งานนี้ยังไงก็ต้องเป็นข่าวช็อกเมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์เท้าชั่งทองแห่งทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับโชคร้ายสุด ๆ เมื่อมีรายงานข่าวออกมาว่าเขาได้รับบาดเจ็บถึงขั้นอาจโดนพักแข้งหลายเดือนกว่าจะกลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง แถมอาการดังกล่าวดันมาเป็นช่วงเวลาที่ปิดตลาดซื้อขายนักเตะพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปแล้วด้วย ส่อแววอาถรรพ์แชมป์เก่าจะเล่นงานตั้งแต่เพิ่งเริ่มแข่งไปได้แมตช์เดียวจริง ๆ
ต้องบอกว่าเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ดาวเตะชาวเบลเยียมผู้นี้เปรียบได้กับหัวใจในแดนกลางแห่งทัพ “เรือใบสีฟ้า” ในการขับเคลื่อนเกมไปข้างหน้าได้อย่างกระชากใจสุด ๆ สถิติบ่งบอกว่านับตั้งแต่เขาย้ายมายังถิ่นเอติฮัตส์ สเตเดี้ยม แห่งนี้ เขาสามารถสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนยิงไปแล้วได้ถึง 43 ครั้ง เมื่อนับเวลาจริง ๆ ตั้งแต่เขาย้ายมาเมื่อช่วงเดือนกันยายนปี 2015 เท่ากับว่าใช้เวลาแค่ 2 ปีกว่า ๆ เกือบ 3 ปีเท่านั้น ถือว่าเยอะมาก เมื่อหาค่าเฉลี่ยแล้ว สถิติสูงต่อซีซั่นถึง 15 แอสซิสต์กันเลยทีเดียว อีกทั้งเขายังทำประตูได้ถึง 21 ลูก ในลีกจากการลงเล่น 91 นัด ถือว่าไม่ธรรมดามาก ๆ สำหรับตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ประจำทีม โดยเขารั้งอยู่อันดับ 6 ในฐานะนักเตะแดนกลางที่ทำประตูได้มากที่สุด โดยเมื่อซีซั่นก่อนเขาทำแอสซิสต์ไปถึง 16 ครั้ง ซึ่งใกล้เคียงสถิติเฉลี่ยที่ได้บอกไว้ก่อนหน้านี้เลย
คราวนี้ถึงเวลาปวดหัวของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อย่างเป็นจริงเป็นจังแน่กับการขาดจอมทัพไปแบบนี้ คำถามที่แฟนบอลสนใจคือใครจะเข้ามาแทนตำแหน่งของเขา ในเกมแรกก่อน เดอ บรอยน์ ลงสนาม นั่นเป็นหน้าที่ของ แบร์นาโด ซิลวา อีกทั้งเมื่อ ดาบิด ซิลบา ลงสนามกลับมาเต็มที่ ใครจะเข้าขากับเขาได้ดีเหมือน เดอ บรอยน์ บางทีอาจถึงเวลาของดาวรุ่งอย่าง ฟิล เด้น ก็ได้เหมือนกัน ขณะที่เมื่อหันกลับไปมองรายชื่อคนที่น่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงอาจต้องใช้บริการของ อิลคาย กุนโดกัน ดาวเตะชาวเยอรมันเข้ามาแทนที่ หรือไม่บางที เป๊ป อาจตัดสินใจใช้กลางรับ 2 ตัว แล้วทิ้ง ซิลบาให้เล่นเป็นกลางตัวรุกอิสระเพียงตัวเดียว เทียบข้างด้วยปีกความเร็วสูง หรือบางทีเราอาจเห็นหน้าคู่จาก เป๊ป ก็ได้อีกเหมือนกัน
คงต้องรอดูบอลต่อไปว่าเมื่อหัวใจของทีมขาดหายไป อวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายจะทำงานได้อย่างเป็นระบบมากแค่ไหน เรียกว่าแฟนบอลทีมอื่นอาจรู้สึกดีใจที่เป็นแบบนี้ แต่สำหรับแฟนเรือใบมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะไม่รู้ว่าการขาดหายไปของเขาจะสร้างรอยร้าวให้กับทีมได้มากแค่ไหน
