มาร์เซโล่ โบรโซวิช (Marcelo Brozovic)

เส้นทางอาชีพ มาร์เซโล่ โบรโซวิช

มาร์เซโล่ โบรโซวิช เกิดวันที่ 16 พฤศจิกายน 1992 นักฟุตบอลอาชีพชาวโครเอเชีย ปัจจุบันเล่นให้ อินเตอร์ มิลาน ในระดับทีมชาติ เขาเล่นให้ทีมชาติโครเอเชีย และได้ลงสนามในฟุตบอลโลก 2014 2018 และฟุตบอลยูโร 2016 ด้วย

เส้นทางอาชีพ

ระดับเยาวชน

โบรโซวิช เกิดที่เมือง ซาเกร็บ และจบการศึกษาจากศูนย์ฝึกฟุตบอล ฮาวาร์ตสกี้ ดราโกโวยัช เขาลงสนามเกมระดับอาชีพ วันที่ 24 กรกฎาคม 2010 โดยได้ลงสนามเต็มเกม 90 นาทีเกมที่แพ้ต่อ ดินาโม ซาเกร็บ 1-4 เขายิงประตูแรกวันที่ 18 มีนาคม ในปีถัดมาเป็นเกมที่ชนะ คาร์โลวัช

โลโกโมติว่า

เดือนกรกฎาคม 2011 โบรโซวิช เซ็นสัญญากับ โลโกโมติว่า หลังจากที่ ดราโกโวยัช ตกชั้น เขาได้ลงสนาม 27 แมตช์ในฤดูกาลแรก ยิงได้ 4 ลูก ช่วยทีมจบอันดับกลางตาราง

อยู่สโมสร ดินาโม ซาเกร็บ

ดินาโม ซาเกร็บ

เดือนสิงหาคม 2012 โบรโซวิช เซ็นสัญญา 7 ปีกับ ดินาโม ซาเกร็บ โดยเขาได้ลงสนามแทนว่าที่ดาวเตะ ฮัมบูร์ก มาลาน บาเดลจ์ เขาสวมเสื้อหมายเลข 77 และลงประเดิมสนามวันที่ 14 กันยายน เกมเสมอแบบโนสกอร์กับ เอ็นเค โอซิเย็ค ที่บ้านของตนเอง หลังจากที่ได้ลงสนามมาในครึ่งหลัง อีก 4 วันต่อมาเขาได้ลงสนามกมแชมเปี้ยนส์ลีก เต็ม 90 นาที เกมที่บ้านแพ้ต่อ ปอร์โต้ 0-2 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม

เขาต้องรอจนถึงวันที่ 14 เมษายน ในปีต่อมาจึงจะยิงประตูให้ ดินาโม ซาเกร็บ โดยเขายิงประตูให้ทีมชนะ อินเตอร์ ซาเปรซิช 2-0 โบรโซวิช จบฤดูกาลแรกกับทีมด้วยการลงสนาม 30 เกม เป็น 23 เกมในลีก ยิงได้ 2 ประตู พาทีมคว้าแชมป์ลีก และเข้าถึงรอบสองโครเอเชียน คัพ และตกรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก

อินเตอร์ มิลาน

วันที่ 24 มกราคม 2015 โบรโซวิช เซ็นสัญญาย้ายมาร่วมทีม อินเตอร์ มิลาน เป็นเวลาครึ่งปี ด้วยสัญญายืมตัว โดยมีออปชั่นซื้อขาดจากทีม งูใหญ่ และเขาได้สวมเสื้อหมายเลข 77 แทนที่ของ ซัลเลย์ มุนตารี่ เขาได้ลงสนามให้ อินเตอร์ มิลาน เกมแรกวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2015 ได้ลงสนาม 20 นาที สุดท้าย เกมที่เยือนชนะ ซัสซูโอโล่ 3-1 เป็นนักเตะคนที่ 900 ที่ได้สวมเสื้อของ อินเตอร์ มิลาน เขายิงลูกแรกให้ อินเตอร์ มิลาน เกมสุดท้ายของฤดูกาล เกมที่ชนะ เอ็มโปลี และรวมแล้ว โบรโซวิช ลงสนามให้ทีม 15 นัด โดยเป็นตัวจริง 13 นัดยิงได้ 1ลูก

โบรโซวิช เริ่มต้นเล่นฟุตบอลเต็มฤดูกาล โดยการออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรกให้ทีม และได้ลงสนามกว่า 85 นาที ในฟุตบอลเซเรีย อา 2015/16 เกมที่พบ อตาลันต้า ที่ซานซิโร่ เขายิงประตูแรกในฤดูกาล วันที่ 23 พฤศจิกายน ระหว่างเกมที่พบ โฟรซิโนเน่ เกมในบ้าน และถูกเปลี่ยนตัวลงสนามนาทีที่ 88 และยิงประตูที่ 4 ของเกมในอีก 4 นาทีต่อมา ช่วยให้ อินเตอร์ มิลาน ชนะด้วยสกอร์ขาดลอยที่สุดในฤดูกาลนั้น วันที่ 12 ธันวาคม เขายิงประตูที่สองในลีก เป็นลูกปิดท้ายที่ชนะ อูดิเนเซ่ ในเกมเยือน และได้รับการเรียกจากเพื่อนร่วมทีมว่าเป็น เอพิคโบรโซ่

อีก 3 วันต่อมา ฤดูกาล 2015/16 เกมโคปป้า อิตาเลีย รอบ 16 ทีมสุดท้ายกับ กายารี่ โบรโซวิช ยิงประตูเดียวเกมที่พบ อูดิเนเซ่ ช่วยให้ทีมชนะด้วยสกอร์ 3-0 ผ่านเข้ารอบควอเตอร์ไฟนอลต่อไป วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปีต่อมา เขาแอสซิสต์ให้ เจสัน มูรีโญ่ ยิงประตูจากการเปิดด้วยลูกเตะมุมในเกมที่พบ เวโรน่า เกมนั้นเสมอกัน 3-3 (เยือน) อีกสองสัปดาห์ต่อมา โบรโซวิช แอสซิสต์ลูกที่สองให้ เมาโร อิคาร์ดี้ ยิงประตูที่ 3 เกมที่ทีมเปิดบ้านชนะ ซามพ์โดเรีย 3-1

วันที่ 2 มีนาคม เกมรอบรองชนะเลิศที่พบ ยูเวนตุส ที่สนามซานซิโร่ โบรโซวิช ยิงประตูได้ด้วยจากลูกโทษ ให้ อินเตอร์ ชนะ ม้าลาย ยูเวนตุส 3-0 สกอร์รวมเป็น 3-3 และต้องมายิงลูกโทษตัดสิน เขายิงลูกโทษตัดสินเข้าไป แต่ว่าสุดท้าย อินเตอร์ มิลาน แพ้ 3-5 ต้องตกรอบไป

มาอยู่ที่ อินเตอร์ มิลาน

โบรโซวิช เปิดฤดูกาลใหม่โดยลงสนาม 20 นาทีสุดท้ายที่ชนะ คิเอโว่ เวโรน่า เขารับใบเหลืองนาที 79 วันที่ 15 กันยายน เป็นเกมแรกในฟุตบอลยูโรป้า ลีกรอบแบ่งกลุ่มที่แข่งกับ อาโปเอล เบียร์เชว่า โบรโซวิช ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงและถูกเปลี่ยนออกในพักครึ่ง

เขาปฏิเสธที่จะนั่งม้านั่งข้างสนามโดยกุนซือ แฟร้งค์ เดอ-บัวร์ ชาวเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่าเขาทำตัวไม่เหมาะกับมืออาชีพจริงๆ ซึ่งเขาต้องถูกลงโทษ ผมไม่ยอมรับการแสดงพฤติกรรมแบบนี้ของเขา

เขาได้ถูกเรียกตัวเข้าสู่ทีมอีกครั้งวันที่ 20 ตุลาคม เกมลีกที่พบ กายารี่ เกมนั้นทีมแพ้ในบ้าน 1-2 โดยที่ไม่ได้ลงสนามเลย อีก 4 วันต่อมาเขาได้ลงสนามเกมที่สามของฟุตบอลยูโรป้า ลีกเกมที่พบ เซาแธมป์ตัน แต่ว่าถูกสองใบเหลืองไล่ออกจากสนาม นาที 77

โบรโซวิช มีฝีเท้าที่พัฒนาขึ้นภายใต้โค้ชคนใหม่ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ เขายิงประตูแรกในฤดูกาล วันที่ 24 พฤศจิกายน เกมที่แพ้ อาโปเอล เบียร์ เชว่า 3-2 ถึงแม้ว่าจะนำไปก่อน 2-0 ในครึ่งแรก ทำให้ทีม งูใหญ่ ตกรอบแรกเป็นที่แน่นอน และเขาได้ยิงประตูในอีก 4 วันต่อมา เป็นการยิงประตูด้วยเท้าขวา จากกรอบเขตโทษ ช่วยให้ อินเตอร์ มิลาน ชนะ ฟิออเรนตินา 4-2 วันที่ 7 ธันวาคม โบรโซวิช ได้ขยายสัญญากับทีมต่อไปจนถึงปี 2021 และได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นด้วย อีก 4 วันต่อมา เขายิงสองลูกเกมที่ อินเตอร์ ชนะ เจนัว 2-0

เขายิงประตูแรกฤดูกาล 2017/18 วันที่ 2 ตุลาคม เกมที่ชนะ 2-1 เหนือ เบเนเวนโต้ ต่อมาวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เกมที่พบ โบโลญญ่า โบรโซวิช ถูกเปลี่ยนตัวออกนาที 58 เนื่องจากเล่นไม่ดี ขณะที่ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม เขาได้รับเสียงโห่จากแฟนบอล และเขาก็ปรบมือประชด ทำให้เขาถูกปรับจากสโมสร ต่อมาเขาได้ลุกออกจากที่นั่งสำรองเกมที่พบ เจนัว และเดินเข้าสนามนาทีสุดท้ายเกมที่พบ เจนัว ต่อมาเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นที่รักใคร่ของแฟนบอลอีกครั้ง เขาได้ลงสนามเกมที่ 100 ในฟุตบอลลีกวันที่ 12 พฤษภาคม เกมที่แพ้ต่อ ซัสซูโอโล่ 1-2 เกมสุดท้ายของฤดูกาล 2017/18 เกมที่แข่งกับ ลาซิโอ้ เขาจ่ายบอลให้ ดานิโล อัมโบรซิโอ ยิงประตู และเปิดลูกเตะมุมครึ่งหลังให้ มาเธียส เวซิโน่ ยิงประตูชัยชนะ 3-2 ให้ทีม งูใหญ่ ได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2018/19 โดยเขายิงได้ 4 ประตู 9 แอสซิสต์ และ 8 แอสซิสต์นั้นเกิดในครึ่งฤดูกาลหลัง โดยเขาลงสนามไปกว่า 31 เกม

ฤดูกาล 2018/19 โบรโซวิช ลงสนามให้ อินเตอร์ มิลาน ในแชมเปี้ยนส์ลีก วันที่ 18 กันยายน เกมแรกของกลุ่ม B โดยทีมกลับมาชนะ สเปอร์ส 2-1 เขายิงประตูแรกของฤดูกาลในอีก 4 วันต่อมา นาที 94 เกมชนะเหนือ ซามพ์โดเรีย ในฟุตบอลเซเรีย อา

ระดับทีมชาติของ โบรโซวิช

ระดับทีมชาติ

โบรโซวิช ลงสนามให้โครเอเชีย ยู18, ยู19,ยู20, และยู 21 โดยเขาลงสนาม 8 เกม 7 ยิง 7 ลูก

วันที่ 31 พฤษภาคม โบรโซวิช ถูกเรียกจาก นิโก้ โควัช กุนซือโครเอเชียให้ติดทีมชาติไปเล่นฟุตบอลโลก 2014 เขาได้ลงสนามเกมแรกวันที่ 7 มิถุนายน เกมที่ชนะเหนือออสเตรเลีย 1-0 เกมที่สนาม เอสตาดิโอ ปาติกู เขาได้ลงสนามในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีก 5 วันต่อมา โดยลงสนาม 26 นาทีสุดท้ายเกมที่แพ้ต่อเจ้าภาพ บราซิล 1-3

ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2014 โบรโซวิช เขาได้ถูกเรียกเข้าแค้มป์ทีมชาติอยู่สม่ำเสมอ และได้ลงแข่งให้ทีมชาติในฟุตบอลยูโร 2016 รอบคัดเลือก โดยลงสนามเคียงข้าง ลูก้า โมดริช และ อิวาน ราคิติช โดยผลัดกันลงสนามหรือลงเล่นมิดฟิลด์สามคนให้ทีมชาติโครเอเชีย เขายิงประตูแรกเกมที่ชนะเหนือ อาเซอร์ไบจาน 6-0 ที่ โอซิเย็ค เขายิงประตูที่สองเกมรอบคัดเลือกที่พบนอร์เวย์ เมื่อเดือนมีนาคม 2015 เขายิงประตูนำ 1-0 จากการยิงลูกเรียกส่งบอลเข้าไปที่มุมขวาของประตู

เดือนพฤษภาคม 2016 โบรโซวิช ได้เล่นในฟุตบอลยูโร 2016 รอบสุดท้าย เขาลงสนามเกมแรก เกมรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม D ที่พบตุรกี โดยลงสนาม 90 นาที เกมนั้นทีมชนะ 1-0 ต่อมาเขายิงประตูให้ทีมตราหมากรุก ได้วันที่ 12 พฤศจิกายน 2016 เกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเกมที่แข่งกับไอซ์แลนด์

เดือนพฤษภาคม 2018 เขามีชื่อเป็น 32 คนสุดท้ายเพื่อลงแข่งฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย

สไตล์การเล่น โบรโซวิช

สไตล์การเล่น

สไตล์การเล่นของ โบรโซวิช ถูกนำไปเปรียบกับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เขาจ่ายบอลได้ดี มีความแข็งแกร่ง เขาเป็นมิดฟิลด์กึ่งกลางสนาม และยังเป็นนักเตะที่ขยันเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนกลางสนาม เขาได้รับการจับตามองว่าจะสืบทอดตำแหน่งของ ลูก้า โมดริช ในทีมชาติโครเอเชียต่อไป

ชีวิตส่วนตัว

เขาแต่งงานกับ ซิลวิย่า โบรโซวิช เมื่อปี 2016 มีลูกสาวหนึ่งคน ชื่อออโรร่า เกิดปี 2017