เขากลายเป็นตำนานในช่วงชีวิตของพวกคุณ มันเป็นความสำเร็จที่พิเศษอย่างยอดเยี่ยม การทำเช่นนั้นในขณะที่ยังเล่นฟุตบอลอยู่มันเป็นสิ่งที่สุดยอดเหนือสิ่งอื่นใด และเขายังคงเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก นั่นคือ ลิโอเนล เมสซี่ จอมทัพชาวอาร์เจนตินา ของ บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกา สเปน
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา เมสซี่ ได้รับรางวัลบัลลังก์ดอร์ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งนับเป็นการคว้ารางวัลอันทรงเกียรติครั้งที่ 6 ของเขาแล้ว ซึ่งมันเป็นเรื่องยากที่นักฟุตบอลคนใดบนโลกใบนี้จะทำได้ดาวเตะ “เจ้าบุญทุ่ม”
ไม่ใช่ทุกคนที่เชื่อมั่น บางคนรู้สึกว่า เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ ของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีส่วนในความสำเร็จของถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกของ “หงส์แดง” เมื่อฤดูกาลผ่านมาที่สมควรได้รับการยอมรับมากขึ้น ซึ่งตามความเป็นจริงหลายคนอาจชินชากับความยอดเยี่ยมของ เมสซี่ อยู่แล้ว
เมสซี่ ยิงประตูให้กับสโมสรและทีมชาติ รวมกันไป 46 ประตู ในปี 2019 แต่สำหรับเขาแล้วนี่เป็นอีกปีหนึ่งด้วยเหตุผลที่ดีที่เขาจะได้รับรางวัลดังกล่าว มันเป็นเพียงอีกปีโดยมาตรฐานที่น่าทึ่งของเขายังคงอยู่ เขาทำยิงประตูได้ 45 ลูก ทุกๆปีในทศวรรษนี้
หาก เมสซี่ ทำอย่างนั้นได้ทุกซีซั่น เราก็น่ายกย่องเขา หลายคนมักจะพูดว่า ตัวรุกอาร์เจนไตน์ ได้ทำมาแบบนั้นตลอด และเขาก็ยังทำต่อไป และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เขายังโชว์ฟอร์มระดับมาสเตอร์คลาส ด้วยการซัดประตูชัยพา บาร์เซโลน่า เอาชนะ แอตเลติโก้ มาดริด 1-0 ที่สนามว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน โดยที่ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือ “ตราหมี” ยังปรบมือให้กับความยอดเยี่ยมของเขา
ขณะเดียวกันอาการบาดเจ็บได้สร้างผลกระทบต่อ เมสซี่ ในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลนี้ แต่มันก็เป็นอุปสรรคที่เขาสามารถก้าวผ่านไปได้ โดยแข้ง บาร์ซ่า เล่นฟุตบอลในศึกลา ลีกา เพียง 90 นาที นับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งการแข่งขันมันผ่านไปถึง 6 สัปดาห์แล้ว แต่หลายคนต้องการมากกว่านี้
เมสซี่ เป็นผู้ทำประตูสูงสุดอันดับ 2 ในการแข่งขัน และทำแอสซิสต์มากมาย รวมถึงยังทำสถิติเลี้ยงบอลสำเร็จเป็นอันดับที่ 2 และเป็นอันดับ 1 สำหรับการจ่ายบอลทะลุช่อง โดยทั้งหมดนี้แม้เขาจะไม่ได้ลงเล่น 5 เกม แต่เขาก็ยังคงโชว์ความยอดเยี่ยม
นอกจากนี้ เมสซี่ ยังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลงานความสำเร็จที่เขาทำได้มา 5 ครั้งก่อนหน้า และในฟุตบอลยุโรป เขายังเลี้ยงบอลผ่านนักเตะคู่แข่งไปมากถึง 39 คน ซึ่งไม่มีผู้เล่นคนใดทำได้เท่าเขาอีกแล้ว
สถิติเหล่านี้ของ เมสซี่ มีการเกิดขึ้นเป็นประจำทุกซีซั่น การได้ดูเขาเล่นฟุตบอลมันเหมือนการดูศิลปินในเวที แต่สิ่งที่เขาทำนี่เป็นมากกว่าศิลปะ ความอัจฉริยะของศิลปินคนนี้ไม่ใช่เรื่องของการออกมาแสดงความเห็น และข้อโต้แย้ง
ข้อเท็จจริงมีให้ทุกคนได้เห็น การยิงประตู และการโชว์เทคนิคอันยอดเยี่ยมต่างๆตลอด 9 ฤดูกาลที่ผ่านมา เมสซี่ ประสบความสำเร็จในมากกว่าใครในยุโรป และอาจจะมากเป็นสองเท่าของคนอื่นๆ ในวงการฟุตบอลสเปน
นี่เป็นการเน้นองค์ประกอบ 2 อย่างเพื่อความยิ่งใหญ่ของเขา ผู้ทำประตูที่ยอดเยี่ยม และผู้ช่วยเหลือที่ยอดเยี่ยม เขาอาจเปรียบเทียบได้กับ เซอร์จิโอ อเกวโร่ และ ดาบิด ซิลบา 2 ยอดแนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในคนเดียวกัน
แชมป์ลีกครั้งที่ 10 ในอาชีพของเขาเกิดขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่เขาต้องตกรอบฟุตบอลยุโรปจากการคัมแบ็กที่น่าทึ่งของ ลิเวอร์พูล และผิดหวังความพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศต่อ บาเลนเซีย ในศึกโคปา เดล เรย์ เมื่อปีที่แล้ว
ความผิดหวังในรอบรองชนะเลิศที่ แอนฟิลด์ ได้เน้นย้ำถึงความคาดหวังของ เมสซี่ ที่สูงขึ้น แต่ในเกมที่ แอนฟิลด์ ไม่มีใครสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมของพวกเขา และไม่มีใครทำสถิติเลี้ยงบอลได้มากกว่าที่เขาทำ ยังไงก็ตามมุมมองที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ยังคงคิดว่า เขาอาจจะทำได้ดีมากกว่านี้
ในความเป็นจริงมีบางครั้งที่ความสั่นสะเทือนของเกมกับ ลิเวอร์พูล ความเร็ว และพลังงานทั้งหมดของ “หงส์แดง” ทำให้ผู้เล่นของ บาร์เซโลน่า ถูกมองว่าไม่สามารถรับมือได้ ในขณะที่การวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงเกินไปมันเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้ไอคอนอย่าง เมสซี่ จะไม่สามารถท้าทายกาลเวลาได้ตลอดไป
ดังนั้น เมสซี่ สามารถยืนระยะได้นานแค่ไหน? เขาเป็นนักฟุตบอลอายุ 32 ปี ที่ยังยอดเยี่ยม แต่เนื่องจากการบาดเจ็บเมื่อเร็วๆนี้ ทำให้เรานึกถึงว่า เขาเป็นคนธรรมดาที่ไม่ใช่เครื่องจักร ทุกสิ่งที่ดีต้องมาถึงจุดจบ และมันจะได้เพิ่มความพิเศษในการรับชม กองหน้า “เจ้าบุญทุ่ม” ลงสนามตอนนี้
ไม่มีใครควรมีเหตุผลโต้แย้งอีกต่อไป แต่สำหรับคนที่อยู่นอกประเทศสเปนโดยเฉพาะอย่างยิ่งแต่ละโอกาสที่จะได้เห็นความสามารถของ เมสซี่ เมื่อบางทีมันอาจเต็มไปด้วยความคิดเศร้าๆที่ว่าเขาแขวนสตั๊ด และลูกๆของคุณไม่ได้เห็นเขาเล่นฟุตบอล
ในขณะที่ฟุตบอลพบหนทางในการสร้างฮีโร่ใหม่ๆ อยู่เสมอไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะคนอย่าง เมสซี่ เกิดขึ้นมาอีกครั้งบนโลกใบนี้ และเราควรเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกที่ว่า อย่างน้อยตอนนี้นี่เขาก็ยังคงเล่นฟุตบอลให้เราได้ดูอยู่ และเขายังคงเป็นผู้เล่นที่วิธีใหม่ๆที่จะทำให้ผู้ชมตื่นเต้น
