ลาปอร์ต้า ! บิ๊กบอสคนใหม่ (แต่หน้าเก่า) ของบาร์ซ่า มาแล้ว !

ลาปอร์ต้า ! บิ๊กบอสคนใหม่ (แต่หน้าเก่า) ของบาร์ซ่า มาแล้ว !

โจน ลาปอร์ต้า ! ชื่อนี้คือ “ประธานสโมสรคนใหม่” ของบาร์เซโลนา ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งไปเมื่อวานที่ผ่านมาแบบสดๆร้อนๆ ถ้าหากว่าเป็นแฟนบอลบาร์เซโลนาที่เชียร์ทีมมานานเกิน 10 ปีก็จะทันเห็นช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ในสมัยที่ ลาปอร์ต้า เคยบริหารสโมสรแห่งนี้จนประสบความสำเร็จมาแล้วทนายความฝีปากเยี่ยมชาวคาตาลุนญ่ารายนี้ เคยดำรงตำแหน่งประธานสโมสรบาร์เซโลนามาแล้วในช่วงระหว่างปี 2003-2010 และช่วงระยะเวลา 7 ปีที่ลาปอร์ต้าบริหารทีมนั้น บาร์เซโลนา ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของสโมสรเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญคือเขาเป็นคนที่แต่งตั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขึ้นมาทำงานเป็นผู้จัดการทีมบาร์เซโลนาชุดใหญ่ จนทำให้บาร์ซ่าสร้างตำนาน “ติกิ-ตะก้า” อันไร้เทียมทานขึ้นมาแชมป์ลาลีกา 4 สมัย (รองแชมป์ 2 ครั้ง) , แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย , แชมป์สโมสรโลก 1 สมัย และแชมป์โคปา เดล เรย์ อีก 1 สมัย นี่คือแชมป์รายการสำคัญที่ บาร์เซโลนา คว้ามาได้ในระยะเวลา 7 ปีที่เขาบริหารทีม เรียกว่าสุดยอดจริงๆ แถมทีมยังมีเหล่าโคตรนักเตะชั้นนำแห่งยุคที่ซื้อตัวมาได้ถูกจุดมากกว่าใช้ไม่คุ้ม ว่าแต่ทำไม ลาปอร์ต้า ถึงสามารถเบียดเอาชนะ บิคตอร์ ฟอนต์ และ โทนี่ เฟรซ่า จนเข้าวินได้ง่ายๆแบบนี้ การคืนสู่บัลลังก์ของราชาผู้นี้ ย่อมต้องมีที่มาที่ไปแน่นอน

ใจของนักเตะซีเนียร์ มอบให้กับลาปอร์ต้า !

นักเตะของบาร์เซโลนาหลายๆคน เคยผ่านช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ในสมัยที่ ลาปอร์ต้า เป็นประธานสโมสรมาแล้ว โดยมันมีตัวของ ลิโอเนล เมสซี่ , เคราร์ด ปิเก้ 2 แข้งดังของทีมที่เหลือรอดมาจากทีมชุดที่ลงเล่นโดยมีลาปอร์ต้าเป็นบิ๊กบอสของสโมสร และแน่นอนว่า 2 แข้งพี่ใหญ่ของสโมสรคู่นี้ สนิทและคุ้นเคยกับลาปอร์ต้าดี พวกเขารู้จักนิสัยของลาปอร์ต้าโดยถ่องแท้ เรียกได้ว่ามองตาก็รู้ใจ อีกทั้งเวลาให้สัมภาษณ์ ตัวของลาปอร์ต้า มักจะให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่จริงใจ และกล่าวถึงนักเตะในแง่ดีเสมอ คอยให้กำลังใจนักเตะในสโมสรเสมอแม้ว่าในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ เขาจะยังไม่ได้กลับมานั่งบัลลังก์ก็ตามนักเตะในสโมสร มีสิทธิ์ที่จะโหวตเลือกประธานเช่นกัน และเมสซี่กับ ปิเก้ จะคอยแนะนำเพื่อนร่วมทีมคนอื่นว่าลาปอร์ต้าเป็นยังไง ความสามารถระดับไหนก็ไม่แปลก

เข้าใจในวัฒนธรรมของสโมสรชัดเจน

เข้าใจในวัฒนธรรมของสโมสรชัดเจน

สิ่งที่น่าชื่นชมของลาปอร์ต้าก็คือ เขาเข้าใจในวัฒนธรรมของสโมสรอย่างแท้จริง บาร์เซโลนาคือทีมที่เน้นเกมรุกเป็นหลัก เขาจึงจัดกาโค้ชที่มีความสามารถในการทำทีมเน้นเกมรุกมาช่วยพัฒนาทีม โดยมีทั้ง แฟรงค์ ไรจ์การ์ด และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามาทำทีมที่ผ่านมาในยุคของ โฆเซป มาเรีย บาร์โตเมว เป็นประธานสโมสร บาร์โตเมว จัดจ้างโค้ชที่เน้นผล เน้นตั้งรับ หรือโค้ชโปรไฟล์ไม่สูงมาทำงานโดยปราศจากความเข้าใจในเรื่องวัฒนธรรมของสโมสรอย่างแท้จริง ไล่ตั้งแต่ตัวของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ , กิเก้ เซเตียน และรายล่าสุดคือ โรนัลด์ คูมัน รวมถึงเน้นทีมให้ตั้งรับและรอสวนกลับ ซึ่งลาปอร์ต้า ออกมาโจมตีเรื่องนี้บ่อยๆ

ความสำเร็จในอดีตเป็นตัวการันตี

ความสำเร็จในอดีตเป็นตัวการันตี

อย่างที่เราได้บอกไปว่า ความสำเร็จในยุคแรกที่ลาปอร์ต้าเคยบริหารสโมสรเอาไว้มันยอดเยี่ยมมาก เขาเซ็นสัญญากับนักเตะชั้นนำทั้ง โรนัลดินโญ่ , เธียร์รี่ อองรี , ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และส่งท้ายด้วย ดาบิด บีญ่า แถมทีมยังได้สารพัดแชมป์ แชมป์ลาลีกา 4 สมัย (รองแชมป์ 2 ครั้ง) , แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย , แชมป์สโมสรโลก 1 สมัย และแชมป์โคปา เดล เรย์ อีก 1 สมัย แค่นี้ก็การันตีผลงานได้แบบสบายๆแล้วแฟนบอลก็ย่อมหวังเช่นกันว่า ผ่านไป 11 ปีที่เขาจากสโมสรไปนั้น การกลับมาบริหารสโมสรในรอบที่ 2 เขาจะสามารถพัฒนาทีมให้กลับมาเป็นเต้ยในวงการอีกครั้งหนึ่งสำคัญที่สุดคือ เขาไม่ใช่คนดีแต่พูดแบบประธานคนก่อน สไตล์ของลาปอร์ต้าคือคนที่พูดจริงทำจริง มองปัญหาของทีมได้ถูกจุด และเขาพร้อมเปิดรับฟังความคิดของทุกฝ่ายเสมอ มันก็ไม่แน่ว่า บาร์เซโลนา อาจจะกลับสู่ยุคทองก็เป็นไปได้