ฮาคิม ซิเย็ค จากนักฟุตบอลข้างถนนสู่การเซ็นสัญญากับ เชลซี

ฮาคิม ซิเย็ค จากนักฟุตบอลข้างถนนสู่การเซ็นสัญญากับ เชลซี

จากการเป็นกัปตันทีมในสโมสรที่เผชิญกับวิกฤตสู่การก้าวมาเป็นนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฮาคิม ซิเยค มิดฟิลด์ตัวรุกชาติโมร็อกโก ของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทีมดังในศึกเอริวิซี่ ลีก ฮอลแลนด์ ประสบการณ์มากมายในการเดินทางจากนักฟุตบอลข้างถนนสู่การเซ็นสัญญาล่าสุดกับ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ซิเยค ซึ่งเป็นโมร็อกโกที่เกิดในเนเธอร์แลนด์นั้น เตรียมพร้อมที่จะมุ่งหน้าสู่ลอนดอนในช่วงฤดูร้อนนี้หลังจากที่ เชลซี ตกลงจ่ายค่าตัวของเขาให้กับ อาแจ็กซ์ สูงถึง 36 ล้านปอนด์ และแม้ว่าจะเป็นเงินจำนวนมหาศาล แต่ดาวเตะวัย 26 ปี แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับความกดดันที่ต้องเจอ

กองกลาง อาแจ็กซ์ เป็นลูกคนสุดท้องของพี่น้อง 8 คน โดยคุณพ่อของเขาเสียชีวิตเมื่อเขาอายุเพียง 10 ขวบ และส่งผลให้แม่ของเขาต้องเลี้ยงดูครอบครัวใหญ่ด้วยรายได้เล็กน้อย ดังนั้น ฟุตบอลจึงกลายเป็นจุดสนใจพิเศษสำหรับครอบครัวของ ซิเยค

ว่าที่แข้งใหม่ เชลซี เริ่มเล่นฟุตบอลข้างถนนในเมือง Dronten ของประเทศฮอลแลนด์ และในเวลาต่อมาเขาเข้ามาร่วมทีมเยาวชนของสโมสรท้องถิ่นอย่าง Reaal และ ASV ก่อนที่จะย้ายมาเล่นกับ ฮีเรนวีน ในวัย 14 ปี เมื่อปี 2007

ซิเยค ใช้เวลาไม่นานในการแจ้งเกิดในถิ่น อาเบ เลนส์ตร้า สตาดิโอน หลังจากที่เขาได้ประเดิมสนามกับทีมชุดแรกของ ฮีเรนวีน ด้วยวัยเพียง 19 ปี และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของเขา

อย่างไรก็ตาม การย้ายจาก ฮีเรนวีน ไปเล่นกับ เอฟซี ทเวนเต้ ในปี 2014 นั้น มันเป็นช่วงเวลาย่ำแย่อย่างยิ่งของ ซิเยค อย่างยิ่ง เนื่องจาก ทเวนเต้ กำลังประสบปัญหาวิกฤตการเงินของสโมสร และในปี 2016 เขาก็ถูกขายให้กับ อาแจ็กซ์

มาร์เซล ฟาน เดอ คราวน์ นักข่าวฟุตบอลชาวดัตช์ กล่าวกับ “บีบีซี” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “ในสายตาของผมเขาไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาผ่านช่วงชีวิตมามากมาย และจากนั้นเขาก็เริ่มเจองานยากลำบากที่ อาแจ็กซ์ โดยที่แฟนๆไม่สนับสนุนเขามากนัก”

“มาร์โก ฟาน บาสเท่น อดีตโค้ชของเขาที่ ฮีเรนวีน มองว่าเขาไม่มีอนาคตกับสโมสร แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้สิ่งนั้นให้กระทบตัวเอง”

“ที่ ทเวนเต้ สโมสรกำลังอยู่ในภาวะล้มละลาย และในฐานะกัปตันทีมอายุน้อย เขาต้องปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชนทุกสัปดาห์ และตอบคำถามที่ไม่ควรพูดหลายๆอย่างทั้งที่มันเป็นเรื่องของคณะกรรมการของสโมสร เขาปล่อยให้เท้าของเขาพูดแทน และจัดการมันทั้งหมดในย่างก้าวของเขา และผมคิดว่านั่นทำให้เขามีจิตใจที่แข็งแกร่งมาก”

ความสัมพันธ์ที่ยากลำบากของ ซิเยค กับแฟนๆของ อาแจ็กซ์ นั้น เกิดขึ้นหลังจากเกมที่พ่ายแพ้ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ไป 3-0 ในเดือนเมษายนปี 2018 ซึ่งเป็นผลยืนยันว่า คู่อริตลอดกาลของพวกเขาเป็นแชมป์ลีกดัตช์

ซิเยค ถูกแฟนบอลวิจารณ์อย่างหนัก หลังจากที่รถบัสของ อาแจ็กซ์ กลับมาที่สนามอัมสเตอร์ดัมอารีน่า หลังจบเกมกับ พีเอสวี อย่างไรก็ตาม ในที่สุด ดาวเตะโมร็อกโก ก็ใช้ฝีเท้าแสดงให้เห็นในการเอาชนะใจแฟนบอล

จากสถิติย้อนหลังใน บ้านผลบอล เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ซิเยค โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดด้วยการยิงไป 21 ประตู และทำไป 24 แอสซิสต์ พร้อมกับพา อาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ลีกดัตช์ และเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แม้จะต้องตกรอบด้วยฝีมือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็ตาม

มื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ซิเยค โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด

นอกจากนี้ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ที่ เชลซี เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ เสมอกับ อาแจ็กซ์ 4-4 นั้น ซิเย็ค ก็เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในสนามหลังจากโชว์ผลงานยอดเยี่ยมด้วยการทำไป 2 แอสซิสต์

ฟาน เดอ คราวน์ กล่าวต่อว่า “ฟอร์มของเขาในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ อาแจ็กซ์ นั้น น่าประหลาดใจมาก แฟนบอลที่เคยวิพากษ์วิจารณ์เขาตอนนี้ต่างรู้สึกเสียใจที่เขากำลังจะย้ายออกจากสโมสร เพราะพวกเขาคิดว่า ซิเยค ควรมีค่าตัว 100 ล้านปอนด์”

ขณะเดียวกัน สถิติต่างๆของ ซิเยค ในศึกเอริวิซี่ ลีก นั้น แสดงให้เห็นว่า เขาจะเป็นคนจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้กับ เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แฟรงค์ แลมพาร์ด โดย จอมทัพโมร็อกโก สร้างโอกาสลุ้นประตูให้กับ อาแจ็กซ์ มากถึง 412 ครั้ง นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2016 ซึ่งมันเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในบรรดาผู้เล่นในลีกสูงสุดฮอลแลนด์

นอกจากนี้ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา ซิเยค ทำสถิติแอสซิต์มากกว่า ลิโอเนล เมสซี่ ยอดจอมทัพชาวอาร์เจนตินา ของ บาร์เซโลน่า อีกด้วย โดยมีเพียง คีเลียน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงของ ปารีส แซงต์ แชร์แมง และ ริยาด มาห์เรซ ปีก ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น ที่ทำได้มากกว่าเขา

ฟาน เดอ คราวน์ กล่าวว่า “ในประเทศเนเธอร์แลนด์เราจะมีกรงขนาดเล็กเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่เรียกว่า ‘pleintjes’ และ ซิเยค เป็นนักฟุตบอลมาจาก ‘pleintjes’ เขาเป็นคนที่สามารถพาตัวเองออกจากสถานการณ์กดดันใดๆก็ตาม และเมื่อมีพื้นที่เพียง 10 นิ้ว เขาก็ยังคงเล่นฟุตบอล และเอาชนะคู่ต่อสู้ได้”

“สิ่งที่ เชลซี จะได้จาก ซิเยค คือ ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมเมื่อเจอกับทีมชั้นนำในยุโรป ซึ่งเขาแสดงให้เห็นมาหลายเกมแล้ว และนั่นเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาพร้อมแล้ว”

“ความสนใจของ เชลซี ที่มีต่อตัวเขาเพิ่มขึ้นหลังจากที่ทั้ง 2 ทีมพบกันในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาเห็นสิ่งที่ ซิเยค แสดงออกมาว่าเขามีความสามารถจริงๆ และ แลมพาร์ด ก็สามารถเห็นสิ่งนั้นจากเขาได้อย่างใกล้ชิดจากระยะเพียง 5 หลา”

ขณะเดียวกัน ซิเยค ยังเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย อ่อนน้อมถ่อมตนด้วย และได้รับการยกย่องว่า มีจิตใจที่ยิ่งใหญ่ โดยพรสวรรค์ของ อดีตเด็กปั้น ฮีเรนวีน ทำให้เขาถูกเรียกไปติดทีมชาติฮอลแลนด์ชุดอายุต่ำกว่า 19-21 ปีมาแล้ว แต่ในท้ายที่สุด เขาเลือกจะไปรับใช้ทีมชาติโมร็อกโกชุดใหญ่ในปี 2015 และช่วยให้บ้านเกิดเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2018 ที่ประเทศรัสเซีย มาแล้ว

จาลาร์ บูนูอาร์ นักข่าวชาวโมร็อกโก กล่าวว่า “เขาอาจยังไม่ถูกมองในฐานะนักเตะซุเปอร์สตาร์ แฟนบอลต่างรอคอยที่จะเห็นเขานำทีมสู่ตำแหน่งแชมป์ โดยผู้คนที่นี่ต่างมองย้อนกลับไปที่ทีมชุดที่เคยคว้าแชมป์ ซึ่งพวกเราเคยคว้าแชมป์แอฟริกาคัพเนชั่นในปี 1976 และเราก็มีนักเตะอย่าง มุสตาฟา ฮัดจิ และ นูรุดดีน เนย์เบ็ต”

“แต่ ซิเยค เป็นหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลชาวโมร็อกโกภาคภูมิใจ เพราะเขาเลือกที่จะเล่นให้กับโมร็อกโก และมักพูดสิ่งดีๆเกี่ยวกับประเทศ เขายังเป็นคนที่เป็นมิตร เข้าสังคม และอ่อนน้อมถ่อมตน เมื่อเขามาเก็บตัวฝึกซ้อมทีมชาติ คุณจะเห็นว่าเขาหัวเราะ และคุยเล่นกับเพื่อนๆ”

“เขาไม่ปฏิบัติต่อคนที่เล่นในลีกโมร็อกโก หรืออียิปต์ แตกต่างจากผู้เล่นที่อยู่ในยุโรป และเขาเป็นคนที่ให้คำแนะนำแก่ผู้เล่นเยาวชน และช่วยเหลือพวกเขาอยู่ตลอดเวลาด้วย” บูนูอาร์ กล่าว

นอกจากนี้ จิตใจที่ดีของ ซิเยค ก็แสดงให้ทุกคนได้เห็นจากการที่เขาให้การสนับสนุนทางการเงินกับ ลีออน เดอ โคเกล นักฟุตบอลอาชีพชาวดัตช์ที่เสียด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงวันหยุดของปี ในปี 2019 ที่ผ่านมา

เดอ คราวน์ กล่าวว่า “ซิเยค ไม่เพียงแต่เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในศึกเอริวิซี่ ลีก เท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่มาก ซึ่งผมจะจดจำเขาไปตลอดชีวิต”

จิตใจที่ดีของ ซิเยค ก็แสดงให้ทุกคนได้เห็น