เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนติน่า ยอมรับว่าเขาอยากกลับไปสู่โลกของผู้จัดการทีมในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้ง หลังจากโดน “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ปลดออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
โค้ชวัย 47 ปี กำลังผ่อนคลายเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันของเขาหลังจากหยุดพักจากโลกลูกหนังมาเป็นเวลา 3 เดือน แต่มันก็เป็นที่ชัดเจนว่า เขามีความใฝ่ฝันที่จะกลับไปคุมทีมอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
โปเช็ตติโน่ อยู่ยังคงผ่อนคลาย และดูสนุกสนานในระหว่างที่เขาเป็นแขกรับเชิญในรายการ “In The Pink” ของ “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดี อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเขาดูเป็นประกายทันทีเมื่อพูดถึงการกลับมาสู่วงการฟุตบอลอังกฤษอีกครั้ง
อดีตเทรนเนอร์ สเปอร์ส มีความซื่อสัตย์เพียงพอที่จะไม่พูดถึงชื่อของสโมสรที่เชื่อมโยงกับเขาในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเวลานี้บรรดาทีมเหล่านั้น มีผู้จัดการทีมอยู่ในตำแหน่งแล้ว
โปเช็ตติโน่ เริ่มกล่าวว่า “ด้วยความสัตย์จริงผมชอบที่จะทำงานในพรีเมียร์ลีก แต่มันจะเป็นเรื่องยากในเวลานี้ ผมรู้ดีและตอนนี้มันเป็นเวลาที่ต้องรอแล้วเราจะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น มันเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูเพื่อคิดเกี่ยวกับตัวเองสักหน่อย และเตรียมพร้อม
“เพราะทุกวันนี้ในวงการฟุตบอลมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ และคุณต้องพร้อม ซึ่งผมพร้อมแล้วและรอการท้าทายใหม่ ผมมีความเชื่อมั่นในตัวเอง และมั่นใจว่าการท้าทายครั้งต่อไปจะเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์สำหรับผม” โค้ชชาวอาร์เจนไตน์ กล่าว
โปเช็ตติโน่ โดน สเปอร์ส ปลดจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จากรายงานของ บ้านผลบอล หลังจากนั้น เขาใช้เวลาในการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง และมองหาบรรดาสโมสรต่างๆที่ให้ความสนใจในการดึงตัวเขาไปกุมบังเหียน
“ผมอยู่ในอาร์เจนตินา กาตาร์ สเปน และผมมี เฆซุส เปเรซ ผู้ช่วยของผมซึ่งติดตามข่าวบ้างเล็กน้อย แต่ประเด็นหลักที่ผมสังเกตเห็นก็คือ ข่าวลือ โค้ชทุกคนยอมรับว่าเราต้องเจอกับข่าวลือ และผมก็จัดการกับข่าวลือไปตามปกติ”
“คนทุกคนต้องการเป็นตัวของตัวเอง และเป็นคนที่ใช้ชีวิตได้ตามปกติ เราไม่ได้บอกว่าเรามีลักษณะเฉพาะ แต่เราไม่ใช่นักแสดงละคร ซึ่งเราจะไม่ทำอะไรที่เราไม่เชื่อมั่น” โปเช็ตติโน่ กล่าว
มันเป็นเวลากว่า 5 ปีที่ความเชื่อดังกล่าวฝังตัวอยู่ในวัฒนธรรมแห่งชัยชนะที่ สเปอร์ส มันอาจจะมีความรู้สึกเสียใจอยู่เสมอว่าปรัชญาเชิงบวกดังกล่าวไม่เคยไปสู่แชมป์แม้แต่รายการเดียว แต่ โปเช็ตติโน่ เป็นคนนำทางในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ “ไก่เดือยทอง” และบทบาทของเขาในนั้นยังคงเป็นความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่
อดีตโค้ช สเปอร์ส กล่าวต่อว่า “แน่นอนว่าผมรู้สึกภาคภูมิใจมากกับทุกสิ่งที่ผมทำที่ ท็อตแน่ม และเมื่อผมวิเคราะห์เวลาของผมที่นั่น ผมคิดว่ามันมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นมากมาย ผมมาคุมทีมในช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับสโมสร”
“ทุกสิ่งที่ผมทำมันอาจเป็นช่วงเวลาที่กังวลมากในช่วงนั้น สโมสรกำลังทุบ ไวท์ ฮาร์ท เลน และสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่ เราต้องไปเล่น เวมบลีย์ ซึ่งมีเพียงคนในวงการฟุตบอลเท่านั้นที่รู้ว่า มันยากแค่ไหนในการจัดการกับสถานการณ์เหล่านี้”
“การใช้ปรัชญาใหม่ และความคิดใหม่นั้นยากมาก แต่ผมรู้สึกภาคภูมิใจกับความสำเร็จที่เรามี และนำ ท็อตแน่ม ก้าวไปสู่อีกระดับหนึ่ง การได้ไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นเวลา 3-4 ปี และสำเร็จเหนือ อาร์เซน่อล หลายครั้งเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา”
“แน่นอน การคว้าแชมป์เป็นเรื่องยอดเยี่ยม และมันเป็นของขวัญชิ้นโตสำหรับทุกคนในสโมสร แต่การได้สนามกีฬาแห่งใหม่นั้น ผมคิดว่ามันยิ่งใหญ่กว่าการคว้าแชมป์เสียอีก” โปเช็ตติโน่ กล่าว
โปเช็ตติโน่ มาคุมทีมในอังกฤษเป็นครั้งแรกในเดือนมกราคมปี 2013 ด้วยการเป็นกุนซือของ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน แต่ก่อนหน้านั้น ในสมัยยังเป็นนักเตะเขาเคยเกือบได้ย้ายมาเล่นในเมืองผู้ดีอยู่แล้วหลังจากที่ ฟลอร็อง ราโดโชยู กองหน้าโรมาเนีย ซึ่งเป็นเพื่อนรวมทีม เอสปันญ่อล นั้น ย้ายมาเล่นกับ เวสต์แฮม ในปี 1996
อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้น โปเช็ตติโน่ ยังดูไม่สนใจพรีเมียร์ลีกมากนัก เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว และการย้ายมาเล่นในเมืองผู้ดีนั้น ดูวุ่นวาย และเขาต้องรอเวลาเกือบ 2 ทศวรรษ ถึงได้สัมผัสบรรยากาศฟุตบอลอังกฤษในฐานะโค้ช
โปเช็ตติโน่ เล่าต่อว่า “ผู้จัดการทีมหนุ่มชาวอังกฤษทุกวันนี้มีอิทธิพลในยุโรปอย่างมาก ก่อนหน้านี้ฟุตบอลอังกฤษเหมือนถูกปิดกั้น มันเป็นการยากที่จะแบ่งปัน และผสมผสานวัฒนธรรมที่นั่น แต่หลังจากนั้นโค้ชชาวยุโรปมีอิทธิพลมากขึ้น ผู้คนเปิดรับคนวิ่งมากขึ้นในการค้นพบฟุตบอลแนวทางต่างๆ”
“เมื่อผมมาถึง เซาแธมป์ตัน เป็นครั้งแรก ผู้เล่นจะบอกว่าคุณต้องเล่นบอลยาวตัดหลังฟูลแบ็คคู่แข่ง และต้องใช้วิธีแบบนี้เสมอ และเมื่อผมต้องการเปลี่ยนความคิดพวกเขามันก็เป็นเรื่องยาก แต่คุณสามารถเห็นสไตล์ที่แตกต่างในฟุตบอลอังกฤษได้ในตอนนี้ และทำให้พรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลก” อดีตนายใหญ่ “ไก่เดือยทอง” กล่าว
องค์ประกอบสำคัญของสิ่งที่ทำให้ โปเช็ตติโน่ ประสบความสำเร็จคือความเชื่อของเขาในการเปิดรับพลังงาน ซึ่งมันเป็นความเชื่อภายในที่เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนตินาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตตั้งแต่เด็กมาจนถึงตอนนี้
โปเช็ตติโน่ กล่าวว่า “ผมเชื่อในพลังงานนี้มาเสมอ เมื่อคุณฝันและคุณคิดว่า คุณจะหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่จะหาอะไรซักอย่าง พลังงานจะช่วยให้คุณค้นพบมัน ผมไม่รู้ว่ามีใครใส่ความคิดนี้ไว้ในสมองของผมหรือมันเป็นความคิดของผมเอง แต่มันอยู่ที่นั่นแล้ว พลังงานมีส่วนสำคัญ แต่คุณต้องเชื่อเท่านั้น มันเกี่ยวกับว่าเชื่อหรือไม่ และถ้าคุณไม่ต้องการเห็นพลังงานนี้ มันก็จะหายไป”
เวลาจะบอกได้ว่า สโมสรในพรีเมียร์ลีกใดๆ มีการตัดสินใจในการแต่งตั้ง โปเช็ตติโน่ มาคุมทีม และนำพลังงานของเขากลับมาสู่โลกฟุตบอลอีกครั้ง และหากไม่มีข้อเสนอจากพรีเมียร์ลีก เขาก็จะพิจารณาถึงโอกาสในการย้ายไปทำงานในประเทศอื่น แต่มันในทางปฏิบัติดูเหมือนว่ามันจะไม่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนที่ได้ยึดมั่นในวัฒนธรรมฟุตบอลของเมืองผู้ดีไปแล้ว
“ถ้าย้ายไปทำงานในประเทศอื่นในทวีปยุโรป ผมคงคิดถึงอังกฤษมากๆ” โปเช็ตติโน่ กล่าวทิ้งท้ายพร้อมกับรอยยิ้ม
