การมาถึงของ เจดอน ซานโช่ ที่ได้เซ็นสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นดีลการซื้อตัวนักเตะที่ยืดเยื้อที่สุดและสำคัญที่สุดเท่าที่สโมสรแห่งนี้จะลงมือทำ นับตั้งแต่เมื่อ 17 ปีก่อนที่สโมสรทำการเซ็นสัญญากับ เวย์น รูนีย์ มาอยู่กับทีมในปี 2004คุณคิดว่ามันมีกลิ่นอายคล้ายคลึงกันบ้างหรือไม่ล่ะ ระหว่างเคสของ ซานโช่ กับตัวของรูนีย์ ในเวลานั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณลองพิจารณาว่าในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยจ่ายเงินเป็นสถิติโลกเพื่อเซ็นสัญญากับ ปอล ป็อกบา กลับมาอยู่กับทีมอีกครั้ง , พยายามอุ้มชูและพัฒนาฝีมือของ ดาบิด เด เกอา มาเป็นเวลาสิบปีจนเขากลายเป็น 1 ในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกและ ณ จุดหนึ่งสโมสรก็เคยพยายามเซ็นสัญญากับนักเตะอย่าง เนมานย่า วิดิช, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และคนอื่นๆ อีกมาก จนทำให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาได้นับไม่ถ้วน ทั้งหมดนี้มีค่าตัวรวมๆ 1.4 พันล้านปอนด์เท่านั้นแต่สำหรับความตั้งใจของยูไนเต็ดในครั้งนี้ พวกเขากล้าที่จะวัดใจกับการเซ็นสัญญากับ ซานโช่ ที่กล่าวได้ว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ดูหืดจับมากที่สุด อาจจะหืดมากกว่าผู้เล่นระดับตำนานรุ่นก่อนๆด้วยซ้ำ เพราะนี่คือการเซ็นสัญญากับนักเตะคุณภาพสูงที่ไม่เพียงแค่ว่าเขาจะนำพายูไนเต็ดพัฒนาจนลุ้นแชมป์แค่ในปีนี้เท่านั้น แต่พวกเขามองไกลไปถึง 10 ปีข้างหน้าด้วยด้วยวัยแค่ 21 ปี เป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่กล้าเล่นกล้าลุย และมีสถิติการยิงและแอสซิสต์ในระดับที่น่าชื่นชม เขาเป็นผู้เล่นที่มีศักยภาพสูงในการจะพัฒนาชนิดที่
คุณไม่กล้าแตะต้องเขาแน่นอน
เขาใจเด็ดแค่ไหนล่ะ ก็อย่างน้อยครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปตั้งแต่เมื่อตอนเขาอายุ 17 ปีเพื่อไล่ล่าความฝันในการลุ้นได้โอกาสลงเล่นให้กับทีมชุดแรกของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเยอรมนียังไงล่ะ แล้วก็โชคดีสำหรับซานโช่ที่เขาพิสูจน์ตัวเองได้ ว่าเขาทำได้ด้วยช่วงเวลา 3 ฤดูกาลเต็มที่เขาระเบิดฟอร์มเก่งกับ ดอร์ทมุนด์ เขาน่าจะเป็นหนึ่งในปีกที่ดีที่สุดในโลกไปแล้ว และไม่ว่าเขาจะเหมาะกับแผนการเล่นประจำทีมชาติอังกฤษของแกเร็ธ เซาธ์เกตในยูโร 2020 หรือไม่ก็ตาม แต่เขาก็ได้ลงเล่นต่อหน้าทั้งสื่ออังกฤษ สื่อเยอรมันและแฟนบอลมากมายมาอย่างเต็มอิ่มแล้วในขณะที่ยังเล่นในบุนเดสลีกา เขาฝึกฝีเท้าของเขาอย่างเงียบๆ ในลีกที่ขึ้นชื่อในด้านการให้โอกาสผู้เล่นอายุน้อย จนเขากลายเป็นอีก 1 ว่าที่ปีกระดับโลกซานโช่ไม่เพียงแต่พัฒนาขึ้นเท่านั้น แต่เขายังแสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมออย่างไม่น่าเชื่อ จากการลงเล่น 92 เกมในบุนเดสลีกา เขาทำไปถึง 37 ประตู และเปิดบอลให้เพื่อนกระทุ้งอีก 41 แอสซิสต์ สถิติที่น่าเหลือเชื่อเหล่านี้ คุณลองจินตนาการสิว่าถ้าเขาทำอย่างนั้นได้บ้างในพรีเมียร์ลีก มันคงสุดยอดไปเลย
เทียบกับรุ่นสมัยของการดีลคว้าตัว รูนีย์ ในปี 2004
อย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้จับตาดูฟอร์มการเล่นของ ซานโช่ มาตลอดสองปีที่ผ่านมานี้ มันก็เป็นระยะเวลาที่ใกล้เคียงกับเมื่อครั้งที่พวกเขาติดตามดูฟอร์มของ รูนีย์ ในสมัยเป็นดาวรุ่งในช่วงต้นทศวรรษ 2000 เช่นกัน“ปีศาจแดง” ได้ติดตามเช็คฟอร์มของ ซานโช่ อยู่ห่างๆ ก่อนที่จะรอเวลาที่เหมาะเจาะเพื่อที่จะได้ทำการเจรจาข้อตกลงให้ลงตัว แล้วก็ยอมรับว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินเกมเหมือนครั้งที่พวกเขาเอาตัว รูนีย์ มาจากเอฟเวอร์ตันในปี 2004 เป็นอย่างมาก ช่วงเวลา 2 ปีสุดท้ายของ รูนีย์ กับทีมเอฟเวอร์ตันนั้นยอดเยี่ยมมาก เขาฝากประตูสุดสวยเอาไว้มากมายก่อนจะย้ายไปเป็นตำนานของยูไนเต็ดในท้ายที่สุดเมื่อทั้งสองทีมเคลียร์กันลงตัวว่ากันว่า ดอร์ทมุนด์ อดทนกับดีลนี้มาก พวกเขาไม่ยอมเสียเปรียบ และต้องการที่จะให้กองหน้าริมเส้นรายนี้ทำเงินให้กับพวกเขาได้มากที่สุดในตอนนี้ ซานโช่ ก็ได้เซ็นสัญญา 5 ปีกับทีมในที่สุด แต่เขาจะสามารถทำให้ตัวเองไปถึงระดับที่ รูนีย์ หรือนักเตะคนอื่นๆในสโมสรเคยสร้างตำนานเอาไว้ได้หรือไม่ มันก็อยู่ที่เขาล้วนๆแล้ว
