุนายน 2021และหากทีมไหนจะซื้อเขาต้องจ่ายมาที่ 110 ล้านยูโร และเขาจะได้เงินโบนัส 4.5 ล้านยูโรต่อฤดูกาลบวกกับเงินโบนัสขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของเขา เรื่องของจำนวนประตูและภาพลักษณ์ อิคาร์ดี้ กล่าวว่า ผมมีความสุขมากที่ได้เซ็นสัญญาอยู่กับทีมต่อไปจนถึงปี 2021 ความฝันของผมคือการพาทีมคว้าโทรฟี่แชมป์ ผมได้ยินเรื่องราวต่างๆมากมายในช่วงที่ตลาดนักเตะเปิด แต่สโมสรก็อยู่เคียงข้างผม ผมกับเอเย่นต์รวมถึงวานด้าขอขอบคุณสโมสรที่ต่อสัญญาและดูแลผมเป็นอย่างดี

เขายิงประตูเกมที่ชนะ โตริโน่ 2-1 ที่สนามซานซิโร่ ช่วยให้ อินเตอร์ มิลาน ชนะเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เกม เขายังยิงประตูได้อย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นเกมที่เอาชนะ โครโตเน่ และ ฟิออเรนติน่า ในช่วงปี 2016 อิคาร์ดี้ ยิงประตู ลาซิโอ ช่วงให้อินเตอร์จบปี 2016 ด้วยอันดับที่สวยงาม รวมแล้วเขายิงได้ 14 ประตู 5 แอสซิสต์ และเป็นกองหน้าที่ทรงประสิทธิภาพในท็อฟไฟว์ของลีกฟุตบอลยุโรป เคียงข้างกับสตาร์อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าชาวโปรตุเกส และ ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าชาวอาร์เจนตินา เดอะ การ์เดี้ยนบรรจุให้เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดลำดับที่ 49 ของนักเตะที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในรอบปี 2016

วันที่ 15 มกราคม 2017 อินเตอร์ชนะเกมในบ้านเหนือ คิเอโว่ 3-1 เป็นการชนะ 5 นัดรวดในลีกของอินเตอร์ และเขายิงประตูที่ 15 ในฟุตบอลลีกซีซั่นนี้ เขายิงประตูได้อย่างน้อย 15 ประตู เป็นเวลากว่าสามฤดูกาล เท่ากับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ คริสเตียน วิเอรี่ วันที่ 12 มีนาคม เขายิงแฮตทริกเกมที่พบ อตาลันต้า รวมแล้วเขายิงได้ 20 ประตูในฤดูกาลและสุดท้ายเขายิงได้ 24 ประตูจากการลงสนามเกมลีก 34 นัด ในฤดูกาล 2016/17 และยังยิงประตูในฟุตบอลยูโรป้าลีกได้สองประตูจาก 5 นัด พาทีมอินเตอร์จบอันดับบ๊วยในกลุ่ม K

อินเตอร์ มิลาน ลงสนามเกมแรกของฤดูกาล

ฤดูกาล 2017/18

อิคาร์ดี้ พลาดการลงสนามช่วงปรีซีซั่น หลังจากที่เจ็บเดือนพฤษภาคม เขาก็พร้อมลงสนามเกมเปิดซีซั่น อย่างไรก็ตาม เขาได้ลงสนามเพียง 15 นาทีเท่านั้นเกมที่แข่งกับ ฟิออเรนติน่า และอินเตอร์ชนะได้ 3-0 เขากลับมายิงประตูได้อีกครั้งเกมที่พบ โรม่า เกมนั้นอินเตอร์ชนะ 3-1 ซึ่งเป็นชัยชนะในสนามสตาดิโอ โอลิมปิโก นัดแรกในรอบ 9 ปี ประตูของ อิคาร์ดี้ ยิงได้สวยมาก วันที่ 10 กันยายน อิคาร์ดี้ ยิงประตูจากจุดโทษเกมที่พบ สปอล เขายิงประตูนาที 76 ทำให้เขาติดท็อปเท็นดาวซัลโวของทีม อินเตอร์ มิลาน

ถัดจากนั้น วันที่ 15 ตุลาคม อิคาร์ดี้ ยิงแฮตทริก 3 ประตู เกมที่ชนะคู่แข่งมิลาน 3-2 และทำให้อินเตอร์ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 เขาเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงแฮตทริกเกมดาร์บี้ เดลล่า มาดอนดิน่า นับตั้งแต่ที่ ดิเอโก้ มิลิโต้ ทำได้เดือนพฤษภาคม 2012 วันที่ 18 มีนาคม 2018 เกมที่อินเตอร์ชนะ ซามพ์โดเรีย 5-0 ที่สนามลุยจิ เฟอร์ราริส อิคาร์ดี้ ยิงคนเดียว 4 ประตู (เป็นการยิงแฮตทริกใน 14 นาที) ในฟุตบอลเซเรีย อา ทำให้เขาอยู่อันดับที่หกของดาวซัลโวฟุตบอลเซเรีย อา รวมแล้วสถิติของเขายิงได้ 103 ประตูในเซเรีย อา จากการลงสนามเพียง 180 นัดเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 6 ที่ยิงประตูครบหลักร้อย โดยเขาทำได้เมื่อมีอายุ 25 ปี 27 วัน ประตูที่ 4 ของเขาในนัดนี้เป็นประตูที่ยิงให้อินเตอร์ครบ 100 ประตู จาก 172 นัดของทีม (อยู่ซามพ์โดเรียยิงได้ 3 ประตูจาก 8 นัด)

วันที่ 22 เมษายน อิคาร์ดี้ ยิงประตู 2-1 เกมเยือน คิเอโว่ เป็นเกมลีกประตูที่ 26 ของฤดูกาล เป็นนักเตะคนแรกของอินเตอร์นับตั้งแต่ อันเจลิโล่ เมื่อฤดูกาล 1958/59 ที่ทำได้ถึง 26 ประตู สัปดาห์ต่อมาอินเตอร์ก็แพ้แบบดราม่าต่อ ยูเวนตุส 2-3 ทำให้เขายิงประตูทีมจากเมืองตูรินไปแล้ว 8 ประตูจาก 11 นัด นับว่าถูกโฉลกกับการยิงประตูต่อทีมเมืองตูรินมาก

เกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล ที่อินเตอร์ต้องออกไปเยือน ลาซิโอ อิคาร์ดี้ ทำให้ทีมได้ลูกโทษ และก็ยิงเข้าไปในเกมที่บีบหัวใจ พาอินเตอร์ชนะได้ 3-2 ทำให้จบอันดับที่ 4 ได้ไปเล่นฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2018/19 หลังจากที่มีแต้มเท่า ลาซิโอ แต่ว่าเฮดทูเฮดเหนือกว่า ทำให้ทีมงูใหญ่ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกนับตั้งแต่ปี 2012 โดยยิงได้ทั้งหมด 29 ประตู ได้รางวัลดาวซัลโว ร่วมกับ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ที่ก่อนหน้านี้ อิคาร์ดี้ ยิงได้ 24 ประตูเท่านั้นเมื่อฤดูกาลก่อน เขายิงได้สูงสุดที่ 29 ประตูน้อยกว่า อันโตนิโอ อันเจลิโล่ ที่ยิงได้ 33 ประตูเมื่อฤดูกาล 1958/59

ฤดูกาล 2018/19

อิคาร์ดี้ ออกสตาร์ทด้วยฟอร์มที่เฉื่อยชามาก 6 เกมแรกในฟุตบอลเซเรียอา เขายิงประตูไม่ได้เลย เขาได้รับบาดเจ็บจึงพลาดการลงสนามเกมเยือน โบโลญญ่า เขาได้ลงสนามเกมแรกของฤดูกาลในฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก เกมที่เปิดบ้านชนะสเปอร์ส 2-1 วันที่ 18 กันยายน เป็นจังหวะที่เขายิงประตูวอลเลย์จากระยะ 20 หลา เป็นเกม แชมเปี้ยนส์ลีกกลุ่ม B ซึ่งประตูของเขาได้รับรางวัลประตูยอดเยี่ยมในรอบสัปดาห์นั้นด้วย และเขาเป็นนักเตะคนแรกของอินเตอร์นับจาก อาเดรียโน่ ที่ยิงได้ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกสองเกมแรกที่ได้ลงสนาม (อินเตอร์เพิ่งจะได้ลงสนามเกมแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อฤดูกาล 2018/19 นี้เอง)

เขายิงประตูให้อินเตอร์ชนะสปอล 2-1 อิคาร์ดี้ ยิงประตูที่ 103 ในเซเรียอาให้อินเตอร์ เทียบเท่ากับ คริสเตียน โบโบ้ วิเอรี่ และเป็นนักเตะอันดับที่ 7 ที่ยิงประตูให้อินเตอร์ได้มากที่สุด และหลังจากเกมแรกที่กลับมาจากทีมชาติ อิคาร์ดี้ ก็ยิงประตูชัยให้ อินเตอร์ มิลาน ชนะ 5 นัดรวด และยังเป็นประตูที่ 300 ของสโมสรสำหรับเกมดาร์บี้ เดลล่า มาดอนนิน่า อิคาร์ดี้ยิงประตูที่ 200 ในฟุตบอลเซเรีย อา วันที่ 24 พฤศจิกายน หลังจากลงสนามเป็นตัวสำรองเพียง 13 นาทีสุดท้ายเกมที่ชนะ โฟรซิโนเน่ 3-0

ทีมชาติ ชุดเยาวชน

เดือนเมษายน 2012 อิคาร์ดี้ ได้รับเรียกติดทีมชาติอิตาลี ยู19 เพื่อไปเล่นเกมกระชับมิตรกับอังกฤษ แต่เขาได้ปฏิเสธการเชิญชวนเพราะเขาต้องการลงเล่นให้อาร์เจนตินา วันที่ 26 กรกฎาคม เขาก็ได้ลงสนามให้ชาติบ้านเกิดสมใจ ภายใต้การคุมทีมของโค้ช มาร์เซโล ทรอบเบียนี่ ที่เล่นเกมกระชับมิตรกับเยอรมัน และเขาได้ลงสนามประเดิมในเกมที่คอมเมิร์ซ แบงค์ อารีน่า และรายการอัลคูเดีย ทัวร์นาเม้นต์ที่จัดที่เมืองบาเลนเซีย ในประเทศสเปน เขายิงประตูแรกในนามทีมชาติได้เกมอาร์เจนตินา ยู 20 วันที่ 19 สิงหาคม โดยชนะญี่ปุ่น 2-0 และนัดที่สองเอาชะน 2-1 เหนือตุรกีในอีกสามวันถัดมา ทัวร์นาเม้นต์จบลงด้วยการที่เขาได้ตำแหน่งดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ยิงได้ 3 ประตู

ทีมชาติชุดใหญ่ อิคาร์ดี้

ทีมชาติชุดใหญ่

กุนซือทีมชาติอิตาลี เชซาเร่ ปรานเดลลี่ เคยสนใจจะดึงตัวเขามาเล่นให้อิตาลีด้วยเหมือนกันเนื่องจากว่าเขามีบรรพบุรุษเป็นชาวอิตาลี แต่ว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2013 เขาก็ลงสนามให้ทีมชาติอาร์เจนตินาไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถลงเล่นให้อิตาลีได้ อิคาร์ดี้ กล่าวว่าผมต้องขอโทษต่อแฟนบอลชาวอิตาลีกับโอกาสที่มอบให้ผม ผมต้องขอบคุณ ปรานเดลลี่ เขาเป็นคนที่ดีต่อผมมากแต่ว่าด้วยความสัตย์จริง ผมมีเลือดเนื้อเชื้อไขของอาร์เจนตินาและก็ต้องการลงเล่นให้ชาติบ้านเกิดของผม ซึ่งความฝันจะเล่นให้ทีมฟ้าขาวเป็นความฝันของผมตั้งแต่เด็ก

วันที่ 15 ตุลาคม 2013 เขาลงสนามให้ทีมชาติเป็นนัดแรก ลงมาในนาทีที่ 82 เป็นตัวสำรองของ ออกุสโต้ เฟอร์นานเดซ เกมที่แพ้เกมเยือนต่ออุรุกวัย 2-3 เกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก

เดือนเมษายน 2016 อิคาร์ดิ้ ติดทีมชาติในยุคของ เกราร์โด้ มาร์ติโน่ เพื่อเข้าแข่งขันฟุตบอลโคปา อเมริกา และยังมีชื่อเขาแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิกเกมส์ที่ ริโอ เดอ จาไนโร ด้วย แต่ว่าทีม อินเตอร์ มิลานตัดสินใจไม่ส่งเขาไปร่วมเล่นรายการโอลิมปิก เกมส์

เดือนตุลาคม 2016 มีข่าวว่าเขาถูกต่อต้านไม่ให้เข้าทีมชาติอาร์เจนตินาจาก ลิโอเนล เมสซี่ เพราะว่า เมสซี่ ก็เป็นเพื่อนสนิทกับ มักซี่ โลเปซ ด้วย แต่ว่าสุดท้ายกุนซือของทีม เอดูอาร์โด้ เบาซ่า ก็ยังเรียกชื่อเขาไปติดทีมชาติอาร์เจนตินาในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2018 เพียงสองนัดเท่านั้น ในนัดที่พบบราซิลและโคลอมเบียเมื่อเดือนพฤศจิกายน

วันที่ 19 พฤษภาคม 2017 อิคาร์ดี้ ได้รับเรียกให้ไปติดทีมชาติอาร์เจนตินา เป็นครั้งแรกในรอบกว่าสามปี ภายใต้การทำงานของกุนซือคนใหม่ ฮอร์เก้ ซามเปลี เกมกระชับมิตรกับทีมชาติสิงคโปร์เมื่อเดือนมิถุนายน

เดือนพฤษภาคม 2018 อิคาร์ดี้ มีชื่อติดทีมชาติอาร์เจนตินา 35 คน ที่จะไปรัสเซีย แต่อย่างไรก็ตามเขาก็หลุดโผ 23 คนที่จะไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจนได้ภายใต้การคุมทีมของโค้ช คริสเตียน ปาวอน

อิคาร์ดี้ ยิงประตูในนามทีมชาติชุดใหญ่ วันที่ 20 พฤศจิกายน เกมกระชับมิตรที่บ้านของตัวเองเกมที่พบเม็กซิโก เป็นเกมที่ อาร์เจนตินา ชนะ 2-0 ประตูที่เขายิงได้เพียง 71 วินาทีและเป็นประตูที่เร็วที่สุดอันดับ 4 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลของอาร์เจนตินา

สไตล์การเล่น อิคาร์ดี้

สไตล์การเล่น

ชื่อเล่นของ เมาโร อิคาร์ดี้ คือ เอล นิโน เดล ปาร์ติโด้ แปลว่า ไอ้สัตว์ร้ายแห่งกรอบ 18 หลา เขาเป็นคนที่เร็ว ฉลาด มีร่างกายที่แข็งแรง มีเทคนิคดี เคลื่อนที่หาตำแหน่งได้ดี และมองเป้าที่การยิงประตูตลอดเวลา เขามักจะเล่นกลางสนามหรือเป็นกองหน้าตัวเป้ามากกว่าจะเล่นปีก โหม่งบอลก็ดี ยิงได้ดีทั้งสองเท้า และจบโอกาสไม่เปลือง แต่สิ่งที่แย่ของเขาก็คือเรื่องส่วนตัวนั่นแหละ ที่ไปเป็นชู้กับเมียเพื่อน และข้อเสียคือเขามักจะไม่ค่อยลงมาช่วยเกมรับเท่าไหร่นัก แต่ว่าพอมาช่วงหลังเขาถูกถ่างออกไปเล่นริมเส้นมากขึ้น เขาเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงทีเดียวในวงการฟุตบอล นิตยสารดอน บาลอน ยกย่องให้เขาเป็นนักเตะดาวรุ่ง ท็อป 100 ที่น่าจับตามอง (ซึ่งเกิดหลังจากปี 1992)

สเตฟาโน่ อิคาร์ดี้ กล่าวถึง อิคาร์ดี้ ว่า เขาเป็นสัตว์ป่าในกรอบเขตโทษ และมักจะยืนอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ นักเตะแชมป์โลกปี 1982 เปาโล รอสซี่ กล่าวว่าในเกมที่อึดอัด เขาสามารถสร้างโอกาสและสร้างความแตกต่างให้ทีมได้ เขาเหมือนกับเป็นกองหน้าเพชฌฆาตโดยแท้ กุนซือ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ กล่าวว่า เขาเป็นกองหน้าที่ครบเครื่อง เขาสามารถแบกความหวังของทีมได้ และเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก (จากการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนมกราคม 2015) อิคาร์ดี้ กล่าวว่าเขามี กาเบรียล บาติสตูต้า เป็นไอดอล แต่ช่วงที่อยู่บาร์ซ่าเขาก็อยากเล่นให้ได้แบบ ซามูเอล เอโต้ ด้วย
ชีวิตส่วนตัว

อิคาร์ดี้ แต่งงานกับ วานด้า นาร่า ซึ่ง นารา เคยเป็นภรรยาของ มักซี่ โลเปซ มาก่อน แต่ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ทำให้เกิดความร้าวฉานระหว่างตัวเขาและ มักซี่ โลเปซ ซึ่ง นารา กับ โลเปซ หย่าร้างกันในเดือนธันวาคม 2013 นารา และ อิคาร์ดี้ แต่งงานกันวันที่ 27 พฤษภาคม 2014 หลังจากหย่าร้างกับ โลเปซ ได้ไม่นาน เขามีครอบครัวเล็กๆอยู่ที่บูเอโนส ไอเรส กับลูกสาวสองคน ฟรานเชสก้า เกิดวันที่ 19 มกราคม 2015 และ อิซาเบลล่า เกิดวันที่ 27 ตุลาคม 2016

การแต่งงานของเขากับ วานด้า สร้างความไม่พอใจให้แฟนบอลที่อาร์เจนตินามากมาย และชื่อของเขาก็ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์อยู่หลายวัน มันเป็นการโต้เถียงกันว่าเขาทำแบบนี้ถูกศีลธรรมหรือไม่ และเป็นเหตุให้คนอาร์เจนตินาไม่อยากให้เขามาเล่นกับทีมชาติ เพราะเป็นการเสื่อมเสียต่อประเทศชาติด้วย และขนาดว่า ดิเอโก้ มาราโดน่า ตำนานนักเตะของฟ้าขาวยังไม่อยากให้เขาเข้าทีมฟ้าขาวด้วย และเกมที่ ซามพ์โดเรีย พบ อินเตอร์ โลเปซ เป็นฝ่ายปฏิเสธที่จะจับมือกับ อิคาร์ดี้ ในเดือนเมษายน 2014 แต่หลังจากนั้น อีกสองปีต่อมา โลเปซ ก็โคจรมาพบ อิคาร์ดี้ อีกครั้งในสีเสื้อ โตริโน่ ซึ่ง โลเปซ ก็ไม่จับมือกับ อิคาร์ดี้ อีกเช่นกัน

อิคาร์ดี้ จริงๆแล้วมีบรรพบุรุษเป็นชาวอิตาลี เขาได้นามสกุล อิคาร์ดี้ มาจาก เปียมอนต์ และ ดา เมเซน จากเมืองเวนิซ เขาได้รับพาสปอร์ตของอิตาลีด้วย และมีชื่อในเกม FIFA 16 โดยขึ้นเป็นปกซีดีร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ วันที่ 6 ธันวาคม 2015 อิคาร์ดี้ ใจดีซื้อนาฬิกา ยี่ห้อ Hublot ราคาเรือนละ 29000 ปอนด์ให้เพื่อนร่วมทีมหลังจากเกมที่ชนะเจนัว 1-0

วันที่ 11 ตุลาคม 2016 อิคาร์ดี้ เขียนหนังสืออัตชีวประวัติของเขา ที่เรียกว่า Sempre Avanti (Always Forward) โดยหนังสือบรรยายถึงเหตุการณ์ที่เกิดต่อแฟนบอลอินเตอร์ และเรื่องราวที่นำไปสู่การแบนและบีบบังคับให้เขาต้องออกจากสโมสร มีอยู่ในหนังสือเล่มนี้

เมาโร อิคาร์ดี้ เป็นนักเตะกองหน้าตัวเป้าขนานแท้ และมีสัญชาตญาณในการยิงประตูในกรอบเขตโทษที่ดีมาก แต่ว่าเรื่องเกมรับและการควบคุมอารมณ์บางครั้งยังเป็นปัญหาของเขาอยู่ และจากการที่มีเรื่องอื้อฉาวนอกสนามฟุตบอลทำให้เขาไม่มีโอกาสแจ้งเกิดในเกมฟุตบอลทีมชาติเลย

อิคาร์ดี้ ยิงประตูในนามทีมชาติชุดใหญ่