การเมินเฉยต่อการพิจารณาการต่อสัญญาครั้งล่าสุดของ เซร์คิโอ รามอส ในท้ายที่สุดนั้นมันอาจทำให้เขาเสียโอกาสครั้งสุดท้ายในการจะได้เซ็นขยายสัญญาฉบับใหม่กับทาง เรอัล มาดริด การปฏิเสธโดยอ้างเหตุผลที่ว่า เขาอยู่ในช่วงพักฟื้นจากการผ่าตัดในช่วงก่อนหน้านี้ และการเมินเฉยต่อท่าทีของสโมสรในทุกกระบวนท่า ดูเหมือนว่าสิ่งที่ดูจะดีที่สุดสำหรับ เซร์คิโอ รามอส ณ เวลานี้มันอาจจะเป็นการตัดสินใจย้ายออกจากทีมเรอัล มาดริด ที่เขาค้าแข้งมานาน 16 ปีก็เป็นได้ เขากลับมาที่สนามฝึกซ้อม บาลเด้ เบบาส เป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้หลังจากที่ได้รับไฟเขียวให้ลงซ้อมได้ และจากนั้นเขาจึงได้กลับมาลงสนามร่วมกับเพื่อนร่วมทีมของเขาได้ในแชมเปี้ยนส์ลีก ตอนนี้กัปตันเรอัล สามารถพัฒนาขีดจำกัดการซ้อมของตัวเองได้อย่างชัดเจนมากขึ้นแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขาได้รับการฝึกซ้อมเป็นรายบุคคลอยู่ช่วงหนึ่ง หลังจากที่เข้ารับการผ่าตัดที่หัวเข่าแต่ภายใต้ความน่ายินดีที่เมื่อได้เห็นว่า รามอส กลับมาลงเล่นได้นั้น มันกลับยังคงมีความขุ่นเคืองอย่างมากมายจากภายในห้องบอร์ดบริหาร โดยมันสืบเนื่องมาจากการตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดของรามอสในช่วงก่อนหน้านี้
กัปตันผู้เห็นแก่ตัว
“เห็นแก่ตัว” เป็นคำพูดที่ผู้อำนวยการคนหนึ่ง ได้นิยามตัวของ รามอส เอาไว้เมื่อเขาได้รู้ว่ากัปตันทีมเรอัล ได้เลือกที่จะเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่า การตัดสินใจของรามอสในครั้งดังกล่าว มันก็เท่ากับว่ารามอสเตรียมใจที่จะต้องหายหน้าไปจากทีมนานถึง 6 สัปดาห์เพื่อรักษาตัว แล้วดันเป็นในช่วงวิกฤตของทีมด้วยเพื่อนร่วมทีมของเขากำลังเจอกับความกดดันในสนาม และยังมีความตึงเครียดเกิดขึ้นระหว่างเขาและคณะกรรมการของสโมสร เกี่ยวกับการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ด้วยเช่นกัน โดยกล่าวกันว่าบุคลากรใน เรอัล มาดริด รู้สึกว่า รามอส ไม่ได้ให้ใจกับทีมมากเท่าไหร่ ทั้งๆที่เคสการบาดเจ็บของรามอส มันช่างคล้ายคลึงกับที่กองหลังคนสำคัญของ บาร์เซโลนา คู่แค้นของพวกเขาประสบพบเจอมาก่อนในช่วงก่อนหน้านี้
รามอส กับ ปิเก้ เข่าพังเช่นกัน แต่เลือกปฏิบัติคนละแนว
ในขณะที่รามอสเลือกที่จะเข้ารับการผ่าตัด แต่ว่าตัวของ เคราร์ด ปิเก้ กองหลังของบาร์เซโลนาที่บาดเจ็บหัวเข่าเช่นกัน กลับปฏิเสธตัวเลือกนี้ โดยเขาไม่เห็นด้วยกับคำแนะนำของแพทย์ โดยปิเก้รู้ดีว่าการเลือกเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่า อาจทำให้ฤดูกาล 2020-21 ของเขาสิ้นสุดลงในทันที แต่เขาเลือกเส้นทางการบำบัดด้วยตัวเอง และหาวิธีกลับมาลงสนามได้ทันเวลาเพื่อช่วยทีมให้ได้มากที่สุด โดยเขาช่วยทีมคว้าชัยชนะในรอบรองชนะเลิศของถ้วย โคปา เดล เรย์ ได้สำเร็จในเกมกับเซบีย่า ซึ่งชัยชนะดังกล่าวนั้น มาจากการทำประตูด้วยตัวของ ปิเก้ เองด้วย ซึ่งช่วยจุดประกายการต่อสู้ที่น่าทึ่งของยอดทีมแห่งคาตาลันขึ้นมาได้กลับมาดูที่ฝั่งของรามอสบ้าง ในช่วง 1 เดือนครึ่งก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริหารของ เรอัล มาดริด รวมถึงประธานสโมสร ฟลอเรนติโน เปเรซ ยังคงพยายามเปิดโอกาสให้ รามอส พิจารณาเพื่ออยู่กับทีมต่อไป – แต่ก็ไม่ได้เสนอเงื่อนไขได้ตรงตามใจของกัปตันเท่าไหร่นัก และที่สำคัญ ในการพูดคุยระหว่าง เรเน่ พี่ชายและเอเย่นต์ของรามอส กับทางตัวของ ฟลอเรนติโน ก็ยังไม่ได้มีการเปิดโต๊ะเจรจากันอย่างเป็นทางการ เพราะเนื่องจากกองหลังทีมชาติสเปนได้บอกอย่างชัดเจนว่า เขาจะขอเข้ารับการผ่าตัดและขอเลื่อนการพิจารณาต่อสัญญาออกไปก่อนฟลอเรนติโนไม่ได้อารมณ์เสียเหมือนบอร์ดบริหารคนอื่น ๆ แต่ตอนนี้มันมีแนวโน้มที่ว่า ฟลอเรนติโน อาจจะเริ่มฟังเหตุผลของเหล่าบอร์ดคนอื่นบ้างแล้วเช่นกัน ว่าอย่า “ง้อ” รามอสให้มากเกินไป
สัญญาแบบเดิม ยากที่จะโดนใจ
ข้อตกลงที่ยังคงวางอยู่บนโต๊ะ ยังคงเป็นแบบที่รามอสไม่พอใจ : “สัญญาหนึ่งปีสำหรับกองหลังอายุ 34 ปี โดยมีตัวเลือกต่อเพิ่มอีก 12 เดือน – และมีค่าเหนื่อยน้อยลงกว่าค่าเหนื่อยในสัญญาฉบับปัจจุบันของรามอส”เรียกได้ว่าตอนนี้การต่อสัญญากับปราการหลังแข้งทองชาวสเปนรายนี้ ยากเข้าไปทุกวัน แฟนบอลเรอัลคงได้แต่นับถอยหลังรอวันที่พวกเขาจะต้องมาเห็นการแถลงข่าวอำลาสโมสรของ รามอส ไม่ช้าก็เร็วๆนี้แล้วอย่างแน่นอน