สุดยอดกุนซือผู้มีอารมณ์ร่วมกับเกมเสมอ

กับภาพที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ วิ่งไปดีใจกับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ ที่พวกเขาสามารถเปิดรังแอนฟิลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ไปแบบหวุดหวิดได้ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของเกม ทำเอาให้นึกถึงบรรดากุนซือผู้ที่มีอารมณ์ร่วมกับเกมเสมอเวลาที่ทีมต้องการชัยชนะหรือรู้สึกว่าทีมตนเองเสียเปรียบ เลยคัดเฉพาะบรรดากุนซือดังในพรีเมียร์ลีกทั้งที่ยังคุมทีมอยู่และเป็นอดีตไปแล้วว่ามีใครกันบ้าง

กุนซือที่มีอารมณ์ร่วมกับเกมเสมอ

เจอร์เก้น คล็อปป์ คนแรกคงยกให้กับยอดกุนซือชาวเยอรมันรายนี้ก่อนกับภาพล่าสุดที่โดนโจษจันไปทั่วว่าดีใจเกินกว่าเหตุ กระนั้นหากเราเห็นเขาตั้งแต่สมัยคุม “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในบุนเดสลีกา เยอรมัน ก็จะรู้ว่าเขาเป็นคนที่มีอารมณ์ร่วมกับเกมสูงมาก และมักมีปัญหากับนักเตะฝ่ายตรงข้ามหรือกรรมการบ่อยครั้งก่อนย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คนที่สองขอยกให้กับ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตบรมกุนซือ “ปีศาจแดง” ที่เรื่องอารมณ์ฉุนเฉียว ความเกรี้ยวกราด และพร้อมปะ ฉะ ดะ ทุกคน ไม่เคยเป็นรองใครจริง ๆ เอาเป็นว่ากว่า 20 ปี ที่ป๋าคุมทีมข้างสนามเมื่อใดก็ตามหากทีมเสียเปรียบ หรือทีมยิงได้ในช่วงท้ายเกม อาการของแกจะถูกปลดปล่อยออกมาจนบางครั้งมันก็ลืมวัยไปเหมือนกัน

อันโตนิโอ คอนเต้ คนนี้คงไม่ต้องบอกว่าตลอด 90 นาที พี่แก้มีอารมณ์เกรี้ยวกราดพร้อมตวาดด่าใส่ลูกทีม กรรมการ และคู่แข่งตลอดเวลา ลำพังตัวของ คอนเต้ เองเป็นคนมีระเบียบวินัยในการคุมทีมสูง บวกกับการมีอารมณ์ร่วมจึงทำให้หลาย ๆ ครั้งฝ่ายตรงข้ามมองว่าเขาไม่ค่อยเคารพสิทธิ์กันเท่าไหร่ ทว่าเจ้าตัวก็ยอมรับว่าเขาไม่เคยดูหมิ่นใครทั้งนั้น

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือคนเก่งชาวสเปนที่นับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาคุม ทีมบาร์เซโลน่า ไล่มา บาเยิร์น มิวนิค และล่าสุดที่ แมนฯ ซิตี้ ดูเหมือนว่าอาการของเขาจะสงบลงเยอะเมื่อเทียบกับยุคก่อน ๆ ที่ใส่เป็นใส่ ไม่สนใจใครทั้งนั้นว่าจะเก๋าเกมมาจากไหน ด้วยอารมณ์เดือดพล่านแบบนี้จึงมักตกเป็นเป้าโดนโจมตีบ่อยครั้ง

โซเซ่ มูรินโญ่ ปิดท้ายด้วยกุนซือจอมยียวนกวนประสาทอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ต้องบอกว่าหลาย ๆ ครั้งการแสดงออกของเขามันช่างน่าเขกกระโหลกเสียจริง บางทีแฟนบอลของตนเองยังรู้สึกว่ากุนซือคนนี้แอบมีอาการโรคจิตหรือมีความผิดปกติอะไรแน่ ๆ กับการแสดงออกด้วยลีลาซึ่งชาวบ้านเขาไม่ทำกัน

เป็นเรื่องขำ ๆ ที่เอามาพูดถึงกันเกี่ยวกับสไตล์คุมทีมของกุนซือซึ่งย่อมต่างกันออกไปอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับวิธีของคน ๆ นั้นมากกว่า