หงส์แดง จะไวไปไหน รีบไปตั้งแต่ไก่โห่เลย

เป็นอันว่าฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ ประจำซีซั่นนี้ในรอบต่อ ๆ ไปจะปราศจากรายชื่อของ ลิเวอร์พูล หลังพวกเขาพลาดท่าบุกไปพ่ายให้กับ วูลฟ์แฮมป์ตัน 2-1 แม้หลายคนจะมองว่าเป็นการส่งตัวสำรองลงสนามเสียเยอะ บวกกับการมีลุ้นในหลาย ๆ ถ้วยมันอาจไม่ส่งผลดีต่อการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบเต็มตัว แต่เชื่อเถอะในใจลึก ๆ ของแฟนบอลก็แอบเสียดายเหมือนกันที่พอนักเตะตัวสำรองลงสนามแล้วมันเทียบไม่ได้เลยกับบรรดาตัวหลักหลายคน

เทพจริงอ๊ะป่าว หงส์ ปีกหักไปส่ะและ

เป็นที่รู้กันดีว่าเกมเอฟเอ คัพ รอบแรก ๆ แบบนี้ บรรดาทีมใหญ่ที่ต้องลงเตะในหลาย ๆ รายการจะเลือกโรเตชั่นนักเตะด้วยการส่งบรรดาสำรองหรือไม่ก็ดาวรุ่งลงสนาม ซึ่งผลงานของแต่ละทีมก็ต่างกันออกไป ทว่าความพ่ายแพ้ของ ลิเวอร์พูล ในนัดนี้ หากมองทุกรายการมันคือการพ่ายแพ้ 2 เกมติดต่อกันหลังจากที่เกมพรีเมียร์ลีก นัดล่าสุด พวกเขาก็เพิ่งพลาดท่าปราชัยเป็นเกมแรกในลีกให้กับทัพ “เรือใบสีฟ้า” เรียกได้ว่างานนี้ คล็อปป์ โบกมือลาถ้วยฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลกตั้งแต่ไก่โห่กันเลยทีเดียว แต่ก็อย่างว่าพวกเขายังมีงานใหญ่ให้ต้องทำอีกเยอะทั้งในลีกและในบอลยุโรป บางที คล็อปป์ เองอาจรู้สึกโล่งใจด้วยซ้ำที่บางรายการไม่ต้องมานั่งคิดให้ปวดหัว

แต่อย่าลืมว่าเกมลีกเองก็ยังต้องแข่งอีกยาวไกล ในขณะที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยังมีเสือ สิงห์ กระทิง แรด รออยู่ข้างหน้าอีกเพียบ เอาง่าย ๆ ว่ารอบต่อไปที่ ลิเวอร์พูล ต้องดวลแข้งคือ บาเยิร์น มิวนิค ทีมดังแห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน แม้ซีซั่นนี้พวกเขาอาจไม่ค่อยแข็งแกร่งนัก แต่ขึ้นชื่อว่า บาเยิร์น มันมีอะไรเซอร์ไพรส์แฟน ๆ ได้เสมอ เป็นงานหินที่ ลิเวอร์พูล จะต้องเจอและถ้าฝ่าไปได้ไม่ต้องห่วงเพราะยังมีอีกหลายทีมให้ได้โม่แข้ง

ขณะที่ในลีกเองเวลานี้ยังถือว่าไม่น่าเกลียดกับการนำห่าง แมนฯ ซิตี้ อยู่ 4 คะแนน แต่กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าช่องคะแนนนี้จะแคบลงไม่ได้ หากพวกเขาพลาดท่าไม่ชนะอีกสักเกมสองเกมตารางคะแนนมีสิทธิ์เปลี่ยนมือได้ทันที เชื่อว่าเวลานี้ คล็อปป์ และนักเตะทุกคนคงมุ่งเน้นไปที่ฟุตบอลลีกเป็นหลัก แต่ความน่ากังวลคือหากตัวหลักเจ็บแล้วตัวสำรองที่ลงเล่นทำผลงานได้แค่นี้ มันก็ตอบไม่ชัดว่าสรุปแล้วพวกเขาจะก้าวไปถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกหรือจะต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างที่เคยเป็นมา