เชลซี … เกิดอะไรขึ้นกับอดีตราชันย์แห่งกรุงลอนดอนทีมนี้

ทุกคนก็คงจะได้เห็นแล้วว่า เชลซี อดีตทีมยักษ์ใหญ่ของอังกฤษตอนนี้มีสภาพทีมเป็นแบบไหน พวกเขาร่วงไปอยู่ในพื้นที่อันดับ 9 ของตารางซะแล้ว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ยังรั้งอยู่ในพื้นที่อันดับต้นๆของตารางพรีเมียร์ลีกเสียด้วยซ้ำในฤดูกาลนี้พวกเขาเสริมทัพมากมาย แต่เหมือนกลับกลายเป็นว่า ทองที่พวกเขาติดเอาไว้ชักจะเริ่มลอกออกมาเรื่อยๆแล้ว แน่นอนว่ามันก็คงจะเป็นคำถามที่ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับยอดทีมแห่งพรีเมียร์ลีกทีมนี้

ความสามารถของแลมพาร์ดยังไม่ถึงขั้น

ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม มันอาจจะเร็วเกินไปสำหรับตัวของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมมือใหม่ที่โดดเข้ามารับงานคุมทีม เชลซี แบบเร่งด่วนหลังจากที่สโมสรได้ยกเลิกสัญญากับ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ไปเมื่อช่วงปลายฤดูกาล 2018-19 และตัวของ แลมพาร์ด ที่มีประสบการณ์แค่ในการคุมทีมอย่าง ดาร์บี้เคาน์ตี้ ในแชมเปี้ยนชิพ มันอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการคุมทีมเชลซีที่ได้ชื่อว่าเป็นทีมที่ต้องไปเล่นบอลถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกเท่านั้นความกดดันจาก โรมัน อับราโมวิช เจ้าของสโมสรที่ไม่ค่อยมีความอดทนกับผู้จัดการทีมเท่าไหร่ เขาคงไม่สนใจแลมพาร์ดแน่นอนว่าจะเป็นตำนานกองกลางของทีมมาก่อน แต่ในเวลานี้แลมพาร์ดมีสถานะเป็นผู้คุมทีม ก็จะต้องทำให้ทีมมีแชมป์ติดมือเท่านั้นไหนจะความกดดันจากแฟนบอล และที่สำคัญคื“คลื่นใต้น้ำ” ที่อาจจะเกิดจากนักเตะที่เริ่มไม่พอใจผลงานของเขา มันอาจจะทำให้เขาเริ่มจะอยู่ยากขึ้น

นักเตะหน้าใหม่หลายคนยังหาตำแหน่งที่ลงตัวไม่เจอ

คุณก็ได้เห็นแล้วว่า เชลซี ทุ่มเงินเพื่อซื้อนักเตะตำแหน่งตัวรุกมาร่วมทัพมากมายหลากหลายคนเลยทีเดียว ไล่ตั้งแต่ตัวของ ไค ฮาแวร์ตซ์ , ติโม แวร์เนอร์ และสุดท้ายก็คือตัวของ ฮาคิม ซีเยชในรายของ ซีเยช ดูเหมือนว่าเขาจะลงจตัวแล้วกับบทบาทปีกขวาที่เน้นการลากตัดเข้าในด้วยด้วยเท้าซ้าย เพื่อเลือกเปิดให้เพื่อนหรือยิงเองก็ได้ แต่ที่เป็นปัญหาคือ แวร์เนอร์ และตัวของ ฮาแวร์ตซ์ มากกว่าด้วยระบบ 4-3-3 มีบางครั้งที่ แลมพาร์ด จับเอา แวร์เนอร์ ไปเล่นทางซ้ายบ้าง ตรงกลางบ้างสลับไปสลับมาจนทำให้เจ้าตัวเริ่มสับสน รวมถึงยังเริ่มขาดความมั่นใจในการยิงประตูไปเรื่อยๆส่วนตัวของ ฮาแวร์ตซ์ ที่ปกติเล่นในบทบาทหมายเลข 10 เมื่อเล่นในระบบ 4-3-3 ก็ไม่มีตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกหมายเลข 10 ให้เจ้าตัวเล่น จนต้องโดนจับไปเล่นกองกลางทางซ้ายบ้าง หรือปีกบ้าง และแน่นอนว่าเขาเองก็เริ่มทำผลงานได้แย่ลงเรื่อยๆส่วนรายของ ธิอาโก้ ซิลวา ที่ตอนแรกนั้นเล่นได้เข้ากับ เกิร์ต ซูม่า ในแนวรับอย่างสุดๆ แต่อย่าลืมว่า ซิลวา อายุ 35 ปีแล้ว การยืนระยะคงจะไม่สามารถหวังผลในระยะยาวได้แน่นอน ถ้าหากเชลซีไม่รีบหากองหลังที่มีอายุการใช้งานยาวๆมาใช้งานล่ะก็ พวกเขาอาจจะเจอปัญหาที่มากกว่านี้

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ หมดแล้ว …

คงไม่มีใครกล้าเถียงแน่นอนว่ามิดฟิลด์ตัวรับที่เคยวิ่งไล่ตัดเกมคู่แข่งอย่างเด็ดขาดแบบตัวของ ก็องเต้ ที่เคยพาทีมเลสเตอร์และเชลซีได้แชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้ว 2 ปีติดต่อกัน ในเวลานี้เขาแทบจะหมดแล้วในระยะหลังมานี้ ก็องเต้ เริ่มมีอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง อีกทั้งในช่วงเวลาที่เจ้าตัวโดนจับไปเล่นเป็นตัวรุกด้านขวาเพื่อเปิดโอกาสให้ จอร์จินโญ่ เล่นเป็นตัวเรจิสต้าหน้าแผงหลัง มันก็เหมือนเป็นการทำลายสมรรถภาพในการเล่นของก็องเต้ไปด้วยในช่วงหลังมานี้ เจ้าตัวเข้าปะทะ เข้าเบียดแย่งเริ่มไม่ไหวแล้ว และแน่นอนว่าการเล่นของก็องเต้ที่เหล่านักเตะฝั่งตรงข้ามเริ่มจับทางได้ มันก็ยิ่งทำให้เกมแดนกลางของเชลซีเริ่มจะมีอาการป้อแป้มากขึ้น และเมื่อกลางรับไม่สามารถสกรีนคู่แข่งได้ โอกาสที่แนวรับจะเจออันตรายจากเกมรุกของคู่ต่อสู้ก็ย่อมมีตามไปด้วยไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าเชลซีจะกลับมาได้หรือไม่ แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้ถ้าเราพูดแบบไม่เกรงใจ “มันยากจริงๆ”